การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้มีลักษณะเด่นชัดประการหนึ่งที่แตกต่างจากการเลือกตั้งทั่วไปครั้งอื่นๆ ตรงที่มีพรรคการเมืองหลายพรรคพากันแข่งขันเกี่ยวกับนโยบายประชานิยม ต่างพากันแข่งขันในการลด แลก แจก แถม กันจนประชาชนรับการลด แลก แจก แถม นั้นกันไม่หวาดไม่ไหว
คนบางพวกถึงกับเอานโยบายลด แลก แจก แถม ของแต่ละพรรคมาเทียบเคียงกันดูว่าพรรคไหนจะลด แลก แจก แถม มากกว่ากัน วันๆ ก็ไม่เป็นอันทำอะไร แต่อย่างน้อยที่สุดการทำอย่างนี้ก็ยังดีกว่าการหาตัวเลขมาเล่นหวยมากมายนัก
แต่ทว่าจะมีใครตั้งสติยั้งคิดกันบ้างไหมว่า การแข่งขันนโยบายลด แลก แจก แถมนั้นจะเป็นอย่างไร และใครจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าลด แลก แจก แถมนั้น ดังนั้น ถ้าคำนวณจำนวนเงินที่ต้องใช้ในการลด แลก แจก แถม แล้วก็อาจจะช็อกตาค้างตามๆ กัน เพราะจะเป็นจำนวนเงินที่ใช้มหาศาล ถึงขนาดจำนำหรือขายประเทศก็คงไม่พอเอามาลด แลก แจก แถมกัน
ความจริงตามกฎหมายปัจจุบันนี้บังคับให้พรรคการเมืองใดๆ ก็ตามที่จะนำเสนอนโยบายใดๆ ที่จะต้องใช้จ่ายเงินงบประมาณ จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย คือต้องแจ้งให้ กกต.ทราบ พร้อมด้วยรายการทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
ที่สำคัญคือ จะต้องแจ้งจำนวนเงินที่ต้องใช้ตามนโยบายนั้นๆ ว่าต้องใช้เงินทั้งหมดเป็นจำนวนเท่าใด และต้องใช้ในแต่ละปีเป็นจำนวนเท่าใด และกฎหมายยังบังคับด้วยว่าจะต้องแสดงที่มาของเงินว่าจะนำเงินจากที่ไหนมาใช้จ่ายตามนโยบายนั้น พร้อมทั้งต้องเปรียบเทียบผลได้และผลเสียในการดำเนินนโยบายดังกล่าวด้วย
ที่ว่าต้องแสดงที่มาของเงินว่าจะนำเงินจากที่ไหนมาใช้จ่ายตามนโยบายนั้น หมายถึงที่มาของรายได้ที่จะนำเข้าระบบงบประมาณว่าจะนำรายได้นั้นมาจากไหน เช่น ถ้าจะจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมก็ต้องแสดงรายการว่าจะต้องจัดเก็บภาษีอะไรเพิ่มเติมบ้าง เป็นจำนวนเท่าใด
แต่ปรากฏว่าไม่เคยได้ยินข่าวคราวใดๆ ว่าการเสนอนโยบายลด แลก แจก แถม ที่ว่านั้นได้มีการแสดงรายการต่อ กกต. และแถลงให้ประชาชนทราบเลย ซึ่งในเรื่องนี้กฎหมายบังคับให้ กกต. ต้องตักเตือน และถ้าไม่ปฏิบัติก็มีโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
ก็ได้แต่รอฟังข่าวว่า กกต. จะตักเตือนพรรคการเมืองใดบ้างเพื่อให้ปฏิบัติการในเรื่องนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย เพราะถ้าปล่อยให้ค้างคาราคาซังไปจนถึงหลังเลือกตั้งก็อาจจะมีการฟ้องร้องให้ดำเนินการยุบพรรคหรือดำเนินคดีแก่กัน หรือร้องให้การเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะ ไม่ว่าเฉพาะเขตหรือทั่วประเทศก็ได้ ความเสียหายก็จะเกิดขึ้น
พยายามติดตามข่าวคราวเรื่องนี้จึงเพิ่งรู้ว่า กกต. ท่านต้องเดินทางไปดูงานในต่างประเทศหลายวัน และจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 มีนาคม 2562 ซึ่งเหลือเวลาเพียง 14 วันก็จะถึงวันเลือกตั้งแล้ว จึงไม่แน่ใจว่าจะมีการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร
อย่าให้ใครเขาตั้งข้อสังเกตหรือข้อสงสัยว่า มีใครวางหมากเป็นแง่มุมเพื่อทำให้การเลือกตั้งเป็นปัญหาหรือเป็นโมฆะในวันหนึ่งข้างหน้า เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมือง
แต่สรุปความได้ว่า นโยบายลด แลก แจก แถม ที่แข่งขันกันจ้าละหวั่นนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับเงินทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการแจกแถมใดๆ ก็ตาม หรือให้ประโยชน์ใดๆ ก็ตามล้วนต้องใช้เงิน และต้องเป็นเงินจากงบประมาณแผ่นดินที่มีที่มาเพียงสามแหล่งเท่านั้น คือ จากการจัดเก็บภาษีอากร จากเงินกู้ และจากรัฐพาณิชย์
ยกเว้นการแข่งกันลดโน่นลดนี่ก็ย่อมกระทบต่อรายได้ของรัฐ เช่น การลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% เป็นต้น ก็ย่อมกระทบรายได้จากภาษีอากรประเภทภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาถึง 10% คิดเป็นจำนวนเงินปีละไม่น้อยกว่า 100,000 ล้านบาท และเมื่อรายได้ขาดไปอย่างนี้ก็ต้องเก็บภาษีอย่างอื่นเพิ่ม หรือไม่ก็ต้องกู้เงินมาใช้แทน ก็ไม่รู้จะกู้กันอีกสักเท่าใดจึงจะพอกับการลด แลก แจก แถมนั้น
แค่รายได้ที่หามาจุนเจืองบประมาณจากภาษีอากรปัจจุบันก็เกินกว่ากำลังที่ประชาชนจะทนรับไหวกันอยู่แล้วเพราะเก็บยุบเก็บยับ และกำลังเก็บกันอย่างบ้าคลั่ง ถึงขนาดคิดอ่านจะเก็บภาษีจากความหวาน ความมัน ความเค็ม หรือแม้เก็บค่าธรรมเนียมที่เกษตรกรจะต้องใช้น้ำ เป็นต้น ประชาชนก็จะแบกรับภาระมากขึ้น
หรือถ้าหากจะกู้เงินมาใช้ ขณะนี้หนี้สาธารณะหรือแม้แต่หนี้ครัวเรือนก็พุ่งสูงกระฉูดยิ่งกว่ายุคใดสมัยใด หรือว่ามีใครคิดอ่านเดินหนทางเดียวกับสหรัฐที่กำลังล้มละลายทั้งระดับประเทศและระดับประชาชน จนต้องเรียกร้องให้มิตรประเทศที่มีกองทหารสหรัฐประจำอยู่ต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด พร้อมด้วยเงินเพิ่มอีก 50% ไปแล้ว
ดังนั้นประชาชนชาวไทยทั้งประเทศจึงต้องตั้งสติให้จงดีว่า การแข่งกันเสนอนโยบายลด แลก แจก แถม นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ได้รับ แต่แท้จริงแล้วในที่สุดประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะคนชั้นกลางและคนที่มีเงินเดือนประจำนั่นแหละที่จะเดือดร้อนมากกว่าใคร เพราะจะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม จนในที่สุดก็จะไม่มีเงินเหลือพอจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน
เหตุนี้การหลงใหลไปกับการโฆษณานโยบายลด แลก แจก แถม ผลแท้จริงที่เกิดขึ้นก็คือเป็นการผูกคอตายให้กับประชาชนชาวไทยนั่นเอง เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศจะต้องสำเหนียกให้จงดีว่า การหลงใหลไปเลือกพรรคหรือผู้สมัครรายใดเพื่อหวังการลด แลก แจก แถมนั้น ผลแท้จริงก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาเชือกรัดคอ จนในที่สุดก็ต้องตายโหงนั่นเอง
จะตัดสินใจเลือกอย่างไรก็ไตร่ตรองกันให้จงดี เพราะยังมีเวลาเหลืออีกสิบกว่าวัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี