นางสงกรานต์ปีนี้มีชื่อว่า ทุงสะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม แก้วปัทมราคเป็นอาภรณ์ ภักษาหารอุทุมพร หัตถ์ขวาทรงจักร หัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จนั่งมาบนหลังครุฑ เป็นนางสงกรานต์ที่เคยเสด็จมาเมื่อปี พ.ศ.2551 ครบรอบ 12 ปี
เมื่อ 12 ปีที่แล้วมานั้นเมืองไทยมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นหลายอย่าง เป็นเมืองไทยที่อยู่ในยุคสมัยที่มี นายสมัคร สุนทรเวช เป็นรัฐบาล ซึ่งมีทั้งศึกนอกและศึกใน โหมกระหน่ำเข้ามาทุกด้านพร้อมๆ กัน แม้จะมีความพยายามที่จะยืดอายุให้อยู่ต่อไปด้วยการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ก็ตาม ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
รัฐบาลสมัยนายสมัครขณะนั้น เป็นรัฐบาลที่สร้างประชาชนให้พึงพอใจอยู่กับเงินที่ถูกหยิบยื่นไปให้เพื่อสร้างความนิยมเช่นเดียวกับรัฐบาลทักษิณ โดยไม่ได้มุ่งเน้นในเรื่องการสร้างตัวเองบนพื้นฐานของความสามารถที่จะพึ่งตัวเองได้ในวันข้างหน้า
นอกจากนี้ รัฐบาลนายสมัครสมัยนั้นไม่เข้าใจ และไม่ใส่ใจว่า สังคมคือผลิตผลของการเมือง หากการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความมั่นคง สังคมก็มั่นคง เศรษฐกิจก็มั่นคง แต่ในความเป็นจริงของการบริหารจัดการของรัฐบาลนายสมัครขณะนั้นกลับกัดกร่อนมนุษย์อย่างที่นำไปสู่ความอ่อนแอและเปราะบางของประเทศ
ทั้งในทางการเมืองสมัยนายสมัครขณะนั้น ก็ตกอยู่ภายใต้การทำงานของนักการเมือง และพรรคพวกของนายสมัครที่ใช้ไม่ได้ บ้านเมืองจึงย่ำแย่ ทรุดโทรมลง แม้กระทั่งทางด้านคุณธรรม จริยธรรม ในแทบทุกระดับของผู้บริหาร นำมาซึ่งการออกมาขับไล่รัฐบาลนายสมัครกับพรรคพวกในสมัยนั้นอย่างมากมาย ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
รัฐบาลนายสมัครกำกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ทำงานไปในทิศทางที่ตนต้องการ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่รัฐทุกแห่งต้องปฏิบัติตาม ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐแทบทุกฝ่ายถูกรุมด่ารุมว่าจากประชาชนในสมัยนั้นอย่างมากมาย
หลายพื้นที่ในต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯมีการจัดเวทีปราศรัยของประชาชน เพื่อต่อต้านและขับไล่รัฐบาลนายสมัครในสมัยนั้น โดยไม่เกรงกลัว แม้จะมีการข่มขู่ด้วยอำนาจก็ไม่หวั่น
นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายสมัคร
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2551 ที่มีนางสงกรานต์ที่มีนามว่า “ทุงสะเทวี” ซึ่งนั่งครุฑเข้ามาในเมืองไทย
ครบรอบ 12 ปีพอดีที่นางสงกรานต์ผู้นี้มาเมืองไทยอีก บ้านเมืองของเราในปีนี้จะเป็นอย่างไรก็อย่ากะพริบตา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวในสมัยรัฐบาลนายสมัครนั้น “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” นักแต่งกลอนชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทย ได้แต่งกลอนสรุปเหตุการณ์ไว้ดังนี้
“คนเสียเปรียบ มากมาย อยู่รายรอบ
คนขายขอบ คนขายขบ คนลบศูนย์
คนที่ถูก กดขี่ บริบูรณ์
คนที่ทูน อำนาจ ให้เจ้านาย
ก็แล้วมี ใครบ้าง อยู่ข้างเขา
มีใครเล่า เข้าใจ ในความหมาย
เห็นแต่ตีน เงื้อตบ อยู่รอบกาย
เขาไม่โต ไม่ตาย ก็บุญแล้ว
อะไรทำ ให้คน ที่ทนทาน
ต้องลุกขึ้น ยืนต้าน เป็นทิวแถว
ลำพังเสียง นกกา เสียงหมาแมว
มีหรือที่ กำหนดแนว กำหนดนำ
อะไรทำ ให้คน ทนไม่ได้
เคยอยู่ใต้ ไม่ยอม จะอยู่ต่ำ
ต้องลุกขึ้น ยืนหยัด ชูหมัดกำ
อะไรทำ ให้เป็นไป ได้เช่นนี้
คนเป็นปาก เป็นเสียง คนเถียงแทน
อย่าลบหลู่ ดูแคลน ไม่ใช่ที่
ต้นเหตุอยู่ ที่ใด ดูให้ดี
หนึ่งนิ้วชี้ กี่นิ้วมา ชี้หาตัว”
ให้ภาพอย่างชัดเจนที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2551
ปีที่มีนางสงกรานต์ชื่อ “ทุงสะเทวี” มาเยือนไทย
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี