ในขณะที่มีเสียงเรียกร้องเชิงสร้างกระแสจากนักการเมืองว่าต้องปฏิรูปกองทัพ ต้องเลิกการเกณฑ์ทหาร ต้องลดงบการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ และต้องลดจำนวนนายพลในกองทัพไทยลง รวมถึงต้องไม่มีการทำรัฐประหารโดยทหารอีกต่อไป โดยมีนักการเมืองซึ่งมาจากตำรวจบางรายหนักกว่านั้นเข้าไปอีก เพราะเสนอให้ยุบหน่วยงานของกองทัพบางหน่วยทิ้งไป
เมื่อนักการเมืองเรียกร้องเช่นนั้น ก็มีเสียงโต้กลับจากคนไทยกลุ่มใหญ่ว่า นักการเมืองไม่เคยมองความผิดพลาด ความเลวร้าย ความโสโครกโสมม และความคดโกงของตนเองบ้างเลยหรือ ยิ่งนักการเมืองเรียกร้องให้คนอื่นต้องปฏิรูป หรือต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก็หมายความว่านักการเมืองก็ต้องปฏิรูปตัวเองด้วยเช่นกัน การที่คนซึ่งเน่าเหม็นโสโครกเอาแต่ชี้หน้าก่นด่าคนอื่นว่าสกปรกโสโครก ย่อมดูเป็นเรื่องน่าสังเวช และไม่มีใครให้ความเชื่อถือคำพูดของคนโสโครก
อันที่จริงสังคมไทยนั้นมีเรื่องมากมายให้ต้องปฏิรูป และเปลี่ยนแปลง เช่น ปฏิรูประบบการเมือง ปฏิรูปนักการเมือง ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูประบบตำรวจ และรวมถึงระบบทหารหรือกองทัพ
สาเหตุที่ต้องปฏิรูปในสิ่งดังกล่าวก็เพราะทุกระบบที่กล่าวมานั้นล้วนมีจุดอ่อนข้อด้อยด้วยกันทั้งสิ้น แต่หากจะถามประชาชนทั่วไปว่า ระบบใดอ่อนด้อยและเน่าเหม็นสกปรกมากที่สุด คำตอบก็คือระบบการเมืองและตัวนักการเมือง
เมื่อพิจารณาข้อเสียข้อด้อยของนักการเมืองไทย แล้วพบว่ามีมากมายจนเกินกว่าจะสาธยายได้หมดภายในระยะเวลาอันสั้น อาชีพนักการเมืองถูกระบุว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดในการสำรวจความคิดเห็นของคนไทย ดังนั้นเมื่อนักการเมืองเรียกร้องให้หน่วยงานอื่นต้องปฏิรูป จึงทำให้เกิดคำถามกลับว่า ทำไมไม่ปฏิรูปตนเองก่อน
แน่นอนว่าวงการทหารก็มีจุดอ่อนหลายข้อ อาทิ เรื่องงบลับ เรื่องการจัดซื้ออาวุธของกองทัพโดยไม่โปร่งใส ส่วนวงการข้าราชการไทยก็มีจุดอ่อนมากมาย เช่น การปฏิบัติงานโดยไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถแข่งขันกับภาคเอกชนได้ การทุจริตฉ้อฉลโกงกินภายในหน่วยราชการ การเล่นพรรคเล่นพวกเล่นเส้นเล่นสาย ส่วนหน่วยงานของตำรวจก็ยิ่งเป็นที่น่าอิดหนาระอาใจ จนถึงขนาดเป็นที่รังเกียจของประชาชน เนื่องจากความเลวร้ายของตำรวจได้แพร่กระจายไปในสังคมมาอย่างยาวนาน จนถึงกับมีการประณามว่าตำรวจบางคนก็คือโจรในเครื่องแบบ
อย่างไรก็ตาม การประณามแบบเหมาเข่ง หรือการด่ากราดโดยไม่ชี้เฉพาะเจาะจงให้ชัดเจน ย่อมไม่ใช่เรื่องน่าสรรเสริญสำหรับคนผู้มีสติปัญญา เพราะผู้มีปัญญาย่อมต้องระบุให้ชัดว่าแต่ละองค์กรมีข้อบกพร่อง มีจุดอ่อน และมีข้อด้อยตรงไหน
สำหรับผู้มีปัญญาในสังคมไทยต่างเห็นตรงกันว่า นักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ยังมีความสำคัญต่อสังคม โดยจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปมิได้ แต่ในความจริงนั้นแต่ละองค์กรก็มีจุดอ่อนมีข้อด้อยอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น เช่น นักการเมืองถูกมองว่าคดในข้องอในกระดูกโกงกินสารพัด ข้าราชการถูกมองว่าทำงานแบบเช้าชามเย็นชามไม่มีประสิทธภาพ ทหารถูกมองว่านิยมการทำรัฐประหารเพื่อหาอำนาจให้ตนเอง และตำรวจถูกวิพากษ์ว่าเป็นโจรในเครื่องแบบไม่เคยทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่แท้จริง ดังนั้นถ้าหากกำจัดจุดอ่อนของทุกองค์กรได้ จะก่อให้เกิดผลดีอย่างมหาศาลกับสังคมไทย แต่คำถามคือประชาชนตั้งใจจริงที่จะปฏิรูปองค์กรเหล่านั้นหรือ ถึงแม้จะตั้งใจจริง ก็อยากถามว่าประชาชนมีอำนาจจริงหรือ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี