คำถามจากปากของผู้สนใจการเมืองไทยคำถามหนึ่งคือ นายกรัฐมนตรีของไทยคนต่อไป จะชื่ออะไร
คนที่ตั้งคำถามเช่นนี้มักจะไม่ค่อยเชื่อว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยจะชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เหตุผลที่คนบางกลุ่มบอกว่าไม่คิดว่าจะเป็นพลเอกประยุทธ์ ก็เพราะพลเอกประยุทธ์ กลายเป็นตัวละครตัวหนึ่งของความขัดแย้งในบ้านเมืองไปเสียแล้ว ดังนั้น หากพลเอกประยุทธ์ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดหน้า ตัวของพลเอกประยุทธ์ จะกลายเป็นตำบลกระสุนตกไปโดยทันที
แต่คนบางกลุ่มก็แย้งว่า ก็ทุกวันนี้พลเอกประยุทธ์ ก็เป็นตำบลกระสุนตกมาโดยตลอดมิใช่หรือ แต่ถึงกระนั้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผู้นี้ก็ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้มายาวนานกว่า 4 ปี
จริงอยู่ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาได้กว่า 4 ปี แต่สาเหตุที่อยู่ในตำแหน่งได้ยาวนานถึงเพียงนี้ ก็เพราะรัฐบาลคสช. ไม่มีฝ่ายค้านในรัฐสภา ซึ่งต่างไปจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อรัฐบาลคสช. ไม่มีฝ่ายค้านคอยตรวจสอบการทำงาน หรือหากจะพูดแรงๆ คือไม่มีฝ่ายค้านคอยเตะสกัดการทำงาน จึงทำให้ดำรงสถานะฝ่ายบริหารได้โดยไร้แรงเสียดทาน ไร้แรงต้าน และไร้การก่อกวน
แต่ถ้าหาก พลเอกประยุทธ์ ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รับรองได้เลยว่าการทำงานการเมืองของนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งมีจำนวนเกือบๆ จะเทียบเท่ากับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของซีกรัฐบาล จะต้องเต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรค เพราะไม่มีวันที่สส.ฝ่านค้านจะเกรงอกเกรงใจ หรือไว้หน้านายกรัฐมนตรีที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับพรรคการเมืองของฝ่ายค้าน
เมื่อภาพการเมืองในอนาคตออกมาในทำนองนี้ จึงทำให้เกิดกระแสเรื่อง นายกรัฐมนตรีคนนอก ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง หรือไม่ได้มาจากสส. ซึ่งบางคนเรียกว่ารัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลปรองดอง แม้หลายคนอาจจะหัวเราะเยาะแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติ แต่สำหรับคนที่มองการเมืองด้วยสายตาของผู้เข้าใจปัญหาการเมืองไทยอย่างแท้จริง ต่างบอกว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่าย และไม่เป็นปรปักษ์ทางการเมืองกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
คำถามต่อมาคือ แล้วจะให้ใครดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เป็นปรปักษ์ทางการเมืองกับฝ่ายใดๆ ในสังคมไทย เพราะถ้าหากนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมือง แล้วดันมีจำนวนสส. ฝ่ายรัฐบาล กับสส. ฝ่ายค้านซึ่งมีจำนวนสูสีกันตามที่หลายคนคาดการณ์ ก็รับรองได้เลยว่าการทำงานภายในรัฐสภาไทยจะมีสภาพไม่ต่างไปจากสงครามอย่างแน่นอน
ดังนั้นประเด็นเรื่องนายกรัฐมนตรีคนนอก หรือรัฐบาลแห่งชาติ ก็จึงเป็นเรื่องควรแก่การพิจารณาในสภาวการณ์เช่นนี้อยู่มิใช่น้อย แต่ก็มิได้หมายความว่ารัฐบาลแห่งชาติจะเกิดขึ้นได้โดยง่าย เพราะนักการเมืองไทยจำพวกองุ่นเปรี้ยว มะนาวหวานก็คงไม่มีวันยอมให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติได้โดยสะดวกง่ายดาย เพราะนักการเมืองจำพวกองุ่นเปรี้ยว ยังคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเอง มากกว่าผลประโยชน์ของบ้านเมือง แล้วพวกองุ่นเปรี้ยวก็จะอ้างเหมือนเดิมว่า รัฐบาลแห่งชาติ คือรัฐบาลเผด็จการ พวกองุ่นเปรี้ยวมองว่าคนอื่นเป็นเผด็จการไปเสียทั้งหมด ยกเว้นพวกตัวเองเท่านั้นเป็นประชาธิปไตย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี