ได้พูดให้ฟังในตอนที่ผ่านมา ถึงความสำคัญของพื้นฐานต่างๆ อันเป็นที่ตั้งอยู่ได้ของประชาชนในประเทศโดยเฉพาะในเรื่องการเมืองการปกครอง การเศรษฐกิจสังคม และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศนั้น ทุกสิ่งดังกล่าวต้องดำเนินการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันที่ถูกต้อง ภายใต้การบริหารจัดการของคนมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารบ้านเมือง
เพราะสิ่งต่างๆดังกล่าวคือความมั่นคงในความเป็นอยู่ของชีวิตผู้คนในบ้านเมือง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่แข็งแรงสามารถรองรับให้ชีวิตผู้คนทั้งหลายมีความสุขสบายเสมือนเหงือกที่แข็งแรง ฟันก็ตั้งอยู่ได้อย่างแข็งแรงเช่นเดียวกัน
ถ้าเหงือกไม่แข็งแรง เหงือกเสีย เหงือกบวม
ฟันก็ต้องลาก่อน ไม่อาจจะตั้งอยู่อย่างแข็งแรงได้
และได้กล่าวมาเช่นเดียวกันในตอนก่อน ถึงเรื่องสำคัญของพื้นฐานต่างๆ ที่ต้องใส่ใจจัดการให้ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องรากฐานสำคัญเกี่ยวกับ “ที่ดินทำกิน”ที่ต้องหาทางปฏิรูปครั้งใหญ่ เพื่อการดำรงอยู่ในชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่ของบ้านเมือง ที่จะดำรงอยู่ได้อย่างมีความสุขรวมทั้งในเรื่องระบบกฎหมายของประเทศ และระบบราชการ ที่จำเป็นต้องหยิบยกขึ้นมาพิจารณาปฏิรูปให้เหมาะสม
เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขของประชาชนในประเทศ ก็คือเรื่องการบริหารจัดการด้านรัฐวิสาหกิจ
ต้องจัดการแก้ไขให้รัฐวิสาหกิจต่างๆ ให้เป็นหน่วยงานที่สามารถอำนวยประโยชน์สุขแก่ประชาชนให้ได้อย่างแท้จริง และสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ เพราะเท่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ประเทศของเรามีรัฐวิสาหกิจหลายอย่าง แต่ละอย่างลงทุนด้วยเงินภาษีของประชาชน หรือบางอย่างใช้ทรัพยากรของชาติจำนวนมาก แต่กลับมีอภิสิทธิ์มากมายหลายประการ
และหลายแห่งเป็นแหล่งหาผลประโยชน์เข้าตน
เป็นแหล่งทุจริต ฉ้อฉล ปฏิบัติมิชอบ
ถึงเวลาที่จะต้องมีการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจต่างๆด้วย
มีหน่วยงานกลางแห่งชาติเป็นผู้กำกับดูแลโดยมีการบริหารงานที่เป็นอิสระจากมืออาชีพ มีการกำกับ ตรวจสอบอย่างเข้มงวด ปราศจากการครอบงำ แทรกแซง ของฝ่ายการเมือง มีตัวแทนของผู้ใช้แรงงาน หรือสหภาพแรงงาน หรือตัวแทนภาคประชาชนเข้าไปมีสิทธิ์ร่วมในการบริหารจัดการ จำแนกแยกแยะจัดการในแต่ละแห่งได้ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องพลังงาน
ตามที่เป็นอยู่ในขณะนี้ปรากฏว่า มีการผูกขาดอย่างครบวงจรในเรื่องพลังงานของบ้านเรา เรื่องธรรมาภิบาลจริยธรรม คุณธรรม ไม่ต้องพูดถึงเพราะหายากจากการผูกขาดครบวงจรดังกล่าว ตั้งแต่เรื่องการประกอบธุรกิจน้ำมันธุรกิจแก๊ส ธุรกิจจากโรงกลั่น นำมาซึ่งราคาสินค้า เครื่องอุปโภค บริโภค สูงขึ้นอย่างไม่มีอำนาจใดยับยั้งไว้ได้
การผูกขาดที่สำคัญในด้านพลังงาน ซึ่งควรต้องมีการทบทวนเพื่อการแก้ไขจัดการให้ดีขึ้น เหมาะสมขึ้น เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมของประเทศและประชาชนอย่างจริงๆนั้น
ภาคประชาชนเคยมีการเคลื่อนไหวต่อต้านระบบการให้สัมปทานตามกฎหมายฉบับนี้ โดยขอให้แก้ไขกฎหมายปิโตรเลียม จากวิธีการให้สัมปทานมาเป็นระบบแบ่งปันผลผลิต เพื่อประโยชน์จะได้ตกแก่ประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ตกอยู่กับผู้ได้รับสัมปทานฝ่ายเดียว
มีการร่างข้อกฎหมายขึ้นใหม่จากภาคประชาชน เพื่อใช้แทนกฎหมายปิโตรเลียม แต่ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นในทางที่จะมีการสนองตอบในเรื่องการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว นอกจากการกระตือรือร้นที่จะเปิดสัมปทานรอบใหม่ คือรอบที่ 21 กับอีกครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุผลต่างๆนานาของผู้เสนอที่อยู่ในแวดวงของผู้ได้รับประโยชน์เรื่องสัมปทาน
ถ้าผู้มีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองขณะนี้ ต้องการให้มีการปฏิรูปบ้านเมืองจริงๆ ถึงขั้นจะจัดตั้งสภาขับเคลื่อนทางยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปประเทศขึ้นมาอย่างที่เป็นข่าวแล้ว ต้องตระหนักให้มากว่า นโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรปิโตรเลียมนั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ด้วยการกำหนดกรอบคิดในการบริหารจัดการทรัพยากรปิโตรเลียม ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของชาติ ทั้งในเรื่องของการประเมินปริมาณปิโตรเลียมสำรอง และการจัดสรรการสำรองปิโตรเลียมได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการบริหารการขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียมได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนการกำหนดมาตรการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจากการสำรวจและการขุดเจาะปิโตรเลียม และการรักษาผลประโยชน์ของชาติ
ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า การบริหารการผลิตปิโตรเลียมในระบบแบ่งปันผลผลิตนั้น มีความเป็นธรรมต่อรัฐและประชาชนเจ้าของประเทศ มากกว่าระบบสัมปทาน
ขอพูดเพียงเท่านี้
ถ้าทำได้ พื้นฐานสำคัญของประเทศก็แข็งแรง
เหมือนเหงือกที่แข็งแรง ฟันไม่ต้องขอลา
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี