สำหรับคนที่อยากเกิดมาบนกองเงินกองทอง แล้วเหมือนพระเอกละครหลังข่าว 7 ที่ทำงานบริษัทครอบครัว แล้วก็หาฮอบบี้เท่ๆ ที่ตอบสนองปมการผจญภัยในชีวิตไปเรื่อยๆ อาจจะใช่?
แต่คงไม่ใช่ สำหรับคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่าที่รู้คิดจากพฤติกรรมจริงของคน ไม่ใช่แค่คำพูดโก้ๆ วาดภาพเก๋ๆ ประดิษฐ์คำเท่ คูลๆ เพราะในที่สุด พฤติการณ์ของคนมันก็จะพันกันเอง เหมือนวัวพันหลัก
ยกตัวอย่าง กรณีล่าสุด ที่ธนาธรถึงกับต้องออกมาแก้ตัว หลังไปพูดยืนยันจุดยืนที่แนวทางเกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร และคดีทุจริตโกงกินบ้านเมืองของเขา
1.เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คแฟนเพจ Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมีเนื้อหาว่า
“ผมไม่ได้เสนอให้ “พาทักษิณกลับบ้าน” แต่ผมเสนอว่า ถ้าเราต้องการสร้างความปรองดองจากแบ่งฝักฝ่ายทางการเมืองอย่างสุดขั้วในสิบกว่าปีที่ผ่านมา มีทางเดียว คือ แกนนำทุกสีเสื้อ รวมถึงผู้ที่ใช้อำนาจละเมิดสิทธิประชาชน หากกระทำผิดจะต้องไม่ลอยนวลพ้นผิด จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่เสรีและเป็นธรรม ส่วนผลตัดสินจะออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับ
หนทางเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยโดยสันติ ต้องเริ่มต้นด้วยการเผชิญหน้ากับความจริงที่ผิดพลาดในอดีตและความยุติธรรม
สื่อบางสำนักนำคำให้สัมภาษณ์ของผมกับ Dave Kendal จาก Bangkok Post ไปตัดตอนเฉพาะบางช่วงบางตอนและบิดเบือนโดยเจตนาทำให้เข้าใจผิดว่า ผมจะ “พาทักษิณกลับบ้าน” (ดูบทสัมภาษณ์เต็มได้ที่ https://www.bangkokpost.com/news/politics/1637454)
ผมกล่าวกับคุณ Dave Kendal ไปว่า เราเชื่อว่าประชาชนไม่ว่าจะเคยสังกัดสีเสื้อใดควรจะร่วมกันต่อต้านเผด็จการทหาร และถ้าเราต้องการสร้างความปรองดอง ทางเดียวคือ ผู้นำของแต่ละสีเสื้อต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาทำในอดีต โดยผ่านกระบวนการยุติธรรมที่เสรีและเป็นธรรม
ผมเห็นว่าเราควรคืนความยุติธรรมให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบในชีวิตและทรัพย์สินหรือคดีการเมืองจากการความขัดแย้งอันยาวนาน ไม่ว่าเขาจะสังกัดสีเสื้ออะไร
ทว่าในช่วงที่มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เรียกกันว่าฉบับเหมาเข่งสุดซอยนั้น ผมเป็นคนหนึ่งที่คัดค้านเรื่องนี้ เนื่องจากผิดไปจากหลักการที่เชื่อมั่น ผมเห็นด้วยที่เราจะนิรโทษกรรมในคดีการเมืองของประชาชนทั่วไปเพื่อสร้างความปรองดอง แต่ไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้ผู้นำทางการเมืองลอยนวลพ้นผิดหากพิสูจน์แล้วว่าพวกเขากระทำผิดจริง
มีแต่ความกล้าหาญที่จะเผชิญต่อความจริงในอดีต และกระบวนการยุติธรรมที่ไม่บิดเบี้ยวเท่านั้น สังคมไทยจึงจะออกจากหล่มความขัดแย้งสุดขั้วเพื่อก้าวไปสู่อนาคตใหม่ได้”
สังเกตว่า แม้แต่การโพสต์แก้ตัวครั้งนี้ นายธนาธรก็ยังไม่พ้นข้อความกล่าวหากระบวนการยุติธรรม เช่น “กระบวนการยุติธรรมที่เสรี” – “กระบวนการยุติธรรมที่ไม่บิดเบี้ยว” โดยตอกย้ำกลายๆ ว่า กระบวนการยุติธรรมในคดีทักษิณที่ตนเองเคยพูดและต้องออกมาแก้ตัวในครั้งนี้นั้น มันไม่เสรี และบิดเบี้ยว
เพราะฉะนั้น ยิ่งตอกย้ำว่า เขาฝังหัวจริงๆ ว่าทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม และควรต้องรื้อฟื้นคดีของทักษิณกลับขึ้นมาพิจารณาดำเนินการกันใหม่
2.ถ้ากลับไปดูและฟังคลิปการให้สัมภาษณ์ของนายธนาธรที่ว่าจริง ใครก็ตามที่ได้ยินได้ฟัง
ไม่ว่าจะรัก-จะเกลียด นายธนาธร
ไม่ว่าจะเป็นฟังภาษีอังกฤษที่นายธนาธรพูด หรืออ่านคำแปลภาษาไทยด้านล่าง
ก็ย่อมจะได้ความหมายชัดเจนตรงกัน อย่ามาทำไขสือ อย่ามาหลอกฟ้า อย่ามาหลอกดาว
ความหมายที่ว่านั้น คือ
นายธนาธรไม่ได้พูดว่าตนเองมีนโยบายพาทักษิณกลับบ้าน จริง
แต่นายธนาธรพูดมากกว่านั้นอีก โดยบอกว่า คดีของคุณทักษิณเป็นคดีอาญาที่ฟ้องร้องในสมัยรัฐบาลทหาร จึงขอเสนอให้คืนความยุติธรรมให้เขา นำตัวคุณทักษิณกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
เขายังอธิบายด้วยว่า โดยการรื้อคดีต่างๆ แล้วพิจารณาคดีต่างๆใหม่ โดยผู้พิพากษาต้องมีความเป็นกลาง ไม่เหมือนที่ผ่านมา ที่กระบวนการยุติธรรมถูกใช้เป็นอาวุธเพื่อกำจัดทักษิณ และคุณทักษิณมีสิทธิที่จะต่อสู้คดีภายใต้กระบวนการของศาลที่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรม
แบบนี้ ใครได้ฟังย่อมเห็นว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กำลังยืนยันว่า คดีที่นายทักษิณไปแล้วนั้น ผู้พิพากษาไม่เป็นกลาง ทั้งคดีทุจริตที่ดินรัชดาและคดีร่ำรวยผิดปกติ
แล้วกระบวนการยุติธรรม ที่ได้ทำคดีต่างๆ แก่คุณทักษิณ ในเวลานี้ ทั้งคดีทุจริตเงินกู้กรุงไทย คดีเอ็กซิมแบงก์ คดีหวยบนดิน คดีแปลงสัมปทานมือถือ ฯลฯ ล้วนแต่“อาวุธเพื่อกำจัดทักษิณ”
ลองคิดตาม ผลของการทำตามแนวทางนายธนาธร หากลงมือทำจริง ก็คือ ล้มล้างคำพิพากษาคดีที่ตัดสินทักษิณไปแล้วทั้งหมด ซึ่งถูกไต่สวนและพิพากษาโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร 2549 ด้วยซ้ำ
ผู้พิพากษาที่เข้ามาทำหน้าที่องค์คณะ ก็เลือกจากที่ประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาที่มีเป็นร้อยคน
แล้วตัดสินนักการเมืองไปแล้วกี่ร้อยกี่พันคน ยึดทรัพย์นักการเมืองไปแล้วกว่าแสนล้าน
บางคดี เป็นคดีทุจริตที่ลูกน้องของทักษิณทำผิดกฎหมาย ประโยชน์ตกแก่นาย ลูกน้องติดคุกไปแล้ว
บางคดี ทักษิณเป็นจำเลยที่ 1 หนีคดีไปอยู่คนเดียว ขณะจำเลยคนอื่นๆ ทำผิด รับโทษกันอยู่ในคุก
บางคดี ศาลยกประโยชน์ให้ทักษิณ ขนาดตัวไม่มาต่อสู้ ศาลยังยกฟ้องให้ก็มี (คดีทีพีไอ)
แล้วยังจะมาด้อยค่าศาล ใส่ความกระบวนการยุติธรรมแบบนี้ นี่หรือหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
ลีลาแทบไม่ต่างกับ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ที่เคยบอกว่า “ทักษิณไม่ได้ทำผิด แค่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม”
นี่ยังไม่ได้เอ่ยถึงการให้สัมภาษณ์ภาษาไทยของนายธนาธร ที่พูดในรายการสถานีเนชั่นทีวี ปกป้องยิ่งลักษณ์ ว่าคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบกรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายโครงการจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์นั้น เป็นการเล่นงานทางการเมืองอย่างไร
อยากทราบเหมือนกันว่า การพูดกล่าวหาต่อกระบวนการยุติธรรมและศาลสถิตยุติธรรมเช่นว่านั้น เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล หรือหมิ่นศาล หรือไม่?
3.การที่นายธนาธรจะพยายามออกมาลดทอนกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร ก็คงไม่เป็นผล เพราะตนเองย่อมรู้แก่ใจว่าคิดอ่านจะทำอะไรอยู่
สู้ยอมรับไปเสียเลยว่าพูดว่าจะรื้อคดีทักษิณจริง แล้วจะยืนยันว่าจะทำหรือไม่ทำ ก็ว่ามาชัดๆ อย่าแอบ
ถ้าจะทำ ก็บอกเลยว่าจะทำอย่างไร ขยายความไปเลย เอาให้สุดซอยกันไปอีกครั้ง
ถ้าไม่ทำ ก็จะได้ไม่ต้องไปหลอกเอาคะแนนกองเชียร์ทักษิณ อย่าไปทำตัวเหมือนขอนไม้ให้ใครกระโดดเกาะ แล้วไปรู้ทีหลังว่าเป็นหมาเน่าลอยน้ำมา
แต่ถ้าสงสัยว่า ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่มีแนวคิดจะลบล้างอะไรบ้าง? ลองกลับไปดูชัดๆ ที่แฟนเพจพรรคอนาคตใหม่ลงไว้เอง ถึงการแถลงจุดยืนพรรคอนาคตใหม่ โดยหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2562 ระบุว่า
“พรรคอนาคตใหม่ยืนยันในข้อเสนอทางการเมือง 4 ข้อ ได้แก่ 1.ไม่สนับสนุนนายกฯ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. 3.แก้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ทั้งฉบับ และ 4.ลบล้างผลพวงรัฐประหาร”
ให้สังเกตข้อ 4 “ลบล้างผลพวงรัฐประหาร” นั่นก็คือตีความว่าเป็นคดีทุจริตของทักษิณ ชินวัตร เป็นผลพวงจากรัฐประหารด้วย สอดรับกันชัดเจนอยู่แล้ว ใช่หรือไม่? นายธนาธรแค่ยืนยันอย่างลูกผู้ชาย ชัดๆ จะกล้าไหม ดีกว่าออกมาแก้เกี้ยวว่าไม่ได้บอกว่า “จะพาทักษิณกลับบ้าน”
ถ้าเช่นนั้น ก็จะได้เป็นการแก้ผ้า เปลือยจุดยืนทางการเมือง คนที่เคยหลงเชื่อว่านายธนาธรกับพรรคอนาคตใหม่นำพาประเทศชาติไปสู่อนาคตใหม่ ไม่หวนกลับไปสู่ความขัดแย้ง วุ่นวาย จะได้ตื่นจากฝัน
พ่อหลอกฟ้า คุณหลอกดาว ก่อนจะถูกหลอกฟันแล้วทิ้งเอาคะแนนเสียงเลือกตั้ง
การเปิดประตูให้ลบล้างคดีทุจริต-ทบทวน-สอบสวนใหม่ ในคดีทุจริตของนายทักษิณ ชินวัตร และพวก โดยอ้างว่าคดีเหล่านั้นเป็นผลพวงจากรัฐประหาร ตามที่นายทักษิณพยายามอ้างอยู่ตลอด ทั้งๆ ที่ เคยมาสู้คดีแล้วหนีไป ปล่อยให้ลูกน้องติดคุกคดีถุงขนม 2 ล้านบาท และยังทิ้งให้ลูกน้องคนใกล้ชิดต่อสู้และติดคุกในคดีอันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์บริษัทของตระกูลชินวัตรเองอีกหลายคดี นับว่าน่าสังเวชแล้ว
การพยายามกลบเกลื่อน โดยอ้างว่า “ไม่มีได้เสนอ พาทักษิณกลับบ้าน” ยิ่งน่าเวทนาในความไร้จุดยืน ไร้ความกล้าหาญ ตลบตะแลงตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าไปถือครองอำนาจรัฐเอาด้วยซ้ำ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี