สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน แม้กำลังอยู่ระหว่างเจรจารอบที่สามและมีเส้นตายที่จะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 มีนาคม 2562 แต่การขับเคี่ยวกันก็ยังคึกคักและส่งผลกระทบไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกด้วย
ต่อมาสหรัฐได้ขอให้มิตรประเทศในยุโรปและทวีปอื่นๆ เลิกใช้ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยซึ่งเป็นบริษัทสารสนเทศยักษ์ใหญ่ของจีน และผู้บริหารคนหนึ่งก็ถูกจับอยู่ในแคนาดาตามหมายจับของสหรัฐ ทำให้จีนตอบโต้ด้วยการจับกุมบรรดาสายลับและเครือข่ายสายลับของแคนาดาในประเทศจีนกว่า 30 คน และกำลังยักแย่ยักยันกันอยู่ในขณะนี้
ล่าสุดสหรัฐได้แสดงท่าทีที่จะขอให้ประเทศต่างๆ อีกหลายประเทศในโลกซึ่งอาจจะรวมประเทศไทยก็ได้ เพื่อขอความร่วมมือให้เลิกใช้ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย รวมทั้งโทรศัพท์มือถือด้วย ซึ่งทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
สำหรับในยุโรปนั้น ประเทศเยอรมนีซึ่งตอนแรกมีท่าทีจะขานรับข้อเรียกร้องของสหรัฐ แต่ต่อมาก็ประกาศไม่เอาด้วยแล้ว อ้างว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ที่แสดงว่าผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยเป็นอุปกรณ์ที่ขโมยความลับหรือเป็นอันตราย และแน่นอนว่าในไม่ช้าก็จะมีอีกหลายประเทศในยุโรปเอาอย่างเยอรมนี
สำหรับประเทศไทยเมื่อมีข่าวดังกล่าวออกมาและปรากฏในโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลายก็เกิดปฏิกิริยาท่าทีของคนไทยที่แสดงออกถึงการไม่ยอมรับตามข่าวที่เกิดขึ้นนั้น และจำนวนมากกลับแสดงท่าทีที่จะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือจากไอโฟนมาใช้หัวเว่ยด้วยซ้ำไป
ทำให้สงครามการค้าสหรัฐ-จีน เปิดแนวรบเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือขึ้น โดยที่ผู้ผลิตของทั้งหัวเว่ยและไอโฟนไม่ได้เกี่ยวข้องหรือร่วมขบวนการด้วย แต่ต้องได้รับผลโดยตรง ซึ่งเป็นแบบอย่างให้ประเทศต่างๆ ต้องคำนึงให้ดี
กรณีผลกระทบจากสงครามการค้ามาถึงโทรศัพท์มือถือหัวเว่ยและไอโฟนนั้น มีพัฒนาการเป็นลำดับมาดังต่อไปนี้
ประการแรก เริ่มต้นด้วยการที่สหรัฐออกหมายจับผู้บริหารของหัวเว่ย และให้ประเทศแคนาดาทำการจับกุม จากนั้นก็ขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐ จีนจึงตอบโต้ด้วยการสั่งจับพวกสายลับต่างๆ ของแคนาดากว่า 30 คนแล้ว และกำลังยื้อกันอยู่
ประการที่สอง ผู้บริหารหัวเว่ยที่ถูกจับได้แจ้งต่อชาวจีนว่า ไม่ต้องห่วงที่เธอถูกจับ และขอรัฐบาลจีนอย่าได้ถือเธอเป็นอุปสรรคในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ทั้งนี้เธอพร้อมที่จะพลีชีพเพื่อมาตุภูมิจีน สร้างความสะเทือนใจไปทั่วประเทศจีน จึงทำให้บริษัทต่างๆ และประชาชนจีนพากันโกรธแค้นและเลิกใช้ไอโฟน หลายกิจการ และหลายพื้นที่ผู้บริหารองค์กรต่างๆ ขอให้พนักงานเลิกใช้ไอโฟน ถึงขนาดหลายรายลงทุนซื้อหัวเว่ยแจกให้แก่พนักงานเพื่อทดแทนการใช้ไอโฟน
ประการที่สาม ผลจากการแสดงท่าทีของประชาชนจีน ทำให้ยอดขายของไอโฟนตกลงกว่า 30% กระทบต่อราคาหุ้นในตลาดของสหรัฐอย่างรุนแรง บรรดาผู้ถือหุ้นรุมกันก่นด่าว่าฝ่ายบริหารของสหรัฐอย่างสาดเสียเทเสีย ดังนั้น จึงเป็นเหตุให้สหรัฐต้องเอาคืน โดยขอให้มิตรประเทศร่วมมือในการไม่ใช้หรือไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย รวมทั้งโทรศัพท์มือถือด้วย และกำลังขยายจำนวนประเทศเพื่อไม่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย
ประการที่สี่ ประชาชนจีน 1,400 ล้านคน และกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้กว่าครึ่งโลกคงจะสนับสนุนการใช้หัวเว่ย และเลิกใช้ไอโฟนไปตามกระแสขับเคี่ยวของสงครามการค้า ในขณะที่สหรัฐและมิตรประเทศแม้จะพยายามเอาคืน แต่จำนวนประชากรน้อยกว่ากันมาก
และที่สำคัญคือความก้าวหน้าในการพัฒนาของไอโฟนล่าช้าลงไปมาก เทียบไม่ได้กับพัฒนาการของโทรศัพท์หัวเว่ย แม้กระทั่งการใช้กล้องถ่ายภาพซึ่งเป็นความต้องการลำดับต้นของการใช้โทรศัพท์มือถือ ทางหัวเว่ยก็พัฒนาก้าวหน้าไปไกลแสนไกล ไม่ต้องพูดถึงแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้อย่างพอเพียงและเหลือเฟือไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่กันวันละสิบครั้งเหมือนกับยี่ห้ออื่นๆ
ผลกระทบจากการที่ยอดขายไอโฟนตกต่ำลง เป็นเหตุให้ฝ่ายบริหารของไอโฟนต้องยกเลิกการผลิตบางอย่างบางรุ่น รวมทั้งระบบปฏิบัติการบางระดับด้วย จึงยิ่งทำให้ไอโฟนล้าหลังตกรุ่นมากขึ้นไปอีก
และที่สำคัญ ทางจีนไม่ขายผลิตภัณฑ์บางอย่างที่เป็นส่วนประกอบของไอโฟน ทำให้ไอโฟนไม่สามารถผลิตออกสู่ตลาดได้ ดุจดั่งถูกมัดเท้าไว้กับเสา กว่าจะแก้ไขให้คืนดี หัวเว่ยก็คงแย่งตลาดไปหมดแล้ว
และที่สำคัญที่สุดสำหรับตลาดก็คือ ราคาของไอโฟนนั้นสูงมาก แม้ผลิตในจีนเป็นส่วนใหญ่แต่ก็ยังมีราคาสูง ดังนั้น โดยราคาจึงสู้ใครไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อขาดนวัตกรรมใหม่ๆ และความก้าวหน้าถดถอยลงไปไอโฟนก็มีแต่จะตกยุคไปเรื่อยๆ กว่าจะขยับตัวได้ทันก็ยากที่จะแย่งตลาดกลับคืนได้อีกแล้ว
ดูชะตากรรมของไอโฟนแล้วก็คงเดินตามไปในเส้นทางเดียวกันกับโทรศัพท์มือถือ โนเกีย หรือโซนี่ หรือโมโตโรล่าที่เลื่องชื่อลือชาในอดีต แต่มาถึงวันนี้ชื่อเหล่านั้นก็ล่วงลับดับหายไปหมดแล้ว
สภาพดังกล่าวนี้คือบทเรียนและตัวอย่างให้กับประเทศต่างๆ ในการที่จะตัดสินเลือกอนาคตของตนเองว่าจะยอมอยู่ใต้อาณัติของชาติอื่นแล้วถูกรุมกินโต๊ะ หรือว่าจะเป็นอิสระแก่ตัว และสามารถสร้างดุลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้อย่างเหมาะสม
แต่มาถึงวันนี้สำหรับประชาชนไทยแล้ว แทบจะชัดเจนว่าไม่ยอมรับการบังคับของใครที่จะต้องให้ใช้โทรศัพท์ยี่ห้อใด เพราะไทยก็คงเป็นไทอยู่ร่ำไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี