กรณี พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้โต้ตอบคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ที่เสนอนโยบายหาเสียงในการเลือกตั้งโดยจะตัดงบกระทรวงกลาโหมลงประมาณ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ และยกเลิกการเกณท์ทหาร ที่เป็นนโยบายของหลายพรรคการเมืองในการหาเสียงขณะนี้ด้วย โดยพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ โต้ตอบข้อเสนอนี้ในการหาเสียงนี้ว่าให้ไปฟังเพลง“หนักแผ่นดิน” การโต้ตอบของผบ.ทบ.คนปัจจุบันนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ติชมถึงความควรไม่ควรจากหลายฝ่าย ทำให้ผู้เขียนต้องไปศึกษา “ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยข้าราชการกระทรวงกลาโหมกับการเมือง พ.ศ.๒๔๙๙ ที่ตราขึ้นใช้บังคับโดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในขณะนั้นจึงขอนำข้อบังคับนี้ ที่ยังมีผลใช้บังคับถึงปัจจุบันเพราะได้มีการแก้ปรับปรุงใหม่มาแล้วถึงสี่ฉบับและตามกฎหมายว่าด้วยวินัยทหารข้อบังคับนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายวินัยทหารอันเคร่งครัด ผู้ฝ่าฝืนมีโทษที่เรียกว่า “อาญาทหาร”
จึงขอนำข้อบังคับที่มีผลใช้บังคับอยู่ในขณะนี้และบ้านเมืองอยู่ในเทศกาลที่กำลังมีการเลือกตั้งในวันที่ ๒๔ มีนาคมนี้ มาลงไว้ให้ทราบและตระหนักถึงข้อห้าม ดังนี้
ข้อ ๘ กำหนดว่า “ข้าราชการกลาโหมจะต้องไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามดังต่อไปนี้
(๙) ไม่แทรกแซงในทางการเมืองหรือใช้การเมืองเป็นเครื่องมือกระทำกิจการต่างๆ เช่น วิ่งเต้นติดต่อกับสมาชิกสภาผู้แทนหรือสมาชิกวุฒิสภาหรือพรรคการเมือง เพื่อนำร่างพระราชบัญญัติหรือญัตติเสนอสภาผู้แทนหรือวุฒิสภาหรือตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเป็นต้น
(๑๐)ไม่แสดงออกโดยตรงหรือโดยปริยายที่จะเป็นการช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งในระยะเวลาที่มีการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งใดๆในพรรคการเมืองให้กระทำการดังกล่าวนั้นได้ และในทางกลับกันไม่กีดกัน ตำหนิติเตียน ทับถม หรือให้ร้ายผู้สมัครรับเลือกตั้ง
(๑๑) ในระยะเวลาที่มีการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข้าราชการกลาโหม จะต้องไม่แสดงออกโดยตรงหรือโดยปริยายที่จะเป็นการช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้ง และในทางกลับกัน ต้องไม่กีดกันตำหนิติเตียน ทับถม หรือให้ร้ายผู้สมัครรับเลือกตั้ง”
การโต้ตอบของพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ จะเข้าข่ายข้อห้ามนี้หรือไม่อย่างไรโปรดได้พิจารณาวิเคราะห์ดูแต่ขอได้อย่าไปถามพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีหน้าที่รักษาการข้อบังคับฉบับนี้ เพราะท่านก็ให้นักข่าวไปฟังเพลงนี้เช่นเดียวกันโดยตอบว่า “ให้ไปฟังเพลงที่ ผบ.ทบ. บอกให้ฟัง”
ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นทหารที่เกี่ยวข้องกับการเมืองมากที่สุด ท่านคงมองเห็นถึงความเสียหายและผลกระทบถ้าทหารไปเกี่ยวข้องกับการเมือง จึงได้ออกข้อบังคับกระทรวงกลาโหมฉบับนี้เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๙ แต่จะช้าไปหรืออย่างไรไม่ทราบหรือสืบเนื่องจากข้อบังคับดังกล่าวนี้เองเพราะเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๐๐ ภายหลังข้อบังคับนี้ประกาศใช้บังคับได้ไม่กี่เดือนจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้ใต้บังคับบัญชา ลูกน้องคนสนิทที่ท่านไว้ใจมากคนหนึ่ง ก็ยึดอำนาจและขับท่านออกนอกประเทศไป และถึงแก่กรรมที่ประเทศญี่ปุ่น ผู้เป็นพันธมิตรที่แท้จริงของท่านในสงครามโลกครั้งที่สอง ครับ
(ภาพปกหนังสือ “การคลังมหาชน” ที่มีชื่อเสียงมากของศาสตราจารย์ฝรั่งเศส Pierre Lalumiere ที่แสดงให้เห็นถึงภาระและผลกระทบของงบประมาณรายจ่ายต่อประชาชนที่ต้องเสียภาษี อีกภาพหนึ่งเป็นของผู้เขียนเองที่แสดงให้เห็น งบประมาณรายจ่ายในช่วง 5 ปี งบประมาณที่ผ่านมา ตั้งแต่ 2558-2563 ที่จะเสนอต่อสภาผู้แทนชุดใหม่ หลังการเลือกตั้ง และยังไม่ทราบว่าจะเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีผู้ใด ?)
ภาคผนวก
ข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยข้าราชการกลาโหมกับการเมือง พ.ศ. ๒๔๙๙
เนื่องจากคณะรัฐมนตรีลงมติให้ข้าราชการประจำการมีเสรีภาพทางการเมืองทำนองเดียวกับประชาชนทั่วไป และเปิดโอกาสให้เป็นสมาชิกในพรรคการเมืองได้ กระทรวงกลาโหมเห็นควรวางแนวทางการปฏิบัติของข้าราชการกลาโหมที่เกี่ยวกับการเมืองไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย จึงตราข้อบังคับไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยข้าราชการกลาโหมกับการเมือง พ.ศ. ๒๔๙๙”
ข้อ ๒ ให้ใช้ข้อบังคับนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อบังคับทหารว่าด้วยความเกี่ยวข้องระหว่างข้าราชการกลาโหมประจำการกับการเมือง พุทธศักราช ๒๔๘๙ และข้อบังคับทหารว่าด้วยความเกี่ยวข้องระหว่างข้าราชการกลาโหมประจำการกับการเมือง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๔๘๙
ข้อ ๔ ข้าราชการกลาโหมตามข้อบังคับนี้หมายความว่า
(๑) ข้าราชการประจำการในสังกัดกระทรวงกลาโหม ทั้งทหารและพลเรือน เว้นแต่ข้าราชการประเภทการเมือง
(๒) นักเรียนทหาร
(๓) ทหารกองประจำการ
(๔) ลูกจ้างและคนงานสังกัดกระทรวงกลาโหม ทั้งจ้างประจำและจ้างชั่วคราว
ข้อ ๕ ข้าราชการกลาโหมผู้ใดได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกในพรรคการเมืองใดๆ ที่ตั้งขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมายให้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือผู้บัญชาการทหารอากาศ หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหมหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แล้วแต่กรณีเพื่อทราบ
ข้อ ๖ ข้าราชการกลาโหมจะเข้าร่วมประชุมอันเป็นการประชุมของพรรคการเมืองเป็นการส่วนตัวก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องมิใช่ในเวลาราชการ
ความในวรรคก่อนไม่ใช้บังคับข้าราชการกลาโหมที่เป็นวุฒิสมาชิก
ข้อ ๗ ข้าราชการกลาโหมจะต้องปฏิบัติราชการในหน้าที่ หรือเกี่ยวกับประชาชนด้วยการวางตัวเป็นกลาง โดยไม่มุ่งหวังประโยชน์ของพรรคการเมืองใดโดยเฉพาะ แต่ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และไม่กระทำการให้เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย กฎข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง แบบธรรมเนียมของทหาร
ข้อ ๘ ข้าราชการกลาโหมจะต้องไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามดังต่อไปนี้
(๑) ห้ามมิให้ใช้หรือยอมให้ผู้อื่นใช้เขตสถานที่ราชการในกิจการทางการเมือง ไม่ว่าด้วยการกระทำหรือวาจา ยกเว้นสโมสรซึ่งมีระเบียบการให้ใช้ในกิจการต่างๆ ได้เป็นครั้งคราวโดยเสียค่าบริการ
(๒) ไม่วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของรัฐบาลให้ปรากฏแก่ประชาชน
(๓) ไม่แต่งเครื่องแบบซึ่งทางราชการกำหนดไว้ร่วมประชุมพรรคการเมือง หรือไปร่วมประชุมในที่สาธารณะใดๆ อันเป็นการประชุมที่มีลักษณะทางการเมือง
(๔) ไม่ประดับเครื่องหมายของพรรคการเมืองในสถานที่ราชการ หรือในเวลาราชการ หรือในเวลาสวมเครื่องแบบซึ่งทางราชการกำหนดไว้
(๕) ไม่แต่งเครื่องแบบของพรรคการเมืองเข้าไปในสถานที่ราชการทุกๆ แห่ง
(๖) ไม่บังคับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือประชาชนทั้งโดยตรงหรือโดยปริยายให้เป็นสมาชิกในพรรคการเมืองใด และไม่กระทำการในทางให้คุณหรือโทษเฉพาะเหตุที่ผู้อยู่ในบังคับบัญชา หรือประชาชนนิยมหรือเป็นสมาชิกในพรรคการเมืองใดที่ตั้งขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย
(๗) ไม่ทำการขอร้องหรือบังคับให้บุคคลใดอุทิศเงินหรือทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แก่พรรคการเมือง
(๘) ไม่เขียนจดหมายหรือบทความไปลงหนังสือพิมพ์ หรือพิมพ์หนังสือหรือใบปลิว ซึ่งจะจำหน่ายแจกจ่ายไปยังประชาชนอันมีข้อความที่เป็นลักษณะของการเมืองและไม่โฆษณาหาเสียงเพื่อประโยชน์แก่พรรคการเมืองหรือแสดงการสนับสนุนพรรคการเมืองใดๆ ในที่ที่ปรากฏแก่ประชาชน
(๙) ไม่แทรกแซงในทางการเมืองหรือใช้การเมืองเป็นเครื่องมือกระทำกิจการต่างๆ อาทิ วิ่งเต้นติดต่อกับสมาชิกสภาผู้แทนหรือสมาชิกวุฒิสภาหรือพรรคการเมือง เพื่อนำร่างพระราชบัญญัติหรือญัตติเสนอสภาผู้แทนหรือวุฒิสภา หรือตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเป็นต้น
(๑๐) ไม่แสดงออกโดยตรงหรือโดยปริยายที่จะเป็นการช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งในระยะเวลาที่มีการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน เว้นแต่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งใดๆ ในพรรคการเมืองให้กระทำการดังกล่าวเช่นนั้นได้ และในทางกลับกันไม่กีดกัน ตำหนิติเตียน ทับถม หรือให้ร้ายผู้สมัครรับเลือกตั้ง
(๑๑) ในระยะเวลาที่มีการสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิสภาผู้แทนราษฎรไม่แสดงออกโดยตรงหรือโดยปริยายที่จะเป็นการช่วยเหลือส่งเสริม
สนันสนุน ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และในทางกลับกัน ไม่กีดกันตำหนิติเตียน ทับถม หรือให้ร้ายผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๔๙๙
(ลงชื่อ)
จอมพล ป. พิบูลสงคราม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ศาตราจารย์ พิเศษ ดร.ปรีชา สุวรรณทัต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี