สถานการณ์การหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย พรรคการเมืองบางพรรคที่เคยมั่นใจคิดว่านอนมา ตอนนี้ก็ดูท่าทางจะนอนใจไม่ได้ ต้องเร่งเครื่องโกยคะแนนเฮือกสุดท้าย ซึ่งสิ่งที่ง่ายกว่าการหาเสียงสนับสนุนใหม่ คือการยึดฐานเสียงเดิมของพรรคตัวเองเอาไว้ให้มั่น โดยเฉพาะเขตภาคเหนือ ภาคอีสาน ซึ่งมีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวมกันกว่า 26.2 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ ดังนั้นหากพรรคใดยึดพื้นที่สองภาคนี้ได้ ก็น่าจะเรียกได้ว่าได้แต้มต่อทิ้งห่างพรรคคู่แข่งอย่างไม่ต้องลุ้น
พรรคเพื่อไทย (พท.)ที่เคยเป็นเจ้าของพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานยาวนาน ตั้งเป้า “ปักธง” ชนะเลือกตั้งแน่นอน แต่ต้องมาสะดุดไปบ้างจากปรากฏการณ์ที่อดีตสส. ภาคเหนือ-อีสาน-กลางอย่างน้อย 30 คน ย่องเงียบ พลิกขั้วย้ายสังกัดไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จนต้องพลิกกลยุทธ์เร่งทำคะแนนนิยมคืน ด้านพรรคพลังประชารัฐเคยคาดหมายว่าจะได้ สส. อีสาน 50 ที่นั่ง และภาคเหนืออีก 20 ที่นั่ง แต่หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของ พปชร. ตัดสินใจไม่ขึ้นเวทีปราศรัย ที่จังหวัดนครราชสีมา ก็ดูเหมือนว่าจะทำให้กระแสของพรรค เริ่มแผ่วลง ร้อนถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ต้องรีบออกมาให้ข่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าเสียงสนับสนุนของพรรคยังดี และประชาชนยังให้การตอบรับกระแสของพรรคอย่างต่อเนื่อง
พรรคพลังประชารัฐเสนอนโยบายเจาะกลุ่มชาวนา เพิ่มค่าปลูกและค่าเกี่ยวข้าวต่อตัน อยู่ที่ตันละ 5,800 บาท โดยยกให้เป็นภารกิจเร่งด่วนของพรรค ขณะที่พรรคเพื่อไทยชูนโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี สนับสนุนต้นทุนชาวนา 5,000 บาท และแก้ปัญหาราคาข้าว นับได้ว่าทั้ง 2 พรรค ต่างเดินหน้าหาเสียงกับกลุ่มเกษตรกรเป็นการใหญ่ แต่ยังไม่เห็นมีพรรคใดที่จะออกอาวุธหนัก ทำนโยบายที่แตกต่างจากพรรคอื่น ทำให้เชื่อได้ว่าการจะได้ที่นั่ง สส. ภาคเหนือ และอีสาน แบบลอยลำนำโด่งจากพรรคคู่แข่งคงไม่ง่ายอย่างที่คิด
เมื่อพูดถึงภาคเหนือ ภาคอีสาน ประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่งคือเรื่องยาสูบ เพราะเป็นพื้นที่ปลูกยาสูบสำคัญของประเทศ มีชาวไร่ยาสูบและผู้เกี่ยวข้องรวมกันกว่าแสนคนกระจายอยู่ในกว่า 20 จังหวัด และตอนนี้ชาวไร่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากสาเหตุที่ภาษียาสูบปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประสบปัญหาโดนลดโควตารับซื้อใบยาจากการยาสูบแห่งประเทศไทย และจะสูญสิ้นอาชีพกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หากมีการขึ้นภาษีบุหรี่อีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 นี้
พรรคเพื่อไทยเดินเกมไปข้างหน้าก่อนด้วยการบุกจังหวัดสุโขทัย กล่องดวงใจและบ้านของนายสมศักดิ์ รับฟังปัญหาพร้อมประกาศไม่นิ่งนอนใจ จะให้ความช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบ หากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลจะทบทวนเรื่องภาษีบุหรี่เป็นการเร่งด่วน ก่อนจะส่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ภาคอีสาน พบชาวไร่ยาสูบจากร้อยเอ็ด และมหาสารคามกว่า 130 คน ถือเป็นการประกาศสงครามชิงพื้นที่ชาวไร่ยาสูบ ที่ดูเหมือนทำให้พรรคเพื่อไทยมีแต้มต่อในพื้นที่ไปอีก 1 ขั้น
ด้านเจ้าของพื้นที่เดิมอย่างนายสมศักดิ์อยู่นิ่งไม่ได้ จูงมือนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค และสมาชิกพรรคอีก 2-3 ราย พบปะและจับเข่าคุยกับชาวไร่ยาสูบใน จ.สุโขทัย และให้ความเชื่อมั่นแก่พี่น้องชาวไร่ยาสูบในการแก้ไขปัญหาโควตาและการขึ้นภาษีบุหรี่หากได้มาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
แลกกันหมัดต่อหมัดแบบนี้ ตัดสินลำบากว่าใครจะได้เสียงจากชาวไร่ยาสูบไป เหลืออีกเพียง 1 อาทิตย์ จะถึงวันเลือกตั้งแล้ว หากพรรคไหนมีหมัดเด็ด งัดออกมามัดใจชาวไร่ยาสูบได้ก่อน ก็เรียกได้ว่ากำชัยชนะในสมรภูมิเลือกตั้งนี้ไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี