มติศาลรัฐธรรมนูญ : 7 มีนาคม 2562 “กรณี 8 กุมภาพันธ์ 2562” มีผลต่อการเลือกตั้งทั่วไป 24 มีนาคม 2562 : อย่างไร
• เจี๊ยบ & โจ๊ก ลูกรัก
• 1. มติศาลรัฐธรรมนูญ ให้เหตุผลที่ชัดเจน เป็นที่ประจักษ์ แก่สาธารณชน ชาวไทย
1.1 “…การกระทำของพรรค ทษช. นำสมาชิกพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง มาฝักใฝ่ในทางการเมือง เป็นการกระทำที่วิญญูชนเห็นว่า ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ ต้องถูกนำมาใช้เพื่อความได้เปรียบทางการเมืองอย่างแยบยล ปรากฏผลมุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่สนใจพื้นฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นการสุ่มเสี่ยงสถานะที่ทรงอยู่เหนือการเมือง และดำรงความเป็นกลางทางการเมือง
จุดประสงค์เบื้องต้น เพื่อเซาะกร่อน ทำให้อ่อนแอลง เข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข…”
1.2 ชี้ให้ตระหนักว่า “เราเป็นคนไทยอยู่ในสังคมไทย เราต้องเคารพกติกาสูงสุดของสังคม” รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่า ระบอบของเราคือ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขมิใช่เป็นประชาธิปไตยแบบอื่นๆ ที่แตกต่างกันออกไปตาม สภาพลักษณะของสังคมในแต่ละประเทศ
• 2. ปฏิกิริยา ผลสะเทือนของ กรณี 8 กุมภา 2562 หลังจาก ศาลรธน.มีมติยุบพรรคไทยรักษาชาติ
2.1 ต่อคนไทย (รวมทั้งพรรคการเมือง) ที่ยึดหลักประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ
- ได้ตระหนักถึง “ภัยอันตราย ของแนวคิดของระบอบทุนสามานย์ทัก และความคิดอคติของพรรคใหม่รวมทั้งแนวคิดของ “องค์กรระหว่างประเทศ” และเหล่านักวิชาการ ที่มีบทบาทและการเคลื่อนไหวในสังคมไทยจะให้ความสำคัญ ต่อการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง : ที่ไม่เอาพรรคเพื่อไทยและเครือ รวมทั้งพรรคการเมืองใหม่บางพรรค
2.2 ต่อคนไทยบางส่วนและพรรคการเมืองที่นำเสนอเรื่องนี้ และพรรคการเมืองที่มีอคติต่อสถาบันฯ
- แม้บางส่วน จักแสดง การยอมรับมติของศาลรัฐธรรมนูญ หรือ การเคารพ พระบรมราชโองการฯแต่คงเป็นท่าทีที่แสดงออกภายนอก แต่ภายในแล้ว พวกเขา คงจะมีการปรับแผน หรือ มาตรการต่างๆ ที่จะเคลื่อนไหวทั้งทางเปิดและปิด เพื่อ “จะเอาชนะ ในการเลือกตั้งครั้งนี้” และการคิดบ่อนทำลายฯ ต่อไปโดยจะเป็นการดำเนินการ ด้วยตัวนักการเมือง พรรคการเมือง นักวิชาการฯ และองค์กรระหว่างประเทศ
• 3. เรื่องราวที่จะออกมาตอบโต้ “รัฐ ทั้ง ศาล รธน., กกต. และ รัฐบาลรวมทั้งพรรคที่สนับสนุนลุงตู่”
- พรรคการเมือง และนักวิชาการในประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ ในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบเพื่อสร้างความเสียหายให้กับองค์กร สถาบันยุติธรรมไทย และหวังสร้างความสับสนแก่ประชาชนบางส่วน ที่ขาดข้อมูลและไม่ได้ติดตาม ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น มาตั้งแต่ต้น ถึงพฤติกรรมแนวคิดของพวกเขาโดยฉกฉวยเอาความดีความชอบ ในข้ออ้างสิทธิเสรีภาพฯ ไปเป็นของตน อย่างน่าละอายโดยการกระทำของคนและองค์กรเหล่านี้ มีมาตลอด ตั้งแต่ก่อนหน้า ระหว่างและหลัง ทุกเหตุการณ์
-แต่ที่น่าแปลก “ไม่เคยวิจารณ์ ความผิดและอคติของตนและพวกพ้อง ที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศไทย”
-ผู้รู้ มีความรักหวงแหน ประชาชนและประเทศไทย ได้เห็นพฤติกรรมและการกระทำเช่นนี้ มาโดยตลอดโดย มีมาตั้งแต่รุ่นทักษิณ ผู้ก่อตั้งและพัฒนาระบอบทักขึ้นมา ไล่มารุ่นน้องรุ่นลูกหลาน การที่ยังมีพรรคการเมือง และกลุ่มต่างๆ เกิดขึ้นตามมา สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศได้อีกเพราะ “เชื้อชั่ว” ยังอยู่ ไม่ถูกขจัดออกไปจากสังคมไทย เช่น พรรคในสังกัด ที่ยังคงดำเนินการอยู่
• 4. ทักษิณ จะแสดงความรับผิดชอบต่อการสั่งการให้พรรคไทยรักษาชาติ ครั้งนี้ อย่างไร???หรือ คงปล่อยให้ “พรรคการเมืองในอาณัติ” รับชะตากรรมไปเอง เหมือนกรณีอื่นๆ และบรรดา ผู้นำ นักคิด นักเลือกตั้ง นักวิชาการ มวลชนฯ จะถอยห่างจากระบอบทัก หรือไม่อย่างไร
นี่เป็นบทเรียนครั้งสำคัญอีกครั้งของ นักการเมือง นักเลือกตั้งในสังกัดระบอบทุนสามานย์ทักษิณ
• 5. เหตุผล ที่แนวความคิดเช่นนี้ ยังดำรงอยู่ในสังคมไทยได้
- ปัจจัยสำคัญ คือ มีนักการเมือง นักวิชาการ ที่ไม่เข้าใจสภาพลักษณะสังคมไทยอย่างแท้จริง
- การไม่เคารพกกฎกติกาสูงสุด คือ รัฐธรรมนูญไทย โดยไม่ปฏิบัติตาม
- การใช้ “ระบบและกระบวนการ “จัดการ สร้างข่าวเท็จ ผ่านสื่อ เครือข่ายต่างๆ และมวลชน
- รัฐไทย : รัฐบาล รัฐสภา ศาลฯ ยังไม่ดำเนินการต่อ “ผู้คนที่คิดผิดเหล่านี้” อย่างเอาจริงเด็ดขาด
- แต่พวกเขากลับนำเอา “กรอบคิด ประชาธิปไตยตะวันตก ที่ตนได้ผลประโยชน์ มาใช้ มาอ้างตลอด
• 6. มีผลต่อการเลือกตั้งทั่วไป 24 มีนาคม 2562 : อย่างไร ?
6.1 การจัดการฯ ต่อเรื่องร้ายแรงต่อสถาบันและบ้านเมืองในครั้งนี้ ได้อย่างรวดเร็ว
- การยึดรัฐธรรมนูญ ฉบับลงประชามติ เป็นหลักกติกาสูงสุด
- การใช้ สถาบัน และกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งการเลือกตั้ง อย่างมีศักยภาพ ทันกาล
- การใช้อำนาจรัฐ ควบคุม เข้มงวด ต่อการกระทำที่ไม่ถูกต้อง รวมทั้งเรื่องสื่อสารทุกประเภท
- บทบาทของภาคการเมือง ภาคประชาชน ที่ให้การสนับสนุนร่วมมือ ทั้งทางตรงและทางอ้อมฯ
6.2 ชัยชนะในการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมาของระบอบทัก ใช้วิธีการที่ผิดและนอกกติกา เป็นปัจจัยหลัก
- ฉะนั้น หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาครัฐ เอกชน ประชาชน ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่จะหยุดระบอบทักษิณ และบรรดาพรรคในเครือข่าย ในการกระทำที่นอกกติกา เอาชนะการเลือกตั้งโดยการทำสิ่งที่ผิด การใช้อำนาจแฝง เงินทุนมหาศาล สื่อ นักวิชาการ มวลชน เครือข่ายต่างประเทศฯการใช้วิธีการที่หมิ่นเหม่ ที่สั่งการโดย “เจ้าของ”นอกประเทศ : จะทำไม่ได้ตามแผนงานและเป้าหมาย
- ผู้นำ และแกนนำ ที่มีความคิดในพรรคเครือข่าย จะตระหนักถึง โทษและผลร้าย ที่พวกตนจะได้รับจะหยุด ถอนตัว และลดบทบาทลง ทำให้การดำเนินงานในการเลือกตั้ง ลดศักยภาพลง
- ผลของการที่ พรรคไทยรักษาชาติ ถูกยุบ ทำให้ “จำนวน สส.เขตและบัญชีรายชื่อ” ลดลงอย่างมีนัย
• โดยสรุป รูปธรรม ผลของการเลือกตั้งครั้งนี้ จะประเมินได้คร่าวๆ คือ
- ผลรวมของบรรดาพรรคในเครือข่ายทัก และแนวร่วมทั้งหมด จะอยู่ที่ 150
- พรรคที่นำเสนอตัวเป็นพรรคที่สาม คงจะได้ไม่ถึง 100
- พรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วม พรรคเล็กที่ต้องการเป็นรัฐบาล : จะมีเสียงมากกว่า 250
• ฉะนั้น โอกาสที่ พลเอกประยุทธ์ จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี มาสานงานนโยบายต่อ จึงมีสูงยิ่ง
• แต่ เรื่องของการเมือง การเลือกตั้ง “ต้องดูเป็นรายวัน” : การเดินก้าวหน้า หรือเดินพลาด จะมีผลชี้ขาด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี