คนไทยส่วนมากต่างคิดคาดหวังกันว่า การเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม นี้ จะเกิดขึ้นตามกำหนด และน่าจะผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น และหลังจากนั้นแล้ว ประเทศไทยเราก็จะมีรัฐบาลผสมที่ประกอบด้วยพรรคการเมืองต่างๆ อย่างน้อย 4-5 พรรค และหากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆ นายกรัฐมนตรีก็คงชื่อว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามโผ ตามกติกากฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูก ว่าด้วยองค์กรการเมืองต่างๆ และกติกาการเลือกตั้ง
ซึ่งตามนี้แล้ว ก็จะสมใจฝ่ายกองทัพ และฝ่ายข้าราชการประจำอื่นๆ ที่มุ่งมั่นจะเป็นใหญ่ในแผ่นดินต่อไป และเป็นที่พึงพอใจ เบิกบานใจ สมหวังของบรรดาพวกอนุรักษ์นิยม และทหารนิยม ที่เชื่อฝังหัวฝังใจว่า การคงอยู่ของฝ่ายกองทัพในเวทีการเมืองไทยแบบถาวร จะเป็นป้อมปราการมิให้ระบอบทักษิณได้ผุดได้เกิดขึ้นมาอีก (โดยกลุ่มคนพวกนี้ไม่เชื่อ ไม่ยอมรับว่า พลังประชาชนที่รักความถูกต้องชอบธรรมต่างหากที่ได้ประสบความสำเร็จ มิให้ระบอบทักษิณยึดประเทศได้)
หลายๆ คนก็คงจะคาดเดาต่อไปด้วยว่า รัฐบาลผสมนายพลนำพาหลังวันที่ 24 มีนาคม นั้น น่าจะขับเคลื่อนประเทศด้วยนโยบายประชารัฐ ด้วยการร่วมมือเป็นพลังเดียวกันระหว่างฝ่ายกองทัพ กับฝ่ายกลุ่มทุนธุรกิจยักษ์ใหญ่ครอบครัว เสริมด้วยการกระจุกตัวของอำนาจรัฐและอำนาจเศรษฐกิจอยู่ที่ส่วนกลางกันต่อไปอย่างเมามัน เพลิดเพลิน รื่นเริงสำราญใจ
ตามรูปการนี้ บรรดาธุรกิจเล็ก ย่อย กลาง ก็จะค่อยๆ สูญพันธุ์ ถูกต้อนเข้าค่ายธุรกิจยักษ์ใหญ่กันเป็นแถว หรือไม่ก็ต้องกลายสภาพเป็นลูกจ้างรับงานเป็นชิ้นๆ หรือลูกจ้างแบบมนุษย์เงินเดือน
ในขณะเดียวกัน การกสิกรรมก็จะเห็นแรงงานเกษตรมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเช่าที่ดินทำกินไม่ได้ ค่าใช้จ่ายสูง หรือเพราะที่ดินผืนน้อยๆ ก็ถูกกว้านซื้อไปเรื่อยๆ ไปรวมกันเป็นแปลงเพาะปลูกขนาดใหญ่ และอยู่ในมือของกลุ่มทุนผูกขาด และกึ่งผูกขาดทั้งหลาย โดยฝ่ายรัฐบาลกองทัพนำพาก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย เพราะพูดภาษาเดียวกันกับนายทุนใหญ่ และเป็นการตัดปัญหาเกษตรกรอิสระรวมตัวกันประท้วงเรียกร้องให้รำคาญอกรำคาญใจ
ส่วนคนระดับล่างก็จะตกอยู่ในอาณัติของระบอบประชานิยมมากยิ่งขึ้น เป็นการถูกสร้างเชิงบังคับให้เป็นมนุษย์ที่ไม่พึ่งพาตนเอง ต้องแบมือขอรับความอนุเคราะห์ช่วยเหลือแบบยืนบนขาของตนเองมิได้ (Dependency)
สังคมไทย ก็จะถูกแบ่งออกเป็นสังคม 2 ชั้น คือชั้นผู้ปกครอง ประกอบด้วยฝ่ายการเมืองและธุรกิจใหญ่ บวกฝ่ายราชการ กับฝ่ายผู้ถูกปกครอง คือประชาชนเจ้าของประเทศโดยทั่วไป
แต่หากสมมุติว่า พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ก็เชื่อกันได้ว่า รัฐบาลผสมพรรคเพื่อไทยก็จะสาละวนกับเรื่องเดิมค้างคา คือ
1.หาทางให้ ทักษิณ/ยิ่งลักษณ์ ได้กลับบ้าน อย่างไร้ความผิด เพื่อครองประเทศไทย และดำเนินการล้างแค้นผู้ที่เป็นปรปักษ์
2.ดำเนินโครงการนโยบายประชานิยมต่อไป เพื่อเป็นช่องทางเสริมสร้างฐานเสียง และหาประโยชน์เข้าตน
3.กดระบบข้าราชการให้อยู่ในอาณัติแบบเบ็ดเสร็จ
ในทำนองเดียวกัน หากพรรคประชาธิปัตย์เกิดฟลุค ได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ก็คงมุ่งคิดทำแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ น่ารัก น่าเอ็นดู สอดแทรกด้วยโครงการประชานิยมฉบับกระเป๋า
ซึ่งจากภาพวาดดังกล่าวนี้ก็จะเห็นว่า เรื่องสำคัญของชาติบ้านเมืองก็จะยังไม่เห็นว่าพรรคหลักใดๆ ให้ความสนใจกับเรื่องหน้าที่หลักๆ อาทิ
1.การยกเครื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2560 ให้เป็นกฎหมายที่วางโครงสร้าง และมีสาระเนื้อหาให้สังคมไทยเป็นสังคมเสรีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
2.การยำใหญ่ การกระจุกตัวของอำนาจ เพื่อขยายเพิ่มพูนหลักการมี
ส่วนร่วมของประชาชน
3.การเสริมสร้างความเสมอภาคของประชาชน และของพื้นที่ต่างๆ ให้ทัดเทียมกันยิ่งๆ ขึ้น
4.การกระทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากสภาวะติดกับการพัฒนา (Middle Income Trap)
ไม่ว่าสถานการณ์แบเบอร์ของฝ่ายกองทัพ หรืออุบัติเหตุทางการเมือง พลิกผันทางขั้วอำนาจ ก็ไม่เห็นว่าทางใดจะนำพาอนาคตของประเทศ ทั้งเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการพัฒนาประชาธิปไตยไทย ก็เท่ากับว่าเราชาวไทยจะคิดฝากความหวังกับพรรคการเมืองแต่อย่างเดียวมิได้ เราต้องพึ่งตนเอง เสริมสร้างความเข้มแข็งด้วยองค์ความรู้ และใช้สิทธิหน้าที่ให้เต็มที่
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี