การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ผ่านไป 60 วัน หรือ 2 เดือนเต็มๆ ถึงแม้จะมีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการโดยคณะกรรมการการเลือกตั้งออกมาแล้วก็ตามการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ของประเทศไทย ก็ยังไม่เรียบร้อยลงตัวให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 และกฎหมายประกอบที่ได้กำหนดไว้
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ได้สส.เข้าสภาทั้งหมด 497 คน และยังได้สมาชิกวุฒิสภาใหม่ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เข้ามาอีก 250 คน รวม 747 คน ก่อนการเลือกตั้งครั้งนี้มีนักการเมืองจากพรรคเพื่อไทย, อนาคตใหม่, เสรีรวมไทย, เศรษฐกิจใหม่, เพื่อชาติ และพลังชาติไทย ฯลฯ ได้ไปโฆษณาหาเสียงไว้หลายประการ บางพรรคได้ประกาศนโยบายออกมาเพื่อซื้อใจประชาชนฝ่ายบริษัทบริวารระบอบทักษิณ อาทิ
ขอคะแนนเสียงขับไล่ทหารออกไปจากระบอบการเมืองให้กลับกรมกอง บ้างก็ว่าจะเลิกนโยบายและกฎหมายการเกณฑ์ทหารตลอดไป บ้างก็ว่าจะขอแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ใหม่ทั้งหมดโดยอ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 เป็นรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจเผด็จการและโจมตีรัฐบาลคสช.ว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ทั้งๆ ที่ก่อนการรัฐประหาร 2 ครั้ง ในวันที่ 9 กันยายน 2549 และวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 ล้วนแต่มีต้นเหตุมาจากการที่นักการเมืองขี้โกงทั้งสิ้น
อย่าลืมว่าในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร นั้นนายทักษิณได้ใช้คะแนนเสียง สส.และสว.ฝ่ายตนในสภาออกพ.ร.บ.แก้ไขการสัมปทานของรัฐของบริษัทตนเองเอาดื้อๆ เรื่องนี้มีประจักษ์พยานยืนยันว่านักการเมืองที่รับใช้ทักษิณได้ถูกศาลสถิตยุติธรรมพิพากษาว่านักการเมืองรายนั้นโกงและได้รับโทษจำคุกในข้อหามีเจตนาทุจริต ส่วนในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของนายทักษิณ รัฐบาลชุดนั้นได้ออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมคนโกงในช่วงกลางดึกแบบไร้ยางอาย
ผลก็คือ ประชาชนคนไทยทนไม่ไหวได้รวมตัวต่อต้านรัฐบาลเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ในนามของกปปส.จนเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินมีความวุ่นวายทางด้านการเมืองยังผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บล้มตายถึง 24 ศพ ในที่สุดคณะทหารจึงต้องแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองด้วยการรัฐประหารล้มรัฐบาลขี้โกงไปในที่สุดเป็นการกวาดล้างนักการเมืองชั่วและขี้ฉ้อให้พ้นไปจากอำนาจทางการเมืองและต้องมีการปฏิรูประบอบการเมืองของประเทศเสียใหม่
นั่นคือการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในปี 2560 เพื่อนำมาจัดการกับนักการเมืองและระบอบการเมืองที่ขี้ฉ้อที่มักแอบอ้างเอาคำว่าระบอบประชาธิปไตยบังหน้าหากินกันแบบหน้าด้านๆ โดยมิได้สำนึกถึงความผิดชอบชั่วดีแบบระบอบทักษิณและกลุ่มบริษัทบริวาร
รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 นั้นคณะกรรมการผู้ยกร่างได้กำหนดวิธีการป้องปรามการทุจริตไว้หลายขั้นตอนตั้งแต่คุณสมบัติของนักการเมืองรวมไปถึงรูปแบบของพรรคการเมืองมิให้เกิดระบอบประชาธิปไตยทุนนิยมสามานย์ที่เอาคำว่าการเลือกตั้งและระบอบประชาธิปไตยมาบังหน้าอีกต่อไปเป็นการป้องกันไม่ให้ระบอบการเมืองของประเทศแปรสภาพเป็นผู้เผด็จการแบบอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ หรือว่าเบนนิโต มุสโสลินี ที่กลายเป็นท่านผู้นำ “ฟูเร่อร์” และ “อิลดูเช่” อีกต่อไป
หลังมหาสงครามโลกครั้งที่ 1 และก่อนมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีใช้ระบอบประชาธิปไตยมาปลุกระดมล้างสมองสภาพจิตใจของคนในยุโรปกลางที่แพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ฮิตเลอร์ ชาวออสเตรีย กลายไปเป็นผู้นำลัทธินาซีอ้างเอาคำว่าอารยันมาล้างสมองคนชนชาติเยอรมันในหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นคนออสเตรีย, ฮังกาเรียน, เยอรมัน, เช็ก, สโลวัก, บัลกาเรีย, โรมาเนีย แล้วเขาก็ก่อสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้อำนาจปกครองกลายเป็นเผด็จการคลั่งชาติกวาดล้างเผ่าพันธุ์อื่นๆ เขาได้เข่นฆ่าคนยิวตายไปเป็นสิบๆ ล้านคน
ผลความเลวร้ายของการเมืองเผด็จการที่มีรากเหง้ามาจากคำว่าประชาธิปไตยเต็มใบได้ไปให้อำนาจแก่ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ อดีตทหารยศสิบโทที่มีอคติต่อเชื้อชาติยังผลให้มีประชากรโลกล้มตายไปมากมายไม่น้อยกว่า75 ล้านคน ทำให้รัฐธรรมนูญสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีหลังมหาสงครามโลก ครั้งที่ 2 ได้ออกแบบให้มีการถ่วงดุลคานอำนาจกันระหว่างรัฐบาล, สภาผู้แทนราษฎรและสภาสูงหรือวุฒิสภา ไม่ยินยอมให้ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีมีอำนาจมากเกินไปเพื่อไม่ให้เกิดฮิตเลอร์คนใหม่ซ้ำขึ้นมาอีกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ของไทยจึงมีการร่างป้องกันไม่ให้พรรคการเมืองแต่ละพรรคมีอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดินแบบระบอบทักษิณกลับมาอีกเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความหายนะวอดวายฉิบหายต่อแผ่นดินไทยนั่นเอง รัฐบาลที่เกิดใหม่หลังเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 จึงหลีกเลี่ยงปัญหาเผด็จการในสภาไปได้อย่างแยบยลรวมทั้งได้มีการป้องกันไม่ให้อำนาจของนายกรัฐมนตรีมีมากเกินสมควรรัฐบาลยุคใหม่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเปลี่ยนผ่านจึงต้องฟังเสียงประชาชนหลากหลายกลุ่มพอสมควร
รัฐบาลผสมหลายๆ พรรคจึงเป็นทางเลือกที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้และหากนายกรัฐมนตรีคนต่อไปอาจจะชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่น่าจะวิตกกังวลมากนักเพราะอย่างไรเสียนายกรัฐมนตรีคนนี้ก็น่าจะดีกว่านักการเมืองอย่างนายทักษิณ ชินวัตร มิใช่หรือ !?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี