ช่วงนี้เป็นวันสงกรานต์ เป็นวันเถลิงศกใหม่ของไทย ตามประเพณีไทยมีการรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่เพื่อความสิริมงคล มีการสรงน้ำพระและเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน มีการเข้าวัดทำบุญทำทานรักษาศีลตักบาตรพระสงฆ์ ทำจิตใจให้สงบ เพื่อนำชีวิตดำเนินไปสู่ความสุขความดียิ่งๆ ขึ้น
การสั่งสมความดีนั้น ยิ่งสั่งสมมากก็ยิ่งมีคุณค่ามาก ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
จึงขอถือโอกาสนี้พูดถึงเรื่องคนตามคติในพระพุทธศาสนา เพื่อเก็บไว้คิด ในการประพฤติปฏิบัติตน
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า คนในโลกนี้มีอยู่ด้วยกัน 4 จำพวก คือ มืดมามืดไป มืดมาสว่างไป สว่างมามืดไป และสว่างมาสว่างไป
ทั้ง 4 จำพวกมีคำอธิบายไว้ดังนี้
คนที่มืดมามืดไป เป็นคนที่เกิดมาแล้วชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นคนชอบลักทรัพย์ ชอบขโมย พูดเท็จ ทำแต่ความไม่ดี ไม่มีศีลธรรม เมื่อตายจากโลกนี้ไปก็ไปเกิดในสถานที่ที่ยากลำบาก เช่น เกิดในอบายภูมิ เมื่อกลับมาเกิดใหม่ในโลก ก็จะเกิดในสถานที่ที่ยากลำบาก เดือดร้อน บางคนเกิดมาในดินแดนที่แห้งแล้ง ทุรกันดาร มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก หาที่อยู่ที่อาศัยก็ยากลำบาก หาอาหารกินก็ยากลำบาก เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มไม่ค่อยพอเพียง
บางคนเกิดมาปัญญาอ่อน บางคนตาบอด บางคนหูหนวก บางคนเป็นบ้า บางคนแขนขาดขาขาด บางคนกำพร้าพ่อแม่ การศึกษาเล่าเรียนเบื้องต้นไม่มี มีจิตใจที่กักขฬะ คบแต่มิตรชั่ว คนพวกนี้เป็นคนไม่รู้สึกตัว ไม่เชื่อบุญ ไม่เชื่อบาป ไม่เชื่อสวรรค์นรก ไม่เห็นบุญคุณของผู้มีพระคุณ เป็นคนที่เห็นว่าตายแล้วสูญ มือยาวสาวได้สาวเอา บางคนตั้งตัวโกงกิน
คนที่มืดมาสว่างไป เป็นคนที่คดต้นปลายตรง คนพวกนี้เคยทำความชั่วไว้มาก ประพฤติผิดศีลธรรม เมื่อกลับมาเกิดในโลกมนุษย์อีก เศษกรรมที่เหลืออยู่ ทำให้เขาเกิดมาลำเค็ญ ลำบากเดือดร้อน แต่เป็นคนประเภทที่รู้สึกตัวรู้ว่าที่ตัวเกิดมาจน เป็นคนต่ำต้อย ไร้การศึกษา พ่อแม่ยากจน กำพร้าพ่อกำพร้าแม่ แต่รู้สึกตัวว่าที่ต้องด้อยกว่าเขานั้น เพราะสร้างกรรมดีไว้น้อย จึงต้องรับความทุกข์อยู่อย่างนั้น คนจำพวกนี้เมื่อรู้สึกตัวก็เร่งสร้างความดี เชื่อฟังพ่อแม่ ขวนขวายในการเรียน ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ ไม่ทอดทิ้งในการสร้างตัว
คนประเภทนี้มีอยู่ไม่น้อยในโลกปัจจุบัน ชีวิตที่ต่ำต้อยมาแต่ต้นของเขาถูกลบทิ้งด้วยการทำดีของเขา ไม่ยอมทำความชั่ว รับใช้สังคมและประเทศชาติด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สุดท้ายก็ไปดี มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต เป็นคนจำพวกที่มืดมาสว่างไป
คนที่สว่างมามืดไป คือคนประเภทที่เกิดมาดี ร่ำรวยมีทรัพย์สินเงินทองมาก เกิดมาในสกุลสูง ต้องการอะไรก็จะได้ ทั้งบ้านช่องที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า ยารักษาโรค อาหารการกินสะดวกสบายทั้งปวง มีแต่ความสบายเพราะกรรมดีที่เคยสร้างไว้ แต่คนประเภทนี้เป็นคนไม่รู้สึกตัวคือไม่รู้สึกตัวว่า การที่เป็นเช่นนี้เพราะกรรมดีของตนที่เคยทำไว้
แต่เป็นคนไม่เชื่อเรื่องบุญเรื่องบาป ไม่เชื่อนรกสวรรค์ ไม่เชื่อคุณของพ่อแม่ ไม่สนใจการศึกษาเล่าเรียน ชอบใช้แต่เงิน ใช้อำนาจของพ่อแม่หรือเจ้านายเบียดเบียนผู้อื่น ไม่สนใจการทำงานเพราะมีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว คนประเภทนี้ในเบื้องต้นเจริญรุ่งเรือง เพราะพ่อแม่ยังอยู่ แต่เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าหรือตายไปแล้ว คนประเภทนี้ก็หมดตัว บางคนต้องติดคุก บางคนที่มีตำแหน่งการงานสูง มียศศักดิ์สูง ก็ต้องตกต่ำทรุดลง จากเศรษฐีกลับยากจน จากรัฐมนตรีต้องติดคุก ถูกไล่ออกจากงาน ถูกฟ้องล้มละลาย เป็นเพราะทำกรรมไม่ดี ทำแต่เรื่องทุจริต ตายไปก็มืดมน ไปเกิดในสถานที่ลำบาก คนประเภทนี้เป็นคนที่สว่างมามืดไป
คนที่สว่างมาสว่างไป เป็นคนที่เกิดมามีความเจริญรุ่งเรืองในเบื้องต้น และเป็นคนที่รู้สึกตัว คือรู้ว่าการที่ตนเกิดมาดี ร่ำรวยมีความสุข ได้รับการศึกษาดี มีร่างกายสวยสดงดงาม มีปัญญาเป็นเลิศ ก็เป็นเพราะความดีที่ตนเคยกระทำและสั่งสมมาแต่ชาติก่อนๆ เขาทำความดีต่อไปอีก ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอันดี ขยันหมั่นเพียร เชื่อบุญเชื่อบาป สั่งสมแต่ความดี แม้พ่อแม่ร่ำรวยแค่ไหน ก็ไม่มัวเมาหรือประมาท ช่วยเหลือคนอื่นและบ้านเมืองตลอด เป็นคนที่เรียกว่า สว่างมาสว่างไป
ทั้งหมดเป็นเรื่องของคน 4 จำพวก ซึ่งเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ใครทำกรรมอย่างไรไว้ก็จะเก็บเกี่ยวผลแห่งกรรมที่ตนทำไว้
เหมือนหว่านพืชชนิดใดลงไปก็ได้รับผลแห่งพืชนั้น
ดังพุทธภาษิตที่ว่า “บุคคลหว่านพืชชนิดใด ย่อมได้รับผลชนิดนั้น ผู้ทำกรรมดีย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมไม่ดีย่อมได้รับผลชั่ว”
กฎแห่งกรรมนั้นสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองตามกาลเวลา ซึ่งการทำบุญนั้นเป็นกรรมดีอย่างหนึ่ง ซึ่งมิเฉพาะวันสงกรานต์เท่านั้น เพราะการทำบุญนั้นทำได้ทุกเมื่อ
บุญคืออะไร ทำบุญอย่างไรจึงจะถูกต้องและได้ผลมาก ขอยกไปพูดต่อในตอนต่อไป
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี