การเลือกตั้งแบบ “ทรีอินวัน” คือกาบัตรใบเดียวได้ผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ได้ผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และได้นายกรัฐมนตรี ที่ผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 นั้น บ้านเมืองโดยรวมจะดีขึ้นตามความต้องการหรือไม่ เป็นเรื่องน่าคิด
ไม่ว่าใครก็อยากเห็นทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้น โดยเฉพาะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะยังไงก็คงจะดีกว่ารัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ ที่บริหารบ้านเมืองมาห้าปีแล้วแต่ไม่มีอะไรจะดีขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องปากท้องของประชาชนที่ทำมาหากินดูจะยากลำบากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป ไม่นับเรื่องอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน
ผ่านการเลือกตั้งมาค่อนเดือนแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างก็ยังไม่เรียบร้อยเหมือนก่อนที่ผ่านมา โดยเฉพาะโฉมหน้าของผู้ได้รับการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพราะยังต้องตรวจสอบความถูกต้องในเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทั้งการฟ้องร้องกันในเรื่องความไม่โปร่งใสของคะแนนเสียงของผู้คนที่ได้รับการเลือกตั้งในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพวกที่ได้รับการเลือกตั้งจากพรรคการเมืองบางพรรคที่มีคราบเขม่าปืนติดตัว
ใครจะได้เป็นผู้แทนราษฎร พรรคการเมืองไหนจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาจำนวนเท่าไร พรรคไหนจะได้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล จึงยังไม่มีอะไรแน่นอน เพราะต้องรอไปจนกว่าจะถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 โน่นเลยซึ่งจะมีคำประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ
ทุกอย่างในขณะนี้จึงยังคงยุ่งเหมือนยุงตีกัน
นี่ว่ากันเฉพาะในเรื่องการเลือกตั้งที่อะไรๆก็ยังไม่แน่นอนในขณะนี้ ไม่นับถึงสถานการณ์อื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาอีก จากการยุงยงส่งเสริมของคนเสียประโยชน์ทั้งกลุ่มเก่าและกลุ่มใหม่ ซึ่งทำงานอยู่เบื้องหลัง
เลือกตั้งเสร็จแล้วก็จริง แต่บ้านเมืองก็ยังคงยุ่งต่อไป
คำกล่าวที่ว่า “อดีตบอกปัจจุบัน และปัจจุบันบอกอนาคต” นั้น เป็นคำกล่าวที่ไม่ห่างไกลจากความเป็นจริง เพราะอดีตเป็นพื้นฐานสำคัญของปัจจุบันเกี่ยวกับความเป็นไป และปัจจุบันเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะบอกให้รู้ถึงอนาคต
เพราะผลที่เกิดขึ้นย่อมมาจากเหตุที่มีอยู่ เหมือนมีควันที่ไหน ย่อมต้องมีไฟอยู่ที่นั่น เพราะถ้าเหตุยังไม่ดับ ผลก็ยังต้องมีอยู่ต่อไปนั่นเอง
การบริหารจัดการบ้านเมืองที่ไม่โปร่งใส มีการทุจริตหรือไม่ค่อยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม แต่เป็นไปเพื่อประโยชน์ตนและพรรคพวกของตน มีการใช้อำนาจพิเศษ หรือมีการใช้อำนาจตามใจชอบเพื่อประโยชน์ตนที่ผ่านๆ มานั้น เป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นถึงปัจจุบันและอนาคต
มีการจัดการไปมากน้อยแค่ไหน เหมือนการดับไฟที่เคยลุกไหม้ ว่าไฟนั้นได้ดับไปแล้วจริงๆ มากน้อยแค่ไหน หรือยังคงมีควันลอยให้เห็นอยู่ในขณะนี้
เลือกตั้งเสร็จแล้วและกำลังจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารจัดการบ้านเมืองภายใต้หมอกควันจากไปที่ยังดับไม่หมดอย่างนี้ ถ้าได้ผู้บริหารที่ไม่ดี โดยเฉพาะผู้บริหารที่ชอบเปลี่ยนพรรค เปลี่ยนที่อยู่เพื่อหวังเกาะติดขบวนไปด้วย อย่างที่เห็นในขณะนี้หลายที่หลายแห่งนั้น บอกได้อย่างเดียวว่า อนาคตของบ้านเมืองก็จะซ้ำรอยเดิมที่ไม่ได้เรื่องในผลประโยชน์ส่วนรวม
ความวิกฤติต่างๆก็คงจะยังคงมีอยู่ต่อไป
ผู้คนในบ้านเมืองที่มีความเดือดร้อนก็จะเดือดร้อนต่อไป
ความล่อแหลมต่อวิกฤตการณ์ต่างๆ จะหวนกลับมาอีก
คนยากคนจนที่ยากลำบากอยู่แล้วก็คงต้องยากลำบากต่อไป และมีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น สวนทางกับความเป็นจริงในเรื่องทรัพยากรแผ่นดิน ทั้งบนบก ในทะเล และในอากาศ ซึ่งจะเป็นความล้มเหลวอีกครั้งหนึ่งในทางการเมืองบ้านเรา
ผู้คนทั้งหลายที่ตั้งความหวังไว้อย่างสูงว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คงจะได้คนที่มาทำหน้าที่แก้ไขปัญหาต่างๆของบ้านเมือง ทั้งปัญหาเก่าที่ยังคงมีอยู่ และปัญหาใหม่ที่กำลังทยอยกันเข้ามา ให้ลดน้อยลงหรือหมดไปนั้น อาจต้องประสบกับความผิดหวังอีกครั้งหนึ่ง
โดยเฉพาะพวกนักการเมืองหน้าเดิมที่เคยทำความเสียหายให้กับบ้านเมืองมาแล้ว โดยเฉพาะพวกขี้ฉ้อทุจริตทั้งหลายที่หน้าสลอนอยู่ในขณะนี้ในพรรคการเมืองบางพรรค โดยเฉพาะในพรรคที่มีอำนาจพิเศษหนุนหลังอยู่
ความหวังที่ตั้งไว้อาจไม่ได้พบ ไม่ได้เห็น ชีวิตความเป็นอยู่ของคนยากคนจนก็คงจะต้องเดินไปในรอยเดิม
ถ้าแต่งเป็นคำกลอนคงจะได้ดังต่อไปนี้
“นี่คือภาพ ที่แท้จริง ของประเทศ
แสนทุเรศ อย่างมาก น่าหดหู่
ยังแบ่งฝัก บางฝ่าย ไล่รับดู
จะหดหู่ เศร้าหมอง เมื่อมองเมือง
ใครก็ตาม เข้ามา มีอำนาจ
ควรรีบกวาด ตาดู ให้รู้เรื่อง
รู้จักแยก รู้จักแยะ ถึงฟันเฟือง
ว่าต้นเรื่อง ต้นเหตุ อยู่ที่ใด”
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี