ยิ่งใกล้เลือกตั้งเข้ามา นอกจากนักการเมืองจะสรรหากลยุทธ์ทางการเมืองมาขับเคี่ยวกันทุกรูปแบบแล้ว บรรดาหมอดูทั้งหลายทั้งระดับโหรานุโหรและโหนานุโหนก็ร่วมสมทบขบวนการกันอย่างครึกครื้น กลายเป็นขนมจีนผสมน้ำพริกกับน้ำยาไปแล้ว
ทั้งโหรานุโหรและโหนานุโหนก็ใช้รูปแบบการทำนายทายทักกันสารพัดชนิด โดยเฉพาะระดับเก๋าก็จะเพ่งเอาที่ดาวมฤตยู ในขณะที่พวกโหนานุโหนกระจอกงอกง่อยทั้งหลายก็ทำนายทายทักโดยการเสี่ยงเซียมซี ไพ่ป๊อก นกจิก ไก่เขี่ย กันตามความถนัด แม้กระทั่งอาศัยไพ่ยิปซีมาทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองก็ยังมี ก็สุดแต่ประชาชนในยุค 4.0 หรือ 5.0 จะเฮไหลไปทางไหน
การที่โหรานุโหรระดับเก๋าพยายามเพ่งไปที่ดาวมฤตยูก็เพราะดาวมฤตยูนั้นแม้เพียงชื่อก็ดูขรึมขลัง ทำให้โน้มใจไปในทางที่น่าเชื่อถือว่าจะเป็นจริงตามนั้น เพราะความเป็นดาวมฤตยูก็ลึกลับและอยู่ไกลโพ้นจนสุดประมาณนัก อะไรที่ใครเข้าถึงโดยยากหรือเข้าไม่ถึงก็สามารถใช้มาอ้างอิงแหกตากันได้อย่างสบายใจเฉิบๆ เพราะหาคนมาถกเถียงโต้แย้งไม่ได้
แม้กระนั้นก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่า ในการพยากรณ์ดวงบ้านดวงเมืองและในทางโหราศาสตร์นั้น ในยุคปัจจุบันนี้ก็ยอมรับนับถือกันว่าดาวมฤตยูเป็นดาวที่มีความสำคัญมากดวงหนึ่งที่ใช้ในการพยากรณ์ทั้งเหตุการณ์บ้านเมืองและในเรื่องส่วนบุคคล ดังนั้นวันนี้จึงจำเป็นต้องมามองดาวมฤตยูกันบ้าง
อันดาวมฤตยูนั้นนับเป็นดาวเคราะห์ในทางโหราศาสตร์อีกดวงหนึ่งเมื่อไม่นานเท่าใดนัก โดยถือว่าเป็นดาวสำคัญ เป็นดาวใหญ่อยู่ไกลโพ้น และแทบไม่มีใครล่วงรู้ธรรมชาติหรือลักษณะที่ละเอียดทั้งหมดของดาวมฤตยูเลย และในทางดาราศาสตร์นั้นก็ยังไม่มีใครไปถึงดาวมฤตยู เพราะว่าอยู่ไกลโพ้นออกไปนับปีแสงยังไม่ถ้วน ดีไม่ดีก็อาจจะอยู่ในอีกโลกธาตุหนึ่งหรืออยู่ในอีกกาแล็กซี่หนึ่งก็ได้
ดังนั้นการรู้เห็นเรื่องดาวมฤตยูที่ต้องใช้การเดินทางของแสงหลายล้านปีแสงนั้นจะมีผลอะไรนักหนา เพราะกว่าเหตุการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นหรือที่สัมพันธ์กันระหว่างดาวมฤตยูกับโลกเรานี้กว่าจะถึงกันจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ล้านปีแสง แต่กระนั้นในทางพยากรณ์ก็สามารถตั้งเป็นกฎเกณฑ์ขึ้นเป็นตำรับตำราใหญ่โตและยอมรับนับถือกันในวงการโหราศาสตร์สากลโดยทั่วไป
แม้ในทางสถิติ ผลจากการคำนวณการโคจรของดาวมฤตยูก็ได้ข้อสรุปที่สำคัญและใช้กันในทางพยากรณ์กันอย่างเอิกเกริก โดยเฉพาะคือบทสรุปที่ว่าดาวมฤตยูเป็นดาวแห่งความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย
มีการแบ่งจักรภพของเรานี้ออกเป็น 360 องศา แบ่งซอยย่อยเป็น 12 ราศี ราศีละ 30 องศา แต่ละราศีแบ่งออกเป็น 3 ตรียางค์ แต่ละตรียางค์แบ่งออกเป็น 3 นวางศ์ ซึ่งดาวมฤตยูนั้นถูกถือว่าจะโคจรรอบโลกครั้งหนึ่งต้องใช้เวลา 84 ปี ดังนั้นจึงถือว่าทุกช่วงเวลา 84 ปี จะเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงกรอบใหญ่ของโลก ของภูมิภาคและประเทศไทยด้วย
ดาวมฤตยูโคจรขึ้นสู่ราศีเมษแต่ละครั้งก็ถือเป็นกรอบการเปลี่ยนแปลงรอบหนึ่งเป็นเวลา 84 ปี ซึ่งรอบนี้ดาวมฤตยูโคจรเข้าสู่ราศีเมษเมื่อสองปีที่ผ่านมา รอบก่อนหน้านี้ก็คือรอบการโคจรปี พ.ศ. 2475 ย้อนขึ้นไปอีกก็ปี พ.ศ. 2397 ย้อนไกลออกไปอีกหน่อยก็ปี พ.ศ. 2310 ส่วนก่อนจากนี้ไม่มีปฏิทินโหรที่จะตรวจดูการโคจรของพระเคราะห์ทั้งหลาย ดังนั้นจึงเอากันแค่สี่ช่วงนี้ก็พอ
ความเปลี่ยนแปลงใหญ่ในช่วงปี พ.ศ. 2475 คือการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ช่วงปี พ.ศ. 2397 คือการเปลี่ยนแปลงดุลยภาพในภูมิภาคและประเทศไทย ที่ลัทธิล่าอาณานิคมเข้ามาปล้นสะดมแผ่นดินและสมบัติของประเทศไทยครั้งใหญ่ที่สุดจนหวุดหวิดจะสูญเสียเอกราช ย้อนขึ้นไปช่วงปี พ.ศ. 2310 ก็เป็นช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง
มาคราวนี้ดาวมฤตยูก็โคจรอยู่ในราศีเมษมาสองปีแล้ว ซึ่งราศีเมษนี้ก็มีสามตรียางค์ คือ ตรียางค์ที่มีพระอังคารครอง ที่มีพระอาทิตย์ครอง และที่มีดาวพฤหัสครอง แบ่งออกเป็นตรียางค์ละ 10 องศา และนับแต่ดาวมฤตยูโคจรเข้าสู่ราศีเมษครั้งนี้ แรกเริ่มก็เข้าสู่ตรียางค์ของพระอังคาร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารหรือนักรบ สถานการณ์เป็นอย่างไรก็รู้ๆ กันอยู่ ไม่ต้องกล่าวถึงก็ได้ โดยสรุปก็คือทหารมีบทบาทและอำนาจในทุกกิจการและทุกมิติในบ้านเมือง
และเพราะเหตุที่ตรียางค์แรกที่มีพระอังคารครองนั้นยังแบ่งออกเป็น 3 นวางศ์ นวางศ์ละ 3 องศาเศษ แต่ละนวางศ์ก็มีพระเคราะห์ครอง สำหรับตรียางค์แรกก็จะมีพระอังคาร พระศุกร์และพระพุธครองนวางศ์นั้นๆ ดังนั้นแม้ช่วงแรกจะเป็นเรื่องที่ทหารมีบทบาทสูงสุด แต่ก็สลับกันไปกับเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องสื่อ รวมทั้งปัญหาความสับสนในบ้านเมือง ซึ่งดูไปแล้วหลักพยากรณ์เรื่องดาวมฤตยูก็ไม่ไกลจากความจริงเท่าใดนัก
ดาวมฤตยูจะจรพ้นออกจากตรียางค์แรกในช่วงวันที่ 21-22 พฤษภาคมนี้ โดยในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 นั้น ดาวมฤตยูจะโคจรอยู่ที่ระยะ 9 องศา 58 ฟิลิปดา และเข้าสู่ตรียางค์ที่สองคือตรียางค์พระอาทิตย์ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 โดยจะโคจรเข้าสู่นวางศ์แรกของตรียางค์ที่สอง คือนวางศ์ที่มีพระจันทร์ พระอาทิตย์ และพุธครองโดยลำดับ
ตรียางค์พระอาทิตย์จะเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงอำนาจรัฐ จาก คสช. ไปเป็นรัฐบาล ซึ่งจะเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งหรือจากวิธีการใดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และเพราะเหตุที่นวางศ์แรกเป็นพระจันทร์ เรื่องสำคัญที่สุดในห้วงเวลานั้นก็คือเรื่องการเงิน การคลัง และดุลงบประมาณ ซึ่งคงจะประดังประเดเข้ามาจากทุกสารทิศ
ใครมาเป็นรัฐบาลในช่วงนั้นจึงไม่ใช่เรื่องหมูๆ และการจะเป็นฉันใดก็ให้ศึกษาค้นคว้าอิทธิพลของดาวมฤตยูกันให้เพียงพอก็แล้วกัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี