น้องๆ นักเรียนระดับประถม ในภาพนี้ยังทันสมัยกว่ารุ่นผม เพราะรุ่นผมที่ถือว่าเป็นคนใกล้เกษียณแล้วทั้งรุ่นแทบไม่มีรองเท้าสวมใส่ ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา บริการจากภาครัฐยังไปไม่ทั่วถึง คล้ายๆในหนังเรื่อง “ครูบ้านนอก” แสดงนำโดยปิยะ ตระกูลราษฎร์ และ วาสนา สิทธิเวช ออกฉายเมื่อประมาณปี 2521
แต่ในยุคปัจจุบันนับเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง สำหรับเด็กในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล ชนบท ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการศึกษาเล่าเรียน เนื่องจากในปีการศึกษาหน้าสถานศึกษาสังกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อบรรเทาอุปสรรคการมาเรียน ลดความเสี่ยงในการหลุดออกจากระบบของเด็กด้อยโอกาส ที่สำคัญช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
สำหรับรายละเอียดของโครงการดังกล่าว เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือ ระหว่าง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ลงนามความร่วมมือดำเนินโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนแบบมีเงื่อนไข ในสถานศึกษาสังกัดอปท. และโครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา โดยในปีการศึกษา 2562 จะมีโรงเรียนในสังกัด อปท.เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 377 แห่ง ใน 10 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น ร้อยเอ็ด นนทบุรี สระแก้ว กาญจนบุรี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา ภายใต้การจัดสรรเพิ่มเติม 1,000 บาท/คน/ภาคเรียนในระดับอนุบาล-ประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม จะเข้าสู่กระบวนการคัดกรองความยากจนของนักเรียนได้ตรงตามความต้องการที่แท้จริง
นายทวี เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ระบุว่า ถือเป็นการปฏิรูปแนวทางการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในระดับท้องถิ่น แต่ผลลัพธ์ปลายทางจะนำไปสู่ทางออกของประเทศ ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเครื่องมือที่เป็นนวัตกรรม ได้แก่ ระบบข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อความเสมอภาค (iSEE) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษหรือนักเรียนทุนเสมอภาค และการติดตามนักเรียนผลการสนับสนุนนักเรียนเป็นรายบุคคลอย่างครบวงจร ยกระดับการทำงานของสถานศึกษาสังกัดอปท. ครู ในการคัดกรอง ติดตามนักเรียนเป็นรายบุคคล ตรงตามสภาพปัญหา ขณะที่สถานศึกษาในสังกัดอปท. ยังสามารถใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลนี้ พัฒนาคุณภาพนักเรียนได้ในระยะยาว
“โครงการนี้ก่อให้เกิดการปฏิรูปกลไก การจ่ายเงินอุดหนุนของภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ระบบข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศการมีเกณฑ์การคัดกรองนักเรียนยากจนและกลไก
ตรวจสอบหลายระดับจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ทั้งแก่ นักเรียน ผู้ปกครองและสังคม เป็นโครงการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่วนก้าวต่อไปที่จะเกิดขึ้น ใน 3 ปีนั้น คือ อปท.จะสนับสนุนการค้นหา บันทึกข้อมูล ตรวจสอบและรับรองข้อมูลผลการคัดกรองกลุ่มเด็กปฐมวัย นักเรียนในระบบ นอกระบบที่ยากจนและด้อยโอกาส เพื่อเป็นข้อมูลให้กสศ.นำไปค้นหาเด็กกลุ่มนี้ต่อไป” นายทวี กล่าว
ด้าน นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา อธิบายเสริมว่า เป็นการช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษ ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 3
โดยกสศ. จัดสรรเพิ่มเติมในส่วนที่ยังไม่เคยมีหน่วยงานใดสนับสนุนให้แก่นักเรียนกลุ่มนี้มาก่อน โดยมีกลไกการตรวจสอบหลายระดับเพื่อสร้างความมั่นใจทั้งแก่นักเรียน ผู้ปกครองและสังคม ว่า เงินอุดหนุนนี้จะสามารถช่วยเหลือนักเรียนที่กำลังเดือดร้อนที่สุดได้อย่างแท้จริงอย่างโปร่งใส่ และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
ผมเขียนเรื่องนี้ก็เผื่อว่าบรรดาโรงเรียนประถม มัธยมต่างๆ จะขอการสนับสนุนช่วยเหลือนักเรียนยากจนเป็นพิเศษ เพื่อประโยชน์ของการศึกษาไทย ก็ลองศึกษาหาข้อมูลดูนะครับ คุณหมอสุภกร บัวสาย ผู้จัดการ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พร้อมจะลงไปสนับสนุนทุกพื้นที่ครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี