ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 18 ของไทย เมื่อวันที่24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมาถึงแม้พรรคเพื่อไทยและพรรคสายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังเป็นนักโทษหนีเรือนจำอยู่ในต่างประเทศ จะดูเหมือนว่าได้ชัยชนะแถมอ้างความเป็นประชาธิปไตยบังหน้าการโกงมโหฬารจนทำให้ถูกประชาชนฝั่งไม่เอาระบอบทักษิณออกมาต่อต้านจนเกิดการรัฐประหารล้มรัฐบาลขี้โกงถึง 2 ครั้ง 2 คราวก็ตาม
แต่การชูประเด็นตั้งรัฐบาลของฝ่ายอ้างคำว่าประชาธิปไตยแบบพร่ำเพรื่อก็ไปไม่รอดจอดไม่แจวกลับไม่เป็นผลสำเร็จฝ่ายที่จะได้จัดตั้งรัฐบาลกลายเป็นพรรคการเมืองที่ยังสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาแต่สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่เซียนการเมืองให้ความสนใจคือ การเปลี่ยนแปลงภายในพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของไทยคือพรรคประชาธิปัตย์ที่มีอายุยาวนาน 73 ปี ที่พบกับคำว่าผิดหวังเพราะจำนวน สส.ในสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้เหลือเพียงแค่ 52 ที่นั่ง นั่นคือ มีสส.เขตรวม 33 คน และสส.ระบบบัญชีรายชื่อ 19 คน
พรรคประชาธิปัตย์ตั้งเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2489 โดยพันตรีควง อภัยวงศ์ หรือหลวงโกวิทอภัยวงศ์ อดีต 1ในสมาชิกคณะราษฎรที่ร่วมการเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 หลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวหัวหน้าพรรคต่อมาอีกรวม 6 คน ได้แก่ หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช, พันเอกถนัด คอมันตร์, นายพิชัย รัตตกุล,นายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ
ในขณะที่มีเลขาธิการพรรคมาทั้งหมด 16 คน คือ พลตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช, นายเทพ โชตินุชิต, นายชวลิต อภัยวงศ์, นายใหญ่ ศวิตชาติ, นายธรรมนูญ เทียนเงิน, นายดำรง ลัทธพิพัฒน์, นายเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์, นายมารุต บุนนาค, นายเล็ก นานา, นายวีระมุสิกพงศ์, พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์,นายอนันต์ อนันตกูล, นายประดิษฐ์ภัทรประสิทธิ์, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ,นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน และนายจุติ ไกรฤกษ์
หลังล้มเหลวในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 นายอภิสิทธิ์หัวหน้าพรรค ได้ลาออกรับผิดชอบต่อผลที่ทำให้สมาชิกพรรคและประชาชนที่สนับสนุนนับล้านคนผิดหวังพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องหาหัวหน้าพรรคคนใหม่แทน ซึ่งจะเป็นคนที่ 8 ขณะนี้มีผู้เสนอตัวให้สมาชิกทั่วประเทศเลือกในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ประกอบด้วยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรค วัย 63 ปี เป็น สส. 10 สมัย เป็นชาวพังงา การศึกษาจบ รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่นที่ 89 และจบปริญญาโทสาขานโยบายสาธารณะและการวางแผนสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ก่อนจะมาเป็นนักการเมืองนั้นนายจุรินทร์เคยเป็นผู้สื่อข่าวและนักเขียนการ์ตูนของหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ในนามอู๊ดด้า เมื่อเข้ามาในแวดวงการเมืองได้รับตำแหน่งรมช.พาณิชย์, รมช.เกษตรและสหกรณ์, รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี,รมว.สาธารณสุขและรมว.ศึกษาธิการ ถือว่านายจุรินทร์มีประสบการณ์ทางการเมืองมากมาย
คนที่ 2 ที่เสนอตัวให้สมาชิกเลือก คือนายกรณ์ จาติกวณิช อายุ 55 ปี เกิดที่กรุงลอนดอนอังกฤษ เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ เคยเรียนประถมศึกษาที่โรงเรียนสมถวิลราชดำริ และโรงเรียนสาธิตปทุมวัน พร้อมนายอภิสิทธิ์มีฐานะที่ถือว่าร่ำรวยมั่งคั่งคนหนึ่ง มีญาติๆ ที่มีฐานะมหาเศรษฐีหลายตระกูล เช่น หวั่งหลี และล่ำซำจากนั้นไปศึกษาจบชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนวินเชสเตอร์คอลเลจ อังกฤษ และปริญญาตรีมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด อังกฤษ สาขาเศรษฐศาสตร์
หลังจากนั้นได้ทำงานกับบริษัทเอส จีวอร์เบิร์ก ลอนดอน อังกฤษ, บริษัทเจเอฟธนาคม จำกัด และประธานบริษัทเตจพีมอร์แกนประเทศไทย ได้เข้ามาเล่นการเมืองได้เป็น สส. 4 สมัย และได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายกรณ์ได้ประกาศเลือก นายชัยวุฒิบรรณวัฒน์ สส.ตาก และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเลขาธิการพรรคคู่กับเขา
คนที่ 3 ที่ประกาศตัวเสนอให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เลือกเป็นหัวหน้าคนใหม่คือ ดร.อภิรักษ์ โกษะโยธิน วัย 58 ปี เป็นชาวอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เคยศึกษาที่โรงเรียนอนุบาลนนทบุรี, เขมาภิราตาราม,เตรียมอุดมศึกษา จบปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีอาหารจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ปริญญาโท สาขาการจัดการตลาด จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์และปริญญาเอกรัฐประศาสนศาสตร์ สาขาการพัฒนาการปกครอง มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตนายอภิรักษ์มีผลงานในการทำงานภาคเอกชนมากมายก่อนมาเล่นการเมืองเป็นผู้ว่าราชการ กทม. 2 สมัย, ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี, สส. 3 สมัย มีประสบการณ์สะสมมากพอดูชนิดไม่อายใครๆ
คนที่ 4 ได้แก่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาควัย 60 ปี เป็นนักการเมืองที่มีฐานะเป็นมหาเศรษฐีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ มีชาติตระกูลที่ถือว่าดีมากผ่านการศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เคยติดบอร์ดสายศิลป์ชั้นมัธยมศึกษาที่ 5,จบปริญญาตรีที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เนติบัณฑิตไทย, ปริญญาโทมหาบัณฑิตนิติศาสตร์กฎหมายอเมริกัน จากมหาวิทยาลัยทูเลน สหรัฐอเมริกา ก่อนเล่นการเมืองเคยเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลอุทธรณ์ มาก่อนมาเล่นการเมืองได้เป็นสส. รวม 5 สมัย และเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 1 สมัย
นี่คือแคนดิเดตเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ซึ่งแต่ละคนมีประสบการณ์มากมายในจำนวนนี้ หลายๆ คน มีฐานะที่ร่ำรวยประชาชนนักธุรกิจต่างรู้ฝีไม้ลายมือกันเป็นอย่างดีวันที่ 15 พฤษภาคม คงรู้ว่าใครจะได้เข้าป้ายมาวิน
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี