กลับมาปรากฏเป็นข่าวในสื่ออีกครั้งเมื่อมีการเผยแพร่เอกสารลับที่สุดลงนามโดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เสนอถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์กรณีสินค้าบุหรี่นำเข้า โดยกระทรวงการต่างประเทศเสนอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาหาแนวทางการดำเนินการยุติข้อพิพาทอย่างฉันมิตรตามข้อเสนอของคู่กรณี ก่อนเกิดความเสียหายต่อการค้าการลงทุนและภาพลักษณ์ของประเทศ
กระนั้นก็ตามในประเด็นดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ได้ปฏิเสธไม่ทราบเรื่องเอกสารลับ ในขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เตือนรัฐบาลไทยอย่าไปก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม
คดีนี้สืบเนื่องมาจากฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องไทยต่อองค์กรการค้าโลก (WTO) ว่าไทยไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของ WTO ในกรณีสินค้าบุหรี่นำเข้าจากฟิลิปปินส์ ซึ่ง WTOPanel ได้เคยตัดสินตั้งแต่ปี 2554 ว่าไทยทำผิดข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ โดยใช้วิธีการประเมินราคาศุลกากรที่ขัดต่อกรอบ WTO แต่ทางไทยกลับเดินหน้าฟ้องคดีอาญาต่อบริษัทผู้นำเข้าโดยไม่เคารพวิธีการประเมินราคาศุลกากรที่ถูกต้อง ซึ่งมีแนวโน้มว่าไทยจะถูกตัดสินให้แพ้อีกครั้งโดย WTO และอาจถูกตอบโต้ทางการค้าในมูลค่า 84,000 ล้านบาท ตามคำสั่งฟ้องร้องเดิมของอัยการ
การไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินของ WTO และการตอบโต้ทางการค้าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้กรณีดังกล่าวจึงมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติและนานาประเทศต่อการประเมินราคาศุลกากรและระบบภาษีของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่ไทยเป็นประธานอาเซียน ขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกา โดย USTR ก็เพิ่งออกรายงานล่าสุดชื่อว่า National Trade Estimate Report ปีล่าสุดที่แสดงความห่วงใยถึงดุลพินิจของศุลกากรไทย เกี่ยวกับการประเมินราคาสินค้าต่างๆ
ข้อเสนอของกระทรวงการต่างประเทศจึงสมควรได้รับการพิจารณาจากรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง สำนักงานอัยการสูงสุด โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก เพื่อไม่ให้รัฐบาลไทยต้องตกเป็นจำเลยแพ้คดีและต้องชดใช้ค่าเสียหายเช่นเดียวกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ที่รัฐบาลไทยเพิ่งแพ้คำตัดสินในกรณี “โฮปเวลล์” และต้องชดใช้เงินกว่า 12,000 ล้านบาท มาเมื่อไม่นานนี้ คดีนี้อาจเป็นกรณีที่รัฐบาลต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมหาศาลอีกครั้งให้กับความผิดพลาดของรัฐบาลและข้าราชการในอดีตที่ดำเนินการขัดต่อกรอบ WTO
หากฟิลิปปินส์ใช้สิทธิ์ตอบโต้ทางการค้าความเสียหายจะเกิดกับไทยและทำให้ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานไม่ได้รับการแก้ไข การเจรจาระหว่างประเทศเพื่อหาทางออกฉันมิตรและปฏิบัติตามคำตัดสินของ WTO ในทันที จึงเป็นสิ่งที่ต้องรีบเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุดก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้นหากคำตัดสินของ WTO มีผลเป็นที่สุดแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายยังเจรจาหาข้อยุติร่วมกันไม่ได้ เราคนไทยก็อาจต้องเตรียมใจจ่าย “ค่าโง่” อีกครั้ง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี