แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn ในอันที่จะทำงานของตนให้ประสานกับงานอื่น และประสานกับฝ่ายอื่น บุคคลอื่น จะปฏิบัติตัว ปฏิบัติงานอย่างคับแคบมิได้เป็นอันขาด ท่านจะต้องทำตัว ทำใจให้กว้างขวาง หนักแน่น และเที่ยงตรง ยึดถือเหตุผลความถูกต้อง ความพอเหมาะพอควร และประโยชน์ส่วนรวมร่วมกันเป็นเป้าหมาย… (พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2527)...
nn นับว่าเป็นองค์กรภาครัฐที่ใช้เลขาธิการเปลืองมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุคคสช. องค์กรที่ว่านั้นคือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟองเงิน (ปปง.) เพราะในเวลาเกือบๆ 2 ปี ปปง. มีการเปลี่ยนตัวเลขาฯ ไปแล้ว 4 ราย ล่าสุดเมื่อสองวันก่อนประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ให้รุ่งโรจน์ แสงคร้าม พ้นจากตำแหน่งรักษาราชการเลขาฯปปง. เรียบร้อยแล้ว โดยให้เหตุผลว่า รุ่งโรจน์ ทำภารกิจสำเร็จแล้ว ดังนั้น จึงให้กลับไปทำหน้าที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามเดิม สำหรับ รุ่งโรจน์ นั้นเข้ารับตำแหน่งรักษาการเลขาฯปปง. เมื่อ 17 ธันวาคม 2561 อยู่ในตำแหน่งนี้เพียง 2 เดือนครึ่งเท่านั้น...
nn คนที่ตามเรื่องราวของปปง. ย่อมทราบดีว่านับจากสีหนาท ประยูรรัตน์ ถูกปลดจากตำแหน่งเลขาฯปปง. เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 เลขาฯปปง. คนใหม่ก็ชื่อ รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รายนี้อยู่ตำแหน่งได้ปีเศษก็เด้งไปเมื่อ 14 สิงหาคม 2561 จากนั้น ปรีชา เจริญสหายานนท์ ก็เข้ามารักษาการในตำแหน่งเลขาฯ แล้วก็เด้งไปเมื่อ 19 สิงหาคม 2561 จากนั้นก็เป็นคิวของ รุ่งโรจน์ แสงคร้าม แต่ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งรักษาการเลขาฯ ไปหมาดๆ...
nn ข่าววงในเขาร่ำลือกันหนาหูว่ามีเรื่องไม่สู้จะปกตินักในปปง. คนที่รู้เรื่องในองค์กรนี้ต่างตั้งคำถามถึงคดีของเสี่ยใหญ่เจ้าของซ่องวิคตอเรียผู้ให้เงิน สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยืมตั้งหลายร้อยล้าน และยังมีการถามถึงเรื่องหุ้นโพลารีสที่เขาว่าพัวพันกับเมียตำรวจใหญ่นายหนึ่งอีกด้วย เรื่องแบบนี้คนวงในบอกว่านายกฯประยุทธ์คงจะทราบดี แต่ก็มีคำถามว่าทำไมขุดรากถอนโคนปัญหาภายในไม่ได้ มันติดมันขัดที่ตรงไหนมิทราบ แต่ที่ปิดกันไม่มิดคือคนวงในรู้ดีว่าชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล อดีตเลขาฯปปง. ยังคงมีฤทธิ์มีเดชอยู่ในองค์กรแห่งนี้มากมายมิใช่น้อย...
nn เรื่องดราม่าและเรื่องเงินๆ ทองๆ ภายในสถานีโทรทัศน์ช่องเก้า อสมท ยังคงเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะในยุคแดนสนธยา หรือในยุคเกือบจะสว่าง ก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องประหลาด ล่าสุดมีการสั่งห้ามนักข่าวสาวใหญ่รายหนึ่งในช่องเก้า (มีสามีเป็นนักข่าวชั้นเก๋าในสำนักพิมพ์หัวสียักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่ง) ทำรายการสัมภาษณ์พิเศษที่เรียกว่า debate นักการเมือง แต่ก็ยังอนุญาตให้นักข่าวสาวใหญ่ผู้นั้นทำหน้าที่อื่นๆ ในช่องเก้าได้ต่อไป แต่ที่น่าตลกคือการที่สมาคมวิชาชีพนักข่าววิทยุโทรทัศน์ออกมาตีโพยตีพายว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรม เรื่องนี้เข้าข่ายปิดกั้นเสรีภาพการทำอาชีพนักข่าว เมื่อมีข่าวนี้โผล่ออกมา ก็ทำให้มีคำถามยิงกลับไปยังสมาคมนักข่าวจำพวกผลัดกันเกาหลัง ลูบหน้าปะจมูก และผลัดกันเข้าไปกินตำแหน่งในสมาคม ว่า แล้วทำไมเมื่อนักข่าวรายอื่นๆ ซึ่งถูกทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งเถลิงอำนาจรัฐสั่งปลดแบบฟ้าผ่า เพราะไม่พอใจมากที่บังอาจรายงานสดการประท้วงครั้งประวัติศาสตร์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยอ้างว่านี่เป็นทีวีของรัฐ แต่ไฉนจึงรายงานข่าวของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล น่าอัศจรรย์ใจที่การปลดบรรณาธิการข่าวในครั้งนั้นไม่ได้รับความสนใจจากสมาคมวิชาชีพข่าวใดๆ แม้แต่น้อย แต่ทำไมในยุคคสช.ครองเมือง สมาคมวิชาชีพข่าวจึงร้อนรนออกมาเรียกร้องหาความเป็นธรรม ขออภัยนะ คนข้างนอกอาจจะไม่รู้ความเน่าหนอนของสารพัดสมาคมวิชาชีพสื่อฯ แต่คนในวงการสื่อฯ ต่างรู้ดีว่าเน่าเฟะ แล้วก็รู้ด้วยว่าบางคนก็หากินกับสมาคมวิชาชีพสื่อฯ แบบผูกขาดมานานหลายทศวรรษ...
nn มีสื่อฯ รายหนึ่งตั้งคำถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่ดารา นักแสดง นักร้อง ให้การสนับสนุนรัฐบาลคสช. โดยดารานักแสดง
บางคนบอกว่าไม่ต้องเลือกตั้งก็ได้ ซึ่งดาราเหล่านี้เคยร่วมประท้วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนนำไปสู่รัฐประหาร 2557 แหม! เมื่อดูคำถามแล้ว บอกได้คำเดียวว่า ด่ากันตรงๆ เสียก็หมดเรื่อง จะถามไปเพื่ออะไร แบบนี้เขาไม่เรียกคำถามชี้นำหรอก เขาเรียกว่าฟันธงไปแล้ว ในเมื่อสื่อฯ เป็นแบบนี้เสียแล้ว ก็จึงมีคำถามว่า จะทนทำอาชีพสื่อฯ ไปเพื่ออะไร น่าจะไปรับจ้างทำข่าวประชาสัมพันธ์ให้ฝ่ายต่อต้านคสช. เสียให้รู้แล้วรู้รอด ที่สื่อฯ ยังเลือกข้างได้ แล้วทำไมดารา นักร้องจะเลือกข้างไม่ได้ หรือสื่อฯ จะผูกขาดการเลือกข้างไว้คนเดียว เรื่องแบบนี้ทำไมสมาคมวิชาชีพสื่อฯ หุบปากนิ่ง ทำไมไม่ออกมาเคลื่อนไหวบ้าง...
nn ข้ามไปซาอุดีอาระเบีย ไปดูข่าวทางการซาอุฯ ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า ได้ถอดถอนความเป็นพลเมืองซาอุฯ จากฮัมซา บิน ลาเดน วัย 29 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของอุซามะห์ บิน ลาเดน หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัล-เคดา โดยระบุว่า ฮัมซา มีแนวโน้มว่าได้สืบต่อตำแหน่งแกนนำกลุ่มก่อการร้ายนี้ต่อจากไอมาน อัล ซาวาฮิรี ทั้งนี้ ฮัมซาถูกห้ามเดินทาง ถูกอายัดทรัพย์สมบัติ และถูกห้ามค้าขายอาวุธสงครามด้วย โดยเรื่องนี้ได้รับความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแล้ว แต่ที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าคือไม่มีใครรู้ว่า ฮัมซา อยู่ที่แห่งใด ส่วนกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ประกาศให้รางวัล 1 ล้านดอลลาร์ กับผู้ที่สามารถชี้เบาะแสของฮัมซาได้...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี