ผมในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ทุนมนุษย์ เห็นคุณค่าของการลงทุนในตัวคน ถึงแม้ไทยยังทำได้ไม่ดีนักเพราะมีปัญหาอีกมาก เช่น
คุณภาพของเด็กเกิดใหม่ เพราะแม่มีลูกเมื่อยังมีอายุน้อย ยังไม่พร้อม น่าเศร้าเพราะยิ่งเด็กเกิดน้อยและคุณภาพแย่ลง
ส่วนผู้หญิงที่มีการศึกษาสูง ซึ่งเป็นจุดแข็งของตลาดแรงงานของไทย กลับแต่งงานช้า หรือบางคนไม่แต่งงาน ทำให้ลูกคุณภาพเกิดน้อยเกินไป คุณภาพของคนจึงเกิดความเหลื่อมล้ำ คือจำนวนเด็กเกิดน้อยแล้วคุณภาพของเด็กก็ไม่ดี ครอบครัวอ่อนแอ
แต่ประเทศไทยยังโชคดีที่มีคนจากประเทศอื่นมาช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เราไม่รังเกียจคนชาติอื่นๆ ที่มาทำงานให้เรา ไม่ติดนิสัยมาจากทรัมป์ ที่รังเกียจคนชาติอื่นๆ ทำเพื่อเอาใจฐานการเมืองของตนเอง
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
วิธีการมองปัญหาของคนไทย น่าจะเป็นตัวอย่างให้ชาวโลกนำไปใช้ เช่น ช่วงแรกที่จีนหนีปัญหาเศรษฐกิจยากจนเข้ามาทำงาน สามารถเข้าได้กับคนไทยและทำให้สังคมชาวนาเกษตรของไทย กับสังคมพ่อค้า มีการค้าขายไปด้วยกัน ผสมกันได้อย่างดี คนจีนมีบทบาทและได้รับการยอมรับจากคนไทย ยังไม่เคยเห็นคนไทยบ่นว่าคนไทยคนจีนร่ำรวย ไม่มีการเหยียดผิดหรือเชื้อชาติ ยิ่งในช่วงหลังที่เราขาดแคลนแรงงานจำนวนเป็นล้าน เราสามารถดึงดูดแรงงานจากเพื่อนบ้านมาได้ เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา และต้องไม่ลืมกลุ่มชาวเวียดนาม ที่เข้ามาทำมาหากินภาคอีสาน เช่น นครพนม ร่ำรวยไปหลายคน ปัจจัยเหล่านี้ผมเรียกว่า มูลค่าความหลากหลาย Value Diversity
การใช้ชีวิตร่วมกันได้ดี เป็นตัวอย่างของมูลค่าจากความหลากหลาย หรือที่ผมใช้คำว่า Value Diversity แต่เราจะประมาทไม่ได้ ควรจะมีการกำหนดนโยบายแรงงานต่างด้าวให้ดี เพราะถึงแม้จะมีความเข้าใจและสามัคคีกันก็ต้องไม่ประมาทในระยะยาว และคนไทยต้องเรียนรู้จากความยากจนและความขยันของแรงงานเพื่อนบ้านของเรา เช่น คนชาวเมียนมาที่อดทนเก็บเงิน บางคนมีฐานะดีกว่าคนไทย แต่คนไทยก็ไม่เคยรังเกียจเขา
ซึ่งหากเปรียบเทียบกับประเทศที่คิดว่าตัวเองเจริญเช่น สหรัฐอเมริกา ที่ได้ประโยชน์อย่างมากจากแรงงานอพยพมาในอดีต แต่การเมืองโดยเฉพาะนโยบายของทรัมป์สร้างความเกลียดชัง คิดว่าคนอเมริกาผิวขาวเท่านั้นที่มีสิทธิ์เหนือชาติอื่นๆ
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
ที่น่าตลกคือ คนอเมริกันตี 2 หน้า เช่น คนผิวดำ ประสบความสำเร็จในเรื่องกีฬา เช่น อเมริกันฟุตบอล หรือบาสเกตบอลก็สนุกและชอบ เพราะความหลากหลาย (Value Diversity) และยังทำเงินให้แก่คนผิวขาว เจ้าของธุรกิจ แต่ลึกๆ แล้วคนอเมริกันยังเหยียดผิวอยู่ ทำให้เห็นว่าอเมริกาไม่มีความจริงใจต่อการความเข้าใจเรื่อง Value Diversity
สำหรับเมืองไทยถึงแม้เรื่อง Value Diversity เป็นประโยชน์ต่อเรา แต่ในอนาคตพึงต้องระวัง ผมว่ามี 2 เรื่อง
เรื่องแรกคือ จะมีนโยบายอย่างไรเรื่องแรงงานอพยพ สิ่งแรกที่ควรจะเน้นคือให้ทุนระดับปริญญาโทและปริญญาเอกของประเทศ CLMV และให้ทำงานต่อที่เมืองไทย ปลูกฝังให้แรงงานอพยพเหล่านั้นเข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน รวมทั้งผู้ที่อพยพจากทวีปแอฟริกาที่มาเรียนด้วย
ผมเห็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ เอาเด็กจากหลายๆ ประเทศมาเรียน มีโครงการทั้งปริญญาโทและปริญญาเอก ซึ่งผมมีโอกาสได้เป็นประธานดูแลวิทยานิพนธ์อยู่ ทั้งจีน อินโดฯ และแอฟริกา สิ่งที่มหาวิทยาลัยทำอยู่ภายใต้การนำของนายกสภามหาวิทยาลัยชื่อ ดร.ศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ และ ดร.ปรารถนา ศรีสุข ผู้อำนวยการโครงการจัดตั้งวิทยาลัยนานาชาติ เป็นการสร้าง Value Diversity ได้ดีมากๆ
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ผมชื่นชมมาก ยังมีโครงการปริญญาเอกจะเริ่มโดยขอให้ผมเป็นประธาน ผมตั้งใจว่าวิทยานิพนธ์ทั้งโทและเอกจะนำเรื่องที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ มีระบบการบริหารที่มีการทำงานอย่างต่อเนื่องที่มีคุณภาพ ผมภูมิใจที่มาช่วยทำโครงการ ซึ่งเป็นตัวอย่างของ Value Diversity ให้ไปได้ดี
ส่วนความห่วงใยเรื่องความเสี่ยงของ Value Diversity ในไทยระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่าคือ คนรุ่นใหม่ไม่ศึกษาประวัติศาสตร์ ความเป็นมา ได้แต่ก้มหน้าดูจากโทรศัพท์และเทคโนโลยีไม่มองปัจจัยทางวัฒนธรรม หรือประวัติศาสตร์ วันหนึ่งความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้น Value Diversity ของไทยคือให้ทุกกลุ่มอายุอยู่ร่วมกันอย่างพอดีคนอายุน้อยก็มีประโยชน์ แต่คนอายุมาก 50-70 ก็มีประสบการณ์ หรือที่เรียกว่า Wisdom ควรจะทำงานร่วมกัน ถ้าขัดแย้งกันอาจจะนำไปสู่ปัญหาของคนรุ่นใหม่ที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้จักรากเหง้าประเทศของตัวเองดูได้จากคะแนนนิยมของพรรคอนาคตใหม่แบบถล่มทลาย
ปิยบุตร แสงกนกกุล
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี