คดีทุจริตรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่งผลให้เกิดความเสียหายด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทยมากหลายแสนล้านบาท เรื่องนี้สำหรับผู้มีสติปัญญาแล้วย่อมไม่ปฏิเสธ นอกจากไม่ปฏิเสธแล้วยังพยายามเรียกร้องให้นำตัวผู้ก่อการทุจริตกลับมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้ได้อีกด้วย
หากตามกระแสความคืบหน้าของข่าวทุจริตการรับจำนำข้าวก็จะทราบว่าคดีนี้เริ่มงวดขึ้นทุกขณะ แต่ที่มากกว่านั้นคือผู้ที่ถูกจับกุมตัวฐานะร่วมกระทำผิดในคดีนี้ได้ซัดทอดชัดเจนว่ามีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง โดยผู้บงการทั้งสามรายนั้นเป็นชายหนึ่ง และหญิงสอง โดยทั้งสามคนนี้เป็นพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน
เมื่อพูดเช่นนี้ ผู้ที่ติดตามคดีนี้มาอย่างใกล้ชิดต้องนึกหน้าของสามพี่น้องในครอบครัวที่ก่อเหตุทุจริตคดีจำนำข้าวได้อย่างเด่นชัดโดยทันที และทุกคนที่ตามเรื่องนี้ก็ต้องทราบดีเช่นกันว่าคดีทุจริตจำนำข้าวเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใด แล้วก็รู้ด้วยว่าพรรคการเมืองนั้นยังคงลงแข่งขันในการเลือกตั้งสส. ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ด้วย
มีคำถามว่า ทำไมสามพี่น้องในครอบครัวที่คอการเมืองทุกคนรู้จักดีจึงต้องหนีออกจากประเทศไทย ทำไมไม่ยอมกลับมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย
แน่นอนว่าสามพี่น้องในตระกูลนี้ชอบกล่าวหาเพื่อเอาตัวรอดว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าไว้วางใจ และไม่เป็นกลาง ไม่มีมาตรฐาน
แต่คนที่รู้ทันกลโกงของพี่น้องตระกูลนี้ย่อมทราบดีว่า นั่นคือคำแก้ตัวที่หาสาระมิได้ของพี่น้องในตระกูลโกง ทั้งๆ ที่คนโกงกลุ่มนี้ก็ไล่ฟ้องร้องผู้อื่นตามกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน แล้วหลายๆ คดีที่คนโกงฟ้องร้องก็ถูกศาลสถิตยุติธรรมพิพากษาว่าคนโกงที่เป็นผู้ฟ้องร้องมีชัยชนะในคดีต่างๆ แต่ครั้นเมื่อตนเองถูกศาลสถิตยุติธรรมพิพากษาว่าตนเองกระทำผิด ก็กลับโจมตีว่าศาลสถิตยุติธรรมของไทยไม่เป็นกลาง ไม่มีมาตรฐาน นั่นแสดงให้เห็นว่าคนโกงกลุ่มนี้จะเชื่อศาลก็ต่อเมื่อศาลตัดสินว่าตนเองเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดในคดีทุจริตจำนำข้าวสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความน่าสนใจมากที่สุดตรงที่คำพูดของ บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยบุญทรงบอกว่า บุญคุณกูใช้ไปหมดแล้ว (อ้างอิงจากเฟซบุ๊คของเสริมสุข กษิติประดิษฐ์) แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ บุญทรงซัดทอดชัดเจนว่าทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยทั้งสองรายมีส่วนสั่งการในการทุจริตคดีดังกล่าว มิแค่เพียงเท่านั้น ยังซัดทอดไปถึง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ แดง เจ้าแม่กลุ่มวังบัวบานอีกด้วย
ข้อเท็จจริงที่ไม่มีใครปฏิเสธอีกต่อไปคือ ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หนีคดีออกจากประเทศไทยไปแล้ว โดยทักษิณหนีไปนานหลายปีแล้ว ส่วนยิ่งลักษณ์เพิ่งหนีไปเมื่อปีกลาย ส่วนที่ยังเป็นคำถามกันจนถึงทุกวันนี้คือ แล้วเจ้าแม่วังบัวบาน เยาวภาไปอยู่ที่ไหน แต่คนที่ติดตามสถานการณ์การเมืองไทยต่างเชื่อเหมือนๆ กันว่า เยาวภาหนีออกจากไทยไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 แล้ว เพราะจนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีใครพบหน้าค่าตาของเยาวภาเลยแม้แต่คนเดียว แม้กระทั่งผู้สื่อข่าวถามเรื่องนี้จากสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีของเยาวภา ก็ไม่มีคำตอบชัดเจนว่าเยาวภาอยู่ที่ไหน เพียงแต่สามีของเยาวภาบอกว่าเยาวภาไม่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตจำนำข้าว
วันนี้พิษภัยและความเสียหายมหาศาลอันเกิดมาจากการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดยังคงทำให้ประเทศไทยเสียหายอย่างหนัก จนยากจะเยียวยาให้หายได้ คนผู้กระทำผิดในคดีนี้ซึ่งถูกจับกุมไปแล้ว ก็เป็นแค่เพียงผู้ร่วมขบวนการ แต่สิ่งที่สาธารณชนไทยกำลังเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดก็คือ เมื่อไรจะสามารถนำตัวผู้บงการคดีจำนำข้าวกลับมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมได้
คดีทุจริตจำนำข้าวทำให้ประเทศไทยเสียหายอย่างน้อย 5 แสนล้านบาท ผู้รับกรรมจากคดีนี้คือคนไทยทั้งประเทศ ที่ต้องใช้หนี้ต่อไปอีกอย่างน้อย 16 ปี ส่วนคนโกงกินยังคงหนีคดีไปเรื่อยๆ โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะนำตัวกลับมาชดใช้ความผิดที่ได้ก่อไว้เมื่อไร แต่แม้ยังไม่สามารถนำตัวคนโกงคดีทุจริตจำนำข้าวกลับมาลงโทษได้ในวันนี้ แต่ประชาชนก็ยังคงเรียกร้องให้นำตัวคนโกงกลับมาลงโทษให้จงได้ พร้อมกับตั้งคำถามไปยังเหล่านักการเมืองที่กำลังหาเสียงว่า มีพรรคไหนบ้างไหมที่กล้าประกาศว่าจะนำตัวคนโกงคดีทุจริตจำนำข้าวกลับมาดำเนินคดีให้ได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี