แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...nn
ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ได้รับการออกแบบสุดแสนจะล้ำลึก ยากเกินจินตนาการ กลายเป็นว่า พรรคการเมือง “ขาใหญ่” ที่สุดน่าจะเป็นสว. ที่มีเสียงถึง 250 เสียง...
nn มีอำนาจใหญ่โตระดับบิ๊กเบิ้ม เพราะรัฐธรรมนูญ ถูกออกแบบมาให้มีสิทธิ์มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย...
nnสมัยก่อนๆ สว.หรือสมาชิกวุฒิสภา ผู้ทรงเกียรติ ถูกค่อนขอดว่าเป็น “ฝักถั่ว”ยกมือ ซ้ายหันขวาหันตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ ส่วนยุคนี้ อาการจะหนัก มีก็ได้ไม่มีก็ได้ เหมือนสมัยก่อนๆ หรือไม่นั้น “คชสีห์” ไม่อยากติเรือทั้งโกลน เพราะยังไม่ทันจะได้เห็นโฉมหน้าค่าตาอย่างเป็นทางการของสว.ทั้ง 250 คน แต่ที่มันเริ่มจะกลายเป็นประเด็น พูดคุยกันหนาหูมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ หัวหน้าคสช. ซึ่งก็คือ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะเป็นคนดีดนิ้ว มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการเลือกสว. และที่นินทากันหนักก็คือ “พล.อ.ประยุทธ์” ดันไปมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ...nn เรื่องของเรื่อง มันเลยกลายเป็นงูกินหาง เพราะกลายเป็นว่า “พล.อ.ประยุทธ์” เลือกสว. เพื่อที่จะให้สว. กลับมาเลือก “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกรัฐมนตรี!!...
nn อันเสียงร่ำลือ ติฉินนินทานี้ “คชสีห์” ว่า จะไปโทษ หรือโยนผิดให้ “พล.อ.ประยุทธ์” มันก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก เพราะมันต้องย้อนไปดูกันตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งก็คือ คณะกรรมการร่ารัฐธรรมนูญ(กรธ.) ชุดของ “มีชัย ฤชพันธ์ุ” ที่ออกแบบรัฐธรรมนูญมาอย่างนี้...
nn ที่สำคัญ รัฐธรรมนูญปี 2560 นี้ ยังผ่านการทำประชามติจากประชาชนทั้งประเทศมาแล้ว ฉะนั้น การให้อำนาจสว.มีสิทธิ์ในการเลือกตัวนายกรัฐมนตรี จะเป็นจุดแข็งหรือจุดด้อยนั้น “คชสีห์” ไม่มีความเห็น แต่ถ้าจะเล่นกันใน “กติกา” ก็ต้อง “อยู่ร่วม”กับมันให้ได้!!...
nn พิจารณากันง่ายๆ สภาผู้แทนราษฎร มี 500 เสียง แบ่งเป็นสส.เขตเลือกตั้ง 350 เสียง และสส.บัญชีรายชื่อ 150 เสียง รวมกับสว.อีก 250 เสียง เท่ากับว่า รัฐสภาจะมีสมาชิกรวม 750 เสียง ขณะที่รัฐธรรมนูญ ระบุว่า การเลือกนายกรัฐมนตรี จะต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ซึ่งเท่ากับ 376 เสียง...
nn ที่สำคัญ มันไม่มีมาตราไหนในรัฐธรรมนูญ กำหนดเอาไว้ชัดเจนหรือตายตัวว่า พรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งเท่านั้นที่จะได้จัดตั้งรัฐบาล หรือตัวแทนของพรรคได้เป็นนายกรัฐมนตรี...
nn ฉะนั้น นั่นหมายความว่า เมื่อรัฐธรรมนูญเขียนเอาไว้อย่างนี้ คนที่จะได้เป็นนายกฯ หากไม่ใช่บุคคลที่ได้รับการสนับสนุนจากสว.ที่คัดเลือกโดยหัวหน้าคสช. ก็ถือว่ายากแสนยาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเท่ากับว่า มีคะแนนตุนเอาไว้แล้วถึง 250 เสียง รอเสียงจากสภาผู้แทนราษฎรอีกแค่ 126 เสียง ก็สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้แล้ว…พูดกันให้ชัด ต่อให้พลังประชารัฐ ไม่ได้ชนะเลือกตั้งอันดับหนึ่ง แต่ถ้าพลังประชารัฐ ได้เสียง 126 เสียง หรือไปรวมกับพรรคการเมืองอื่นให้ได้มากกว่า 126 เสียง บวกกับสว.อีก 250 เสียง นายกรัฐมนตรีคนต่อไปก็จะเป็นคนหน้าเดิมที่ชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”...
nn ช่วงนี้ จึงจะเห็นได้ว่า มีเสียงท้วงติงออกมาจากพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ใช่พลังประชารัฐ พยายามจะจับสว.ทั้ง 250 คนให้นั่งตัวตรงๆ เป็นกลางให้ได้ ตัวอย่างเช่น “องอาจคล้ามไพบูลย์” จากประชาธิปัตย์ เห็นว่ากรณีนี้คือเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างชัดเจน เป็นการใช้อำนาจที่ก่อให้เกิดความไม่ชอบธรรม”...
nn พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. แต่งตั้ง สว. และ สว. มีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ สว.จะเลือกคนที่แต่งตั้งตนเองให้ได้เป็น สว. คือ เลือก พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง โดยเฉพาะในกรณีที่พรรคการเมือง ที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ รวมเสียง สส. ได้ไม่ถึงครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร สว. ก็ไม่ควรสนับสนุนบุคคลที่ได้เสียงข้างน้อย ในสภาผู้แทนราษฎรให้จัดตั้งรัฐบาล แต่ สว. ควรสนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มีพรรคการเมืองสนับสนุนเกินกว่าครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเท่ากับ สว. เคารพเสียงของประชาชน...
nn ฟังเสียงจากพลังประชารัฐกันบ้าง “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิการพรรค ย้ำว่า “กลไกการจัดตั้งรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญหลังการเลือกตั้ง จุดยืนของพลังประชารัฐเคารพในกติกาของรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะต้องมีเสียงข้างมากในสภา หากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง เพราะเราต้องการให้รัฐบาลเข้มแข็งเพราะมีเสียงข้างมาก ส่วนกลไกเลือกนายกฯ อยู่นอกกระบวนการของพลังประชารัฐ เพราะเป็นกลไกรัฐสภาทั้งหมด การที่จะเอา สว. 250 มาเลือกนายกฯ พรรคพลังประชารัฐไม่ได้มีส่วนร่วมกลไกนั้น”...
nn ใครอ่านแล้วไม่เข้าใจ “คชสีห์” ขออธิบายแทนว่า พลังประชารัฐ ยืนยันว่า พรรคที่จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก็คือ ต้องมากกว่า 250 เสียง แต่เป็นคนละเรื่องกับการเลือกตัวนายกรัฐมนตรี ที่ต้องอาศัยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภาที่มีอยู่ 750 เสียง ซึ่งก็คือ 376 เสียง!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี