ปิดฉากเป็นที่เรียบร้อยอยู่ระหว่างขยายผลถึงรายใหญ่ กรณีตำรวจ สน.โชคชัย ตรวจยึดยาบ้าของเครือข่ายว้าใต้ จำนวน 6.3 ล้านเม็ด และไอซ์อีก 449 กิโลกรัม ขณะตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณใต้ทางด่วนลาดพร้าว ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขานรอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาร่วมวงแถลงข่าวที่ บช.น.ช่วงบ่ายของวันที่ 30 เม.ย.
ของกลางจำนวนดังกล่าวอาจพบปรากฏเป็นข่าวบ่อย ทั้งผลงานของตำรวจ บช.ปส. หรือตำรวจท้องที่ภาค 1-9 บช.น. และ บช.อื่นๆ แต่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาหากจะบอกว่า ตำรวจจราจร เป็นหน้างานในการจับกุมครั้งนี้ โดยเฉพาะเขา พ.ต.ท.สิทธิชัย ธัญญาบาล รอง ผกก.จร.สน.โชคชัย ที่อาศัยประสบการณ์สวมคราบ นักสืบพาลูกน้องลุยขยายผลจนได้ของกลางบิ๊กลอตมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านบาท
พ.ต.ท.สิทธิชัย หรือ รองบาล เติบโตมาจากครอบครัวเกษตรกรชาว จ.สงขลา ลุงเป็นตำรวจชั้นประทวนและเป็นแบบอย่างเขา จบ นรต.รุ่น 54 ครั้งแรกลงรอง สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ แล้วมางานสืบสวนในตำแหน่ง รอง สว.สส.สน.บางซื่อ สว.สส.สน.บางซื่อย้ายไป รอง ผกก.สส.สน.ลาดกระบัง รวมระยะเวลา 17 ปีบนเส้นทางสายนักสืบ ล่าสุดปี 2562 ได้ลิ้มลองงานจราจรที่ สน.โชคชัย
“จราจรเป็นความท้าทายใหม่ผมเติบโตจากงานสืบสวน ด้วยทักษะของผมก็เอางานจราจรกับงานสืบสวนมาผสมกัน จึงเป็นนโยบายหน้าที่หลักคือการอำนวยการจราจร แต่เมื่อไหร่มีเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้นในพื้นที่ของเรา จราจรที่เหนือกว่าจราจรก็คือสามารถจับคนร้ายได้” รองบาล กล่าว
รอง ผกก.จร.สน.โชคชัย บอกว่า เรื่องงานสำหรับอาชีพตำรวจไม่มีอะไรยากเกินไป ถ้าตั้งใจแล้วมุ่งมั่นมีหัวจิตหัวใจทำงานของเราให้ดี งานจราจรในกรุงเทพฯหนักแทบจะทุกพื้นที่อยู่แล้ว ยอมรับว่ารากฐานงานจราจรของ สน.โชคชัย ดีอยู่แล้วเพราะที่ผ่านมาคนเก่าๆ ได้สร้างไว้อย่างเป็นระบบ ทั้งเรื่องกล้อง CCTV การวางจุดกำหนดรอบสัญญาณไฟ ตลอดจนความชำนาญในการจัดการจราจร
เลยเป็นอะไรที่ง่ายสำหรับคนมาสานต่อ จากการได้สัมผัสผู้ใต้บังคับบัญชามีระเบียบวินัยดีมาก แต่สิ่งที่ตนอยากเพิ่มเข้าไปก็คือความมุ่งมั่น และความกระตือรือร้นในการทำงาน สิ่งสำคัญคือขวัญกำลังใจเพราะตนมีแนวคิดที่ว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาคือกลไกสำคัญของการทำงาน เขาคือผู้ปฏิบัติเราต้องให้ความสำคัญกับเขา ดูแลเขา ให้เขามีเป้าหมายการทำงานและสวัสดิการที่ควรจะได้รับ
ดังนั้นหลักการทำงานของตนคือ พัฒนาหน่วยงานบุคลากร สร้างความภาคภูมิใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา แล้วกำหนดนโยบาย อย่างเช่น เป็นตำรวจจราจรมีหน้าที่อำนวยการจราจร และต้องบริการประชาชนให้ดี อีกแนวทางหนึ่งเราจะไม่ลืมว่าตำรวจจราจร ก็คือตำรวจที่มีอำนาจป้องกันปราบปรามและสืบสวนจับกุม โดยถ่ายทอดความรู้เทคนิคต่างๆ ที่ตนมีอยู่เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงาน
“ให้เขาทำงานด้วยความสุขแล้วมีความอยากทำงาน ต้องมีหัวจิตหัวใจของการเป็นตำรวจจราจร แล้วเราจะมีความภาคภูมิใจในหน้าที่ของเรา สุดท้ายเขาก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ และให้เขามีเป้าหมายมีความพร้อม หากวันใดเกิดเหตุหรือประสบเหตุซึ่งหน้า เขาจะได้มีความสามารถในการจัดการกับสิ่งเหล่านั้น ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ”
รองผู้กำกับการจราจรเลือดนักสืบ เล่าถึงคดียาเสพติดบิ๊กลอตล่าสุดว่า ตอนนั้นตำรวจจราจร สน.โชคชัยตั้งด่านอยู่แล้วประสบพบเหตุเจอยาเสพติด จากการประเมินสถานการณ์รู้ว่าต้องขยายผลทันที คำว่า จราจรบวกนักสืบ ตนเห็นว่าตำรวจเราทำได้ แม้ลูกน้องส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์ด้านสืบสวน และก็ดูด้วยว่าจะมีความเสี่ยงกับตำรวจเราหรือไม่ แต่หากช้าไปอาจจะมีการเคลื่อนย้ายยาเสพติดที่เหลือไปซุกซ่อน
เป็นการยกระดับการทำงานของจราจร สน.โชคชัย ภาคภูมิใจไหมก็ส่วนหนึ่งเพราะคืองานที่จะต้องทำ ตนมาช่วงแรกได้ให้นโยบายว่า จราจรผลัดกลางคืนเป็นผลัดที่มีความสำคัญ และมีลักษณะทางกายภาพของการจราจร แตกต่างจากช่วงเวลาเร่งด่วนในตอนกลางวัน จึงมีโอกาสที่จะจับกุมความผิดในลักษณะต่างๆ ได้ ให้คนมองว่าเราสามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่เฉพาะแค่การโบกรถจัดการจราจร
“ตนไม่ได้กดดันแต่อย่างใดเพียงแต่ให้โจทย์เขาคิด ซึ่งตรงกับสิ่งที่ตนต้องการก็คือสร้างแรงกระตุ้น สองสิ่งนี้ต่างกันตรงลูกน้องอยากทำหรือไม่ ถ้าอยากทำแสดงว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการสื่อสาร และสามารถนำแนวคิดนโยบายเราไปปรับใช้ในทิศทางเดียวกัน”
นามขานโชคชัย 6 วัย 41 ปี กล่าวทิ้งท้ายว่า เบื้องต้นเราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเราเป็น จราจรที่เหนือกว่าจราจร มันเกิดจากความใส่ใจช่างสังเกต ของตำรวจจราจรชั้นผู้น้อยที่ประสบเหตุ บวกกับประสบการณ์ด้านงานสืบของตน รวมถึงจังหวะและโอกาสที่เกิดขึ้นด้วย หลังจากนี้ก็เป็นงานจราจรเพื่อดูว่าจะแก้ปัญหาได้ดีแค่ไหน แต่จะไม่ลืมงานสืบที่มันอยู่ในสายเลือดเราต้องไม่ทิ้ง
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี