รายได้ประชาชาติ หรือ Gross National Product หมายถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ เป็นมาตรการวัดรายรับและผลผลิตของประเทศแบบหนึ่งที่ใช้แสดงมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศ รายได้ประชาชาติคือมูลค่าผลผลิตของชาตินั้นๆ ไม่ว่าจะผลิตขึ้นที่ประเทศใดก็ตามในช่วงระยะเวลาหนึ่งประโยชน์ของรายได้ประชาชาตินั้นเป็นตัวเลขเบื้องต้นของผลผลิตที่เกิดขึ้นในชาตินั้นๆ อย่างแท้จริงทำให้ประชาชนคนในชาติทราบฐานะของประเทศ
การวัดมูลค่าของรายได้ประชาชาติมีอยู่ 2 วิธี คือการวัดจากข้อมูลของการขายสินค้าและบริการทั้งหมดในระยะเวลา1 ปีที่เกิดขึ้นกับการวัดจากข้อมูลรายจ่ายในการซื้อสินค้าและบริการ มูลค่ามวลรวมประชาชาติตามปกติจะคำนวณมาจาก 7 ส่วน ประกอบด้วย การบริโภครวมของประชาชน, การลงทุนภาคเอกชน, การลงทุนภาครัฐบาล, สินค้าส่งออก, สินค้านำเข้า, รายได้ของต่างชาติที่มาลงทุนในประเทศ และรายได้ของคนในประเทศที่ไปลงทุนในต่างประเทศ
ประเทศไทยของเรานั้น มีการคำนวณรายได้ ประชาชาติขึ้นในสมัยที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ใครจะบอกว่าเป็นผู้นำมาจากการรัฐประหาร หรือเป็นเผด็จการก็ตาม แต่นายกรัฐมนตรีท่านนี้ได้ริเริ่มงานที่สำคัญๆ ให้ประเทศมากมายไม่แพ้นายกรัฐมนตรีคนใด
ตอนนี้มีเสียงของนักการเมืองที่ชอบอ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยแล้วบอกว่าเศรษฐกิจของประเทศไม่ดีนั้นได้ทบทวนและวิเคราะห์ข้อเท็จจริงหรือไม่เพียงใดว่ารายได้ประชาชาติของไทยนั้นสูงเป็นอันดับ 2 ของ 10 ชาติอาเซียน หากนำไปเทียบกับเพื่อนบ้านกลุ่มที่เรียกว่า CLMV จะพบว่าค่าเงินบาทของไทยนั้นมีค่าที่แข็งและเป็นที่เชื่อถือเป็นอันดับนำของโลกไม่ต่างจากเงินดอลลาร์สหรัฐ, ฟรังก์สวิส, ยูโรของยุโรป, เงินหยวนของจีน และเงินเยนของญี่ปุ่น
วิธีที่จะเพิ่มรายได้ประชาชาตินั้นมีหลายวิธีตั้งแต่ การเพิ่มการส่งสินค้าออก, การเพิ่มรายได้จากการบริการของประเทศ เช่น การท่องเที่ยว, การลงทุนทั้งในประเทศและการไปลงทุนในต่างประเทศ วิธีในการเพิ่มรายได้ของประเทศที่น่าสนับสนุนประการหนึ่งก็คือ การสร้างเมืองท่าใหญ่เพื่อสนับสนุนการส่งออกของประเทศเพราะเมืองท่าที่ไทยมีอยู่น่าจะเล็กเกินไปและไกลจากทะลหลักคือ 2 มหาสมุทร ได้แก่ มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก
ถ้าเป็นไปได้รัฐบาลไทยควรเชื่อม 2 ฝั่งมหาสมุทรนั่นคือการขุดคลองใหญ่จากฝั่งทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย ที่เกาะลันตา จ.กระบี่ กับอ.สิเกา จ.ตรัง ไปฝั่งอ่าวไทยที่อ.ระโนด จ.สงขลา พร้อมกับสร้างเมืองท่าขนาดใหญ่ 2 เมือง เพื่อใช้เป็นฐานในการขยายการค้านานาชาติ นำรายได้เข้าประเทศและจากข้อเท็จจริงวงเงินลงทุนประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.6 ล้านล้านบาท ก็ไม่ได้มากมายนักที่คนไทยจะลงทุนเองไม่ได้
ทางออกก็คือการจัดตั้งบริษัทมหาชนนานาชาติ ขึ้นมาดำเนินการโดยระดมทุนเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นดำเนินงานเป็นอิสระปีหนึ่งๆ จะทำรายได้มหาศาล เชื่อว่าโครงการนี้ไม่มีทางขาดทุนและจะคืนทุนได้ภายในเวลาไม่กี่ปีอย่างแน่นอน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี