ปรากฏการณ์ข่าว การโต้ตอบกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องการให้ “เราต้องการยกเลิกวัฒนธรรมอำนาจนิยม ซึ่งกีดกันโอกาส กีดกันความคิดสร้างสรรค์ของคน……เรียกคนอื่นเป็น พี่ ป้า น้า อา เมื่อไหร่ มันเป็นการเข้าไปอยู่โครงสร้างอำนาจนั้น……..ใช้คำว่า คุณ ผม ดิฉัน สามคำเพียงพอแล้ว ให้เกียรติกันมากพอแล้ว ไม่มีพี่ ไม่มีท่าน”
ต้องบอกว่าพรรคอนาคตใหม่ ประสพความสำเร็จในการดึงความสนใจของสังคมเข้าสู่ตน
ถ้าสังเกตดูให้ดี คนของพรรคอนาคตใหม่โดยเฉพาะหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ใช้แทคติกการนำเอาประเด็น “ค่านิยม” ขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
การยกเลิกทหารเกณฑ์ ลดจำนวนนายพล
ยกเลิกพิธีไหว้ครู เพราะเจ้ายศ เจ้าอย่าง
รัฐควรถอยตัวเองออกจากศาสนา ไม่ควรอุปถัมภ์ศาสนาอะไรเลย
ต้องสร้างสังคมเท่าเทียมให้เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย “มาร่วมกันทำภารกิจเมื่อ พ.ศ. 2475 เพื่อให้ประชาธิปไตยยั่งยืนกัน 86 ปียังทำไม่สำเร็จ ให้สำเร็จกันสักครั้ง”
การนำเอาเรื่องค่านิยม และความเชื่อของคนไทยขึ้นมาเป็นประเด็นขัดแย้ง ย่อมสร้างวิวาทะและความสนใจได้มาก เพราะความเชื่อและค่านิยมเป็นเรื่องของการให้น้ำหนัก ให้ความสำคัญของปัจจัยหรือผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่เรื่องของเหตุผล ไม่มีคำตอบสำเร็จตายตัว แต่ยั่วยวนให้ผู้คนโต้ตอบและเกิดอารมณ์
พรรคอนาคตใหม่รู้และตั้งใจจะให้เกิดการถกเถียง เพื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงและได้คะแนนนิยมจากคนกลุ่มหนึ่ง
แต่ผลกระทบของมันก็คือ เกิดความแตกแยกและอารมณ์โกรธ อารมณ์ร่วม
ตรงใจคนหนุ่ม-คนสาว
การเรียกขาน นับญาติ สะท้อนอะไร?
จริงอย่างที่ธนาธรพูด (ไม่ขอเรียก น้องธนาธร หรือ คุณธนาธร หรือหัวหน้าธนาธร) สังคมไทยมีการใช้สรรพนามเรียกแทนบุคคลมากมายหลายอย่าง
1. นักการเมืองในสภาและในทำเนียบรัฐบาล มีผู้นิยมเรียกกันว่า “ท่าน” และหลายคนก็อยากให้คนอื่นเรียกตัวเองว่า “ท่าน” เช่น ท่านธนาธร ท่านปิยบุตร
ฟังดูแล้วก็เป็นความต้องการให้ยกสถานภาพของตนให้สูงขึ้น ทั้งๆ ที่การเรียกว่าท่าน จะใช้แต่เฉพาะเรียกตำแหน่ง เช่น ท่านอธิบดี ท่านปลัดกระทรวง ท่านรัฐมนตรี เป็นต้น
และที่นิยมใช้กัน ก็เพื่อเรียกเจ้านายระดับหม่อมเจ้าขึ้นไป หรือเรียกขานพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง
แต่สังคมที่นิยมเรียกท่านแล้วตามด้วยชื่อ ก็จะมีวัฒนธรรมของลาว เช่น ท่านบุนยัง ท่านพันคำ ท่านไกรสร เป็นต้น
2. ผู้หญิงจำนวนหนึ่งไม่ต้องการให้เรียกคำนำหน้าว่า “นาง” หรือ “นางสาว” ซึ่งเป็นการประกาศสถานะสมรสโดยไม่จำเป็น บางคนมีลูกแล้วแต่ต้องการให้เรียกนางสาวก็มี เช่น นางสาวยิ่งลักษณ์
บางคนมีสามีแต่ไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งจะมีคำนำหน้านามว่า “คุณ” แต่อยากให้เรียก “คุณหญิง” จึงไปจดทะเบียนเพื่อจะได้คำนำหน้า “คุณหญิง” เช่น คุณหญิงหน่อย เป็นต้น
3. การเรียกขานบุคคลที่เป็นหม่อมราชวงศ์ นิยมเรียกกันว่า “คุณชาย” “คุณหญิง” จึงมีคนจำนวนหนึ่งอยากจะให้เรียกว่า “คุณผู้ชาย” “คุณผู้หญิง” และยิ่งมีคนเรียกว่า “คุณท่าน” จะยิ่งพอใจ
4. คนไทยแต่เดิมโดยเฉพาะในชนบท นิยมเรียก “พี่” “น้อง” “ลุง ป้า น้า อา ย่า ยาย” โดยเฉพาะในภาคอีสานจะนิยมเรียกคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ว่า “พ่อ” “แม่” ถือเป็นการให้ความเคารพนับถือ มีความสนิทสนมเป็นกันเอง แม้จะเป็นการบอกความแตกต่างทางอายุอยู่บ้าง แต่ก็ดูเป็นการยกย่อง นับถือ
สังคมไทยมีความแตกต่าง ซับซ้อน คนมีระดับจำนวนหนึ่งก็ไม่อยากให้สามัญชนคนทั่วไปมานับญาติด้วย การเรียกขานโดยนับญาติจึงต้องระมัดระวัง
5. ร้านค้าสมัยใหม่ สอนให้พนักงานเรียกผู้มาติดต่อซื้อของว่า “คุณลูกค้า” ซึ่งสำหรับหลายคนฟังดูก็ยังขัดหู ขัดใจอย่างไรพิกล เพราะนอกจากจะดูห่างเหินแล้ว สถานภาพและองค์ประกอบของคำดูจะแปลก เพราะไปเรียกว่าเป็น “คุณลูก….” แม้จะระบุว่าเป็นผู้มาค้าขาย เลยเรียกว่า “คุณลูกค้า” ก็ตามที
บางองค์กรเลยกำหนดให้พนักงานเรียกผู้มาติดต่อที่ดูมีสถานภาพดีกว่า ว่า “คุณท่าน”
สังคมไทยมีความแตกต่างหลากหลาย วัฒนธรรมการเรียกขานก็สะท้อนความแตกต่างของคน ของฐานะ ของชนชั้น
การฝืนบังคับให้เรียกขานสรรพนามเหมือนกันหมด โดยที่ความแตกต่างยังมีอยู่ คงจะเป็นการฝืนใจ ฝืนความรู้สึก ฝืนความเคยชิน
จะให้เรียก “สหาย” เช่น “สหายใหญ่” “สหายภูมิธรรม” “สหายจรัส” “สหายพรหมินทร์”
ก็ดูไม่คุ้นเคย
อยากจะบอกพรรคอนาคตใหม่และคนที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ว่า วัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยม ความเชื่อ มีที่มาและมีที่ไป
การที่คนยังอยากยึดวัฒนธรรมใดอยู่ ไม่ใช่เพราะความโง่เขลา เบาปัญญา หรือเป็นสิ่งที่ผิด เพราะถ้าค่านิยม ความเชื่อนั้นไม่ดี ไม่มีประโยชน์ ค่านิยม ความเชื่อนั้น ก็จะค่อยๆ
เปลี่ยนแปลงไปเอง
คนรุ่นใหม่ ที่ปรารถนาจะเป็น “อนาคตใหม่” ของสังคม คงต้องเรียนรู้วัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ที่เรายังไม่เข้าใจว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ได้อย่างไร
ไม่ใช่ออกมาก้าวร้าว หยามเหยียด ต้องการยกเลิกให้เกิดความขัดแย้งที่ไม่สร้างสรรค์ เพราะเมื่อสร้างอารมณ์โกรธแล้ว การเปลี่ยนแปลง การพัฒนาก็ไม่เกิด
ถึงแม้จะรู้ทันว่า ธนาธร ปิยบุตร และอนาคตใหม่ จะเล่นประเด็นค่านิยม ความเชื่อ เพราะถือว่าสร้างกระแสได้ และ “เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง” ที่ธนาธรเคยชมปิยบุตรที่พูดเรื่องสถาบันระดับสูงมาแล้ว
ผมก็ยังตกหลุม มาถกแถลง ด้วยความเมตตา ปรานี
ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี