ได้กล่าวมาในตอนที่แล้วว่า ขณะนี้ทหารที่ดีๆ ในกองทัพรู้ดีว่า คำวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ดี และเป็นไปในทิศทางลบต่อทหารกำลังเกิดขึ้นมากในขณะนี้ เพราะจากการกระทำของทหารที่ไม่ดีแต่กำลังมีอำนาจ ทั้งที่อยู่นอกกองประจำการ หรือยังอยู่ในกองประจำการ ซึ่งประพฤติตนไม่เหมาะสมกับความเป็นทหารของประเทศชาติ
การเป็นทหารที่ดีและเหมาะสมนั้นเป็นอย่างไร ก็ขอให้ระลึกถึงพระบรมราโชวาทของ “จอมทัพ” คือ ร.9 ซึ่งได้พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2499 อันเป็นวันกองทัพบก ดังต่อไปนี้
“...เมื่อทหารมีไว้สำหรับประเทศชาติ ทหารต้องเป็นของประเทศชาติ หาใช่ของบุคคลหรือคณะบุคคลใดๆ โดยเฉพาะไม่ ...ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ปกครองทหารในทางที่ชอบที่ควร โดยระลึกถึงความเที่ยงธรรมและหน้าที่อันมีเกียรติของทหาร ทั้งนี้เพราะทหารได้รับเกียรติและเอกสิทธิ์เป็นผู้กุมอาวุธ และกำลังรบของประเทศ เป็นที่เคารพ เกรงขาม ในหมู่ชนทั่วไป ทหารจึงต้องปฏิบัติให้สมกับที่ตนได้รับความไว้วางใจ ไม่ควรไปทำหรือเกี่ยวข้องในกิจการที่มิใช่อยู่ในหน้าที่โดยเฉพาะของตน เช่น ไปเล่นการเมือง ดังนี้เป็นต้น กระทำเช่นนั้นจะทำให้บุคคลเสื่อมความเชื่อถือในทหาร โดยเข้าใจว่าเอาอิทธิพลไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
เวลานี้สภาพการณ์ทั่วโลกยังไม่อยู่ในระดับปกติ ความจำเป็นและสำคัญของทหารย่อมมีมากขึ้น ทหารจึงควรรักษาวินัยโดยเคร่งครัด ประพฤติตนให้เที่ยงธรรม ปฏิบัติหน้าที่ให้อยู่ในขอบเขตของตนโดยเฉพาะ เพื่อเป็นที่พึ่งที่เคารพของประชาชน...”
นี่เป็นพระบรมราโชวาทของในหลวง ร.9
เนื้อหาดังกล่าวยังคงทันสมัยเหมาะสมในทุกวันนี้
โดยเฉพาะในเรื่องที่ไม่ควรทำในกิจการที่ไม่อยู่ในหน้าที่ของทหาร หรือใช้อิทธิพลไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว อย่างที่กำลังเห็นกันอยู่ในหลายเรื่องขณะนี้
ถ้าจะว่าไปแล้ว ทหารในกองทัพได้รับความเสียหายมาอย่างหนักตั้งแต่สมัย “นักโทษหนีคุก” คนนั้นมีอำนาจทางการเมือง เพราะถูกนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ทางการเมืองของตน หรือใช้เป็นฐานอำนาจคอยสนับสนุนการทำงานของตนให้แข็งแกร่ง ด้วยการแต่งตั้งโยกย้ายเพื่อนร่วมรุ่นและพรรคพวกที่ตนไว้ใจให้เข้าไปดำรงตำแหน่งหน้าที่สำคัญในกองทัพ ใครไม่ใช่พวกจะถูกเตะโด่งไปอยู่ที่อื่น จนกองทัพของประเทศชาติกลายเป็นกองทัพของตน
รวมทั้งองค์กรต่างๆของรัฐในขณะนั้นด้วย ที่มีการขยายฐานแห่งอำนาจของตนเข้าไปใช้เป็นประโยชน์ตนและพรรคพวกตน โดยไม่คำนึงถึงความเป็นนิติรัฐนิติธรรม ตลอดจนหลักการแห่งธรรมาภิบาลในการบริหารปกครองประเทศ
บ้านเมืองของเราขณะนี้ดูแล้วกำลังเป็นอย่างนี้อีก
มีการกระทำหลายอย่างคล้ายคลึงกันในการบริหารบ้านเมือง โดยเฉพาะการแต่งตั้ง โยกย้าย ในการปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรต่างๆของรัฐ รวมทั้งองค์กรทหาร ในสมัยของ “นักโทษหนีคุก” คนนั้น ซึ่งทำให้องค์กรต่างๆ ของรัฐ โดยเฉพาะองค์กรทหารได้รับความเสียหายจนทุกวันนี้
การปฏิรูปกองทัพจึงเป็นเรื่องหนึ่งที่ควรทำ
เพื่อให้คู่ขนานกันไปกับการปฏิรูปองค์กรต่างๆขณะนี้
การปฏิรูปกองทัพก็เพื่อทำให้กองทัพเป็นกองทัพที่ประกอบไปด้วย คุณสมบัติที่ดีต่างๆ ดังพระบรมราโชวาทของในหลวง ร.9 ทรงให้ไว้ดังที่ยกมาให้ฟังข้างต้น โดยเฉพาะในเรื่องของการเป็น “ทหารอาชีพ” ที่ไม่ควรไปทำหรือเกี่ยวข้องกับกิจการอื่นที่ไม่ใช่อยู่ในหน้าที่ตนและปฏิบัติหน้าที่ให้อยู่ในขอบเขตของตนโดยเฉพาะ
ต้องปรับปรุงกระบวนการสำคัญๆบางอย่างในกองทัพ เพื่อให้กองทัพยืนอยู่บนขาตนเอง และทำงานตามภารกิจ หรือตามพันธกิจของกองทัพ โดยเฉพาะในเรื่องต่อไปนี้
1. การจัดสรรงบประมาณของเหล่าทัพ
ไม่ใช่การผูกติดอยู่กับขนาดของกำลังพลในเหล่าทัพแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่การใช้งบประมาณต้องมุ่งประเด็นการพัฒนากองทัพด้วย และต้องวางน้ำหนักในเชิงนโยบายให้ได้ว่า ในแต่ละช่วงเวลานั้นกองทัพมุ่งใช้งบประมาณเพื่อสนองตอบอะไร เหมาะสมหรือไม่กับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเป็นอยู่ ต้องไม่เป็นไป “ตามใจนาย”
2. การแต่งตั้ง และการให้ความดีความชอบ
ในความเป็นกองทัพของทหารอาชีพนั้น การแต่งตั้งและการให้ความดีความชอบ ทหารทุกคนถูกคัดเลือกจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จาก “ลูกนาย” “ลูกเพื่อน” หรือ “ลูกพี่” อย่างที่ได้ยินได้ฟังมาโดยตลอดขณะนี้ การปฏิรูปกองทัพจะต้องทำให้เกิดระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งหรือการเลื่อนยศ ปลด ย้าย ความเป็นทหารอาชีพจึงเกิด
3. ระบบสวัสดิการ
กองทัพประจำการย่อมมีระบบการจ่ายค่าตอบแทนและระบบสวัสดิการรองรับ ไม่ใช่เฉพาะแต่เรื่องเงินเดือนเท่านั้น เพราะกำลังพลจะต้องมีหลักประกันความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ ดูแลครอบครัวที่ยังเหลืออยู่ของพวกเขา หรือมีหลักประกันในเรื่องสวัสดิการ และที่สำคัญก็คือ ผลประโยชน์ในกองทัพจะต้องไม่ถูกแบ่งปันเฉพาะกลุ่มทหารในระดับสูงเท่านั้น
ทั้ง 3 ประการ เป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกในการปฏิรูปกองทัพที่อย่างน้อยสมควรกระทำ ซึ่งอาจจะมีเรื่องอื่นๆตามมาอีกก็ได้ในการทำให้กองทัพเป็นกองทัพของทหารอาชีพ
พูดเรื่องนี้ก็เพราะเห็นว่ากองทัพสมควรปฏิรูปด้วยขณะนี้
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี