อาการป่วยของคนเรานั้นมีสารพัดอย่าง ทั้งป่วยเรื้อรังรักษาไม่หายและอาการป่วยที่ไม่เรื้อรังรักษาหาย ซึ่งเป็นได้ทั้งโรคประจำและโรคที่ไม่เป็นประจำ
โรคที่พบเป็นประจำ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคปอด โรคกระเพาะ โรคตับไต โรคอ้วน โรคจิตประสาทเสื่อม
โรคที่พบไม่เป็นประจำ เป็นโรคที่เกิดกับบุคคลบางคนเท่านั้น ไม่ได้เกิดกับทุกคน เช่น โรคกลัวความสูง เป็นต้น หรือโรคที่เกิดกับคนบางคนที่กลัวการถูกตรวจสอบความผิดของตน โดยเฉพาะพวกนักการเมืองหรือผู้มีอำนาจในการบริหารงาน
ยิ่งผู้ได้อำนาจมาจากกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง คือยึดอำนาจมาใช้เป็นของตนเองด้วยแล้ว จะมีอาการผิดปกติไปจากคนธรรมดา ไม่ว่าความผิดปกติทางความคิด ทางพฤติกรรม และทางอารมณ์
ตาขวางระเบิดอารมณ์อย่างไร้เหตุผลในบางครั้งบางคราว เอะอะหรือพูดจาในคำพูดที่ไม่สมควรจะพูด หลงผิดจากข้อเท็จจริงเพราะความระแวงว่าเขาด่าเขาว่า แม้ในบางขณะจะพูดคุยกันรู้เรื่องก็ดี คนอย่างนี้ก็จัดอยู่ในประเภทคนป่วยทางจิตประสาท
คนที่มีอาการป่วยอย่างนี้ไม่เหมาะที่จะเลือกมาเป็นผู้บริหาร
โดยเฉพาะการบริหารประเทศชาติบ้านเมือง
เพราะเป็นคนไม่สมบูรณ์ทางจิตใจ หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ในการทำงาน อนาคตของชาติบ้านเมืองจะสุ่มเสี่ยงต่อความถูกต้อง ขยายความแตกแยกให้เกิดขึ้นในหมู่ผู้คนในบ้านเมืองได้ง่าย
บ้านเมืองเราถ้ามีคนอย่างนี้มาบริหาร ไม่ว่าจะมาจากระบบที่วางไว้ในทางการเมืองการปกครอง หรือมาจากการยึดอำนาจ บ้านเมืองเราก็ย่ำแย่
เพราะมีอำนาจเมื่อไรก็จะเป็นคนอย่างที่ว่ามา
คือเป็นคนป่วยอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่สบอารมณ์ขึ้นมา
ถ้าเป็นเด็กเล็กจะเรียกเด็กประเภทนี้ว่าเป็นเด็กงอแง
แม้จะเป็นเด็กโตก็เป็นเด็กโตที่งอแง
เด็กเล็กที่ชีวิตขาดพ่อแม่ หรือพ่อแม่ที่มีปัญหาระหว่างกัน หรือพ่อแม่ที่มีปัญหาในการทำงานจนไม่มีเวลาดูแลลูก เด็กเล็กดังกล่าวนี้จะมีอาการผิดปกติทางจิต ทางร่างกายและทางสติปัญญา ทั้งความเจริญเติบโตทางร่างกายและทางจิตใจ
ในเด็กโตก็เช่นเดียวกัน อาการผิดปกติทางจิตจะออกมาในรูปของความประพฤติ เกะกะระรานผู้อื่น ชอบรังแกเพื่อน ดื้อรั้น ขัดขืน มีอารมณ์ผิดปกติ เรียนไม่ดี จับพลัดจับผลูเมื่อโตขึ้นมาได้อำนาจขึ้นมา อาการผิดปกติที่สะสมมาแต่เด็ก ยิ่งจะแสดงออกมากขึ้น
ถ้าบ้านเมืองต้องมีคนป่วยมาบริหารประเทศ หากจะมีคนคอยช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาดีๆ ร่วมช่วยเหลืออยู่ด้วย การทำงานก็อาจจะไม่เลวจนเกินไปก็ได้ ถ้าเป็นคำแนะนำที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการให้เกิดขึ้นได้กับส่วนรวม ไม่ใช่เกิดประโยชน์เฉพาะพวกใดกลุ่มใด
พูดง่ายๆก็คือมี “ตัวช่วย” ที่คอยประคับประคองอยู่
ถ้าได้ “ตัวช่วย” ที่ดี ทุกอย่างก็จะเดินหน้าไปด้วยดี เป็นประโยชน์ทั้งแก่ประชาชนและประเทศชาติ แต่ถ้าได้ “ตัวช่วย” ที่ไม่ดี ประเทศชาติและประชาชนก็ลำบาก ยืนอยู่ต่อไปด้วยความลำบาก เพราะผลประโยชน์ทั้งหลายไม่เกิดขึ้นกับส่วนรวม
มองเข้าไปในการบริหารจัดการบ้านเมืองในขณะนี้แล้ว ไม่ว่าใครก็มองออกว่าบ้านเมืองเป็นอย่างไร มี “คนป่วย” ดังกล่าวมาเป็นผู้บริหารหรือเปล่า
โดยเฉพาะ “มิติแห่งความมั่นคง” ของประเทศ
การทำงานทุกด้านทุกมิติแห่งความมั่นคงของบ้านเมืองทั้ง 5 ด้าน ซึ่งได้แก่ มิติความมั่นคงทางด้านการทหาร มิติความมั่นคงทางด้านการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มิติความมั่นคงทางเศรษฐกิจ มิติความมั่นคงทางสังคม และมิติความมั่นคงทางด้านต่างประเทศ ซึ่งทั้ง 5 มิติความมั่นคงดังกล่าวในขณะนี้เป็นอย่างไร เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมของประเทศและประชาชนคนไทย จริงจังมากน้อยแค่ไหนนั้น ทุกคนรู้ดี
สถานการณ์ของบ้านเมืองเราในขณะนี้ยังคงมีปัญหาแทบทุกมิติแห่งความมั่นคงดังกล่าวทุกอย่าง ในลักษณะที่เรียกได้ว่า “ยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปากอุโมงค์” นั่นเอง ผู้ถืออำนาจรัฐในขณะนี้ต้องพึงตระหนักให้มากที่สุด
การทำงานทุกด้านทุกมิติดังกล่าว ต้องกระทำอย่างไม่ใช่คนป่วยที่ “เกาไม่ถูกที่คัน” โดยเฉพาะต้องมีความปรารถนาดีและบริสุทธิ์ใจต่อประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่าปรารถนาดีเฉพาะกลุ่มเฉพาะพวกเฉพาะรุ่น
มาเพียงชั่วคราว เมื่อหมดอำนาจหน้าที่ ต้องนึกอยู่ตลอดเวลาว่า ออกไปเดินอยู่ในท้องถนนแล้วมีคนยกมือไหว้ ทักทายอย่างมิตร หรือมีแต่คนเบือนหน้าหนี ไม่อยากพบ ไม่อยากเห็น เหมือนพวกนักการเมืองเลวๆในอดีตที่ผ่านมา
เลือกทางเดินให้ถูกตั้งแต่บัดนี้
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี