เหงือกกับฟันเป็นของคู่กันในชีวิตของคนและสัตว์ เหงือกเป็นพื้นฐานสำคัญในการตั้งอยู่ของฟัน และฟันเป็นพื้นฐานสำคัญในการเคี้ยวอาหารไปหล่อเลี้ยงชีวิต ถ้าสิ่งใดสิ่งหนึ่งดังกล่าวชำรุด เสียหาย ทำงานไม่ได้หรือทำงานได้ไม่สมบูรณ์แล้ว ชีวิตที่ยืนอยู่ย่อมต้องประสบกับความยากลำบากจากสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิตดังกล่าว
เป็นสัจธรรมที่ไม่เปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะเหงือกซึ่งเป็นพื้นฐานในการตั้งอยู่ของฟัน ถ้าเหงือกไม่ดีเพราะมีโรคบางอย่างเกาะกินจนอักเสบหรือบวมแล้ว ย่อมส่งผลกระทบไปถึงฟันที่มีรากเกาะเกี่ยวอยู่กับเหงือกด้วย จะทำให้ปวดฟัน จะกินอะไรจะเคี้ยวอะไรก็ไม่สะดวก ส่งผลไปถึงอาหารที่จะกินไปหล่อเลี้ยงร่างกายด้วย ร่างกายโดยรวมก็จะไม่แข็งแรง ชีวิตก็อ่อนแอหรือเจ็บไข้ได้ป่วย
แม้กระทั่งฟันก็เช่นเดียวกันที่ต้องเป็นฟันที่ไม่ผุ ไม่มีโรคมาเกาะกินจนกระทบไปถึงเหงือกจนเกิดการอักเสบไปทั้งสองอย่าง ทำหน้าที่ของตนไม่ได้หรือไม่สมบูรณ์ ก็จะส่งผลกระทบโดยรวมไปถึงชีวิตได้เช่นเดียวกัน
ยกเรื่องของเหงือกกับฟันมาพูดในวันนี้ ก็เพื่อเป็นตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นว่า ประเทศชาติบ้านเมืองโดยรวมนั้น พื้นฐานสำคัญต่างๆอันเป็นที่ตั้งอยู่ได้ของประชาชนนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเป็นอยู่ในชีวิต ถ้าพื้นฐานดี พื้นฐานแข็งแรง ประชาชนก็มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย เหมือนเหงือกที่แข็งแรง ฟันก็อยู่ได้อย่างแข็งแรงเช่นเดียวกัน
และในทางกลับกัน ถ้าฟันไม่แข็งแรงเพราะมีโรคนั้น โรคนี้เกาะกินฟัน จนทำให้ฟันผุ ฟันกร่อน ย่อมส่งผลกระทบไปถึงพื้นฐานคือเหงือกได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเหมือนกับความไม่แข็งแรงของประชาชนนั่นเอง พื้นฐานโดยรวมของประเทศก็ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย
เพราะประชาชนคือฟัน
พื้นฐานสำคัญของประเทศคือเหงือก
ต้องทำให้ทั้งสองสิ่งดังกล่าวแข็งแรงควบคู่กันไป
การที่จะทำให้เรื่องดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จได้ ทั้งทางด้านพื้นฐานโดยรวมของประเทศชาติบ้านเมือง ซึ่งประกอบด้วยเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง จึงต้องดำเนินการให้สอดคล้องไปด้วยกัน ภายใต้การบริหารจัดการของผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหาร
ผู้มีอำนาจในการบริหารปกครองต้องใส่ใจในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของ “การปฏิรูป” ในเรื่องต่างๆที่เป็นพื้นฐานสำคัญแห่งความเจริญเติบโตของบ้านเมือง
ผู้มีอำนาจในการปกครองต้องเข้าใจให้ดีว่า การปกครองนั้นเป็นรากฐานสำคัญของการเมือง ซึ่งต้องสอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ของประชาชนที่อยู่ในบ้านเมืองเป็นหลัก
เมื่อการปกครองเป็นรากฐานสำคัญต่อสิ่งต่างๆดังกล่าวแล้ว การปฏิรูปการปกครองจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการจัดการและดำเนินการให้เป็นไปในทิศทางที่ดีกว่าที่ผ่านมา ซึ่งวนเวียนอยู่ใน “วงจรอุบาทว์” คือ การปฏิวัติรัฐประหาร การเลือกตั้ง มีรัฐบาลใหม่ แล้วก็มีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นอีกเพราะทนต่อการฉ้อฉลปล้นชาติของผู้ได้อำนาจมาทางการเมืองไม่ไหว
การปกครองในบ้านเราขณะนี้มี 3 ส่วน คือ ส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น และส่วนภูมิภาค สำหรับการปกครองในส่วนกลางนั้นมีรัฐบาลเป็นศูนย์กลาง การปกครองส่วนท้องถิ่น มีประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารท้องถิ่นของตน และส่วนภูมิภาคนั้นเป็นตัวเชื่อมประสานความเป็นเอกภาพระหว่างส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่น เพื่อความเป็นเอกภาพแห่งราชอาณาจักร
ที่ผ่านๆมานั้น การบริหารปกครองจากส่วนกลางได้ควบคุมและครอบงำทั้งส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นไว้อย่างแน่นหนา ทุกอย่างจะไปจากส่วนกลางและตอบสนองจากส่วนกลาง ไม่ได้คำนึงถึงความต้องการและสถานะของประชาชนในท้องถิ่นทั่วประเทศ
การเมืองภาคประชาชนต้องอ่อนแอเพราะเหตุนี้
การปฏิรูปการปกครองจำเป็นต้องเริ่มคิดเริ่มทำกันให้ชัดเจนว่า ต้องการให้ประชาชนในท้องถิ่นเติบใหญ่ เข้มแข็ง มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดการกับท้องถิ่นของตนอย่างจริงๆจังๆ หรือไม่ ภายใต้ความเป็นหนึ่งเดียวกันในราชอาณาจักร
ความล้มเหลวไร้ค่าของการปกครองโดยประชาชนของประชาชน และเพื่อประชาชน ตามระบอบการเมืองการปกครองประชาธิปไตยนั้น จึงเกิดขึ้นมาตลอด และตามมาซึ่งการทุจริตคอร์รัปชั่นฉ้อฉล แผ่ซ่านไปทุกหนทุกแห่ง แม้การปฏิบัติตนของบรรดาข้าราชการจำนวนไม่น้อยของบ้านเมือง ซึ่งโดยหน้าที่อันแท้จริงแล้วต้องทำงานรับใช้ประชาชน แต่จำนวนไม่น้อยที่มีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต ประพฤติปฏิบัติตนเสมือนเป็นนายของประชาชน แต่ยอมเป็นทาสนักการเมือง
ถ้าจะปฏิรูปการปกครองกันจริงๆต้องเริ่มจากจุดนี้
ส่วนกลางจะเล็กลง แต่ส่วนท้องถิ่นจะเติบใหญ่เข้มแข็ง ตอบสนองความปรารถนาของประชาชนได้อย่างแท้จริง และส่วนภูมิภาคคงยังอยู่ที่ระดับจังหวัดที่จะคอยเป็นตัวเชื่อมประสานระหว่างส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่น
เมื่อการปฏิรูปการปกครองเป็นไปอย่างนี้ ย่อมเป็นรากฐานสำคัญเสมือน “เหงือก” ที่เป็นพื้นฐานแห่งการดำรงอยู่ของ “ฟัน” ซึ่งก็คือประชาชนนั่นเอง อันจะนำไปสู่ความมั่นคงยั่งยืนของการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาชนสามารถบริหารจัดการทรัพยากร และพัฒนา จัดการดูแลท้องถิ่นของตนเองได้อย่างแท้จริง
(อ่านต่อวันอังคาร)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี