การเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกหลังรัฐธรรมนูญ 2560 ใช้บังคับกำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว จะเป็นวันสำคัญต่ออนาคตของประเทศไทยและคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นเรื่องความต่อเนื่องของการบริหารบ้านเมืองของคณะ คสช. ที่ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
จะเป็นการเลือกตั้งที่กำหนดชะตากรรมของประเทศไทยและประชาชนครั้งสำคัญ เพราะถ้าหากผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ได้รับการยอมรับนับถือจากทุกฝ่าย ก็จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปโดยราบรื่น
แต่ถ้าการเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ได้รับการยอมรับไม่ว่าด้วยเหตุใดๆก็อาจจะเกิดความโกลาหลสับสนวุ่นวายและอาจทำให้ความขัดแย้งบานปลายขยายตัวออกไปอีกจะทำให้ผลของการเลือกตั้งนั้นแทนที่จะได้รัฐบาลที่ทุกฝ่ายยอมรับนับถือ กลับจะได้มาซึ่งความขัดแย้งขั้นใหม่ที่มีความเสี่ยงภัยสูงยิ่ง
ดังนั้นประเทศไทยจะก้าวไปทางไหน คือในวิถีแห่งความร่มเย็นเป็นสุข หรือความแตกแยกขัดแย้ง และความรุนแรง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายทุกคนควรจะได้ตระหนักและสำเหนียกไว้ให้มาก จะได้มองเห็นประโยชน์ใหญ่ของชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ และจะได้ข้ามผ่านความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องไปได้เสียทีหนึ่ง
การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้แม้ว่าเกิดขึ้นภายใต้กฎหมายและระเบียบต่างๆ ตลอดจนการวางบุคคลในองค์กรต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ จึงตกเป็นที่เพ่งเล็งของประชาชนไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศต่างก็ให้ความสนใจว่าจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ และจะได้รับการยอมรับนับถือหรือไม่
และต้องยอมรับความจริงว่า การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ถูกจับจ้องมองด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจมากที่สุด ดังนั้นจึงเกิดกระบวนการตรวจสอบการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของประเทศไทย
ต่างชาติได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศเหล่านั้นแต่เมื่อเกิดความสนใจขึ้นแล้วก็ได้ส่งทีมงานและคณะทำงานต่างๆ เข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ซึ่งพวกต่างชาติที่ว่านี้ก็รวมไปถึงองค์กรประชาสังคมต่างๆ รวมทั้งองค์กรจัดตั้งของต่างประเทศด้วย
นอกจากพวกต่างชาติแล้ว ภาคประชาสังคมหลายองค์กรของประเทศไทย รวมทั้งองค์กรกลางที่เคยติดตามการเลือกตั้งในประเทศไทยมาหลายครั้งหลายหนก็ได้ให้ความสนใจการเลือกตั้งครั้งนี้มาก ได้ระดมกำลังอาสาสมัครจำนวนมากเพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้งในพื้นที่ทั่วประเทศ
พรรคการเมืองที่มีส่วนได้เสียหลายพรรคก็จัดตั้งทีมอาสาสมัครขึ้นเพื่อตรวจสอบการเลือกตั้ง โดยบางพรรคการเมืองได้ระดมอาสาสมัครถึง 90,000 คน ดังนั้นเมื่อรวมกำลังอาสาสมัครจากทุกพรรคการเมืองรวมกันแล้ว เฉพาะผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งจากพรรคการเมืองก็จะมีจำนวนหลายแสนคน
ที่สำคัญคือ การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นในยุคสมัยที่โซเชียลมีเดียและเครื่องไม้เครื่องมือในการตรวจสอบก้าวหน้าทันสมัยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ดังนั้น จึงอาจทำให้มีการตรวจจับการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือการโกงเลือกตั้งกันอย่างกว้างขวางก็ได้
และถ้ามีการรายงานผลเรื่องการโกงการเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และเป็นเรื่องร้ายแรงมากขึ้นแล้ว ก็จะเป็นสาเหตุสำคัญที่จะทำให้เกิดการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง หรืออย่างน้อยที่สุดก็เกิดความขัดแย้งที่จะต้องร้องเรียนให้มีการไต่สวนในการเลือกตั้งแต่ละพื้นที่กันอย่างกว้างขวาง
การเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมามีผู้ทำการทุจริตถูกลงโทษติดคุกติดตะรางกันมาแล้วเป็นจำนวนมาก ดังนั้นในครั้งนี้เมื่อกระบวนการตรวจสอบประกอบด้วยคนจำนวนมาก และเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยในยุคโซเชียลมีเดียกำลังมีบทบาทมาก จึงเป็นไปได้ว่าอาจส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตในการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องติดคุกติดตะรางดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วเป็นจำนวนมาก
จึงเป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องต้องสังวรไว้ให้ดีอย่าคิดว่าจะมีอำนาจอยู่ค้ำฟ้า เพราะบางทีแม้มีอำนาจอยู่ก็ยังถูกอุ้งหัตถ์แห่งความยุติธรรมจิกหัวเอาไปใส่คุกก็มีให้เห็นเป็นจำนวนมากมาแล้ว
สำหรับภาคประชาชนที่จะต้องรับผลโดยตรงจากการเลือกตั้งล้วนได้รับบทเรียนอันเจ็บปวดสาหัสมาตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา และย่อมได้รับบทเรียนอันอุดมสมบูรณ์แล้วว่าบ้านเมืองของเราที่อุดมสมบูรณ์ มีความมั่งคั่ง แต่ต้องย่อยยับอับจนใกล้ตกอยู่ในสภาพ “ประเทศล่มจม ประชาชนล้มละลาย” นั้น ล้วนเกี่ยวข้องกับการเมือง
ล้วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งที่เคยหลงผิดไปเลือกผู้แทนโดยเห็นแก่อามิสและประโยชน์หรือสินจ้างรางวัล โดยไม่คำนึงถึงผิดชอบชั่วดี จึงทำให้พวกโจรานุโจรเข้าไปมีอำนาจในบ้านเมือง ก่อกรรมทำเข็ญให้กับประเทศชาติและประชาชน ไม่ว่าในรูปลักษณะการโกงชาติ ปล้นชาติ หรือขายชาติก็ตาม จนกระทั่งถึงวันนี้เฉพาะจำนวนคนไทยที่ยากไร้ยากจนต้องถือบัตรคนจนก็มีถึง 14 ล้านคนแล้ว หากทำผิดซ้ำซากในที่สุดก็อาจต้องถือบัตรขอทานกันหลายสิบล้านคนก็เป็นได้
ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้จึงจำเป็นที่ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศต้องตั้งใจให้มั่นคง พยายามเลือกคนดีที่สุดเข้าสภาเพื่อไปจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นธรรมาธิปไตยที่ทำการเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินและอาณาประชาราษฎรทั้งปวง
อย่าเลือกคนไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นคนโกงชาติ ปล้นชาติ หรือขายชาติเข้าไปมีอำนาจเป็นอันขาด เพราะคนโกงนั้นไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ต้องโกงวันยังค่ำ และไม่ว่าย้ายไปอยู่ที่ไหนก็ยังจะโกงมากขึ้นไปอีก
อุปมาดั่งเหี้ย ไม่ว่าอยู่ในป่า หรืออยู่ริมน้ำ หรืออยู่ใต้ถุนอาศรมฤาษีก็ไม่มีวันที่จะเป็นคนไปได้ เพราะสันดานมันเป็นเหี้ยตามธรรมชาติของมัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี