เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา ได้มีประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า เลขาธิการพระราชวังรับพระราชโองการเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ให้ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า โดยที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย
ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา กราบบังคมทูลในนามของปวงชนชาวไทยนั้น ทรงพระราชดำริว่า เป็นโอกาสอันควรที่จะได้ประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามพระราชประเพณี เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลของประเทศชาติและราชอาณาจักร ให้เป็นที่ชื่นชมยินดีของประชาชนผู้มีความหวังตั้งใจอยู่ทั่วกัน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้น ดังนี้
วันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 พระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเสด็จออกมหาสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล จากนั้น พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร
วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 พระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศานุวงศ์ จากนั้น เสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค
วันที่ 6 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท พสกนิกรเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล จากนั้น เสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท คณะทูตานุทูตและกงสุลต่างประเทศเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล
ส่วนการเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีขึ้นในช่วงการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ปลายปีพุทธศักราช 2562
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกันสำนักพระราชวัง 1 มกราคม พุทธศักราช2562 ผู้สนองพระบรมราชโองการฯได้แก่ พลอากาศเอกสถิตพงษ์ สุขวิมลเลขาธิการพระราชวัง
ความหมาย ความสำคัญ ความเป็นมา พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2562 ที่ผ่านมาชาวไทยได้รับข่าวดีอันเป็นมหามงคลรับปีใหม่ เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 นับเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตของคนไทย และอาจจะเป็นเพียงครั้งเดียวในช่วงชีวิตของหลายคนที่จะได้อยู่ในช่วงพระราชพิธีอันสำคัญของชาติไทยเป็นเวลาประวัติศาสตร์อันสำคัญยิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในผืนแผ่นดินไทยเพราะมีความหมายว่าเป็นการสถาปนากษัตริย์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นการประกอบพระราชพิธีสถาปนาพระมหากษัตริย์ หลังจากที่ทรงขึ้นครองราชย์มาก่อนหน้านั้นแล้ว พิธีบรมราชาภิเษก อันเกี่ยวเนื่องด้วยพระมหากษัตริย์มีการกำหนดวาระ และโอกาสไว้ 5 ประการ เรียก “ปัญจราชาภิเษก”ได้แก่
1.อินทราภิเษก หมายถึง การรดน้ำเพื่อเป็นพระอินทร์อันแสดงถึงสถานะของพระมหากษัตริย์ที่มีความยิ่งใหญ่ คือพระราชาธิราช 2.โภดาภิเษก คือ ผู้ที่จะได้เป็นพระมหากษัตริย์นั้นเป็นเชื้อสายตระกูลพราหมณ์มหาศาล เป็นตระกูลมหาเศรษฐี มีโภคทรัพย์บริบูรณ์ พร้อมทั้งมียศ มีบริวาร พรั่งพร้อม นอกจากนี้ ยังเป็นผู้รู้จักในราชธรรมตราชูธรรม และทศกุศล อันจะเป็นประโยชน์ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎร
3.ปราบดาภิเษก คือ ผู้ที่อยู่ในตระกูลกษัตริย์ขัตติยราช มีฤทธิ์อำนาจและความสามารถในการสู้รบชนะข้าศึกศัตรูได้ครอบครองบ้านเมืองและทรัพย์สมบัติทั้งหลาย ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะกล้ำกรายหรือทำอันตรายได้ อย่างไรก็ดี คำว่าปราบดาภิเษกไม่ได้มีความหมายถึงการรบชนะผู้อื่นเพื่อขึ้นครองราชสมบัติเสมอไป แต่ยังหมายถึงการรดน้ำเพื่อขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกับคำว่าราชาภิเษกอีกด้วย
4.ราชาภิเษก คือ การขึ้นเป็นกษัตริย์ของพระราชโอรส เมื่อพระราชบิดา พระราชมารดาทรงพระชราแล้ว บรรดาพระญาติพระวงศ์เห็นสมควรจะยกพระราชโอรสขึ้นเป็นกษัตริย์จึงให้จัดพระราชพิธีราชาภิเษกขึ้น 5.อภิเษกหรืออภิเสก คือ การที่พระราชบิดา พระราชมารดา หาหญิงที่มีตระกูลเสมอกันมาอภิเษกสมรสกับพระราชโอรสซึ่งหญิงนั้นอาจจะมีเชื้อสายกษัตริย์ในแว่นแคว้นอื่นๆ ที่มีวงศ์ตระกูลดี ซึ่งเป็นสวัสดิชาติ
ซึ่งจุลสารการจัดองค์ความรู้ สำนักพระราชวัง ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกไว้ว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษก คือ พระราชพิธีที่แสดงความสมบูรณ์แห่งพระมหากษัตริย์ตามที่กําหนดในโบราณราชประเพณี เป็นแบบแผนอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเป็นประกาศสถานภาพสูงสุดด้านการปกครองในราชอาณาจักรการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมีความสำคัญด้วยนัยที่เป็นพระราชพิธีที่ประกอบขึ้นเพื่อประกาศสถานภาพของความเป็นพระมหากษัตริย์ให้สาธารณชนได้ทราบโดยทั่วกัน
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี