คนในสังคมไทยโดยเฉพาะผู้มีปัญญากำลังตั้งคำถามถึงเรื่องความเหมาะ ความควร จากภาพบัณฑิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีอยู่รายหนึ่งที่เพิ่งได้รับสถานภาพเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหมาดๆ
ภาพที่ว่านั้นคือ ภาพกลุ่มผู้สวมครุยวิทยฐานะแสดงความเป็นบัณฑิตแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มดังกล่าวแสดงอาการที่ไม่เหมาะไม่ควรต่อพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งเมื่อวิญญูชนเห็นภาพอันแสดงออกซึ่งอากัปกิริยาอันไม่บังควร แล้วทำให้มีคำถามตรงกันว่า นี่หรือคือวิสัยของบัณฑิต บัณฑิตช่างไม่รู้บ้างเลยหรือว่าอะไรควรหรือไม่ หรือว่าการเป็นบัณฑิตของคนกลุ่มดังกล่าวนั้น เป็นแค่เพียงเพราะว่าอ่านหนังสือได้ แต่ไม่เคยมีความคิดและวิจารณญาณใดๆ ในทางที่ถูกที่ควรเลยแม้แต่น้อย
มีคำถามตามมาว่า ทำไมบัณฑิตกลุ่มนั้นจึงแสดงกิริยาเลวทรามเช่นนั้นต่อพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ขณะเดียวกันก็มีคำถามตามมาด้วยว่า ถึงแม้คนกลุ่มที่ว่านั้นจะไม่ได้เชิญพระบรมฉายาลักษณ์มาแสดงกิริยาอันไม่บังควรก็ตาม แต่ต่อให้นำภาพของคนอื่นๆ ไปใช้ประกอบการแสดงกิริยาอันเลวทรามเช่นนั้น ก็นับว่าไม่สมควรด้วยประการทั้งปวง ขอถามต่อไปว่า แล้วทำไมจึงไม่นำภาพบรรพบุรุษของตนเองไปแสดงอาการซึ่งแสดงออกได้อย่างชัดเจนว่าหยามหมิ่น ขอถามย้ำอีกครั้งว่าทำไมต้องเป็นพระบรมฉายาลักษณ์
การกระทำที่แสดงออกคือการบ่งบอกได้อย่างชัดแจ้งว่าคนกลุ่มดังกล่าวมีเจตนาแสดงออกด้วยประการใด ทั้งนี้ การไม่ให้เกียรติกับบุคคลทั่วไป ก็ถือว่าเป็นกิริยาที่ต่ำและเลวทรามจนเกินจะให้อภัยได้แล้ว แต่นี่กลับจงใจกระทำต่อพระบรมฉายาลักษณ์ ก็ต้องนับได้ว่าคนกลุ่มนี้จงใจกระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพชัดเจน
การที่วิญญูชนในสังคมไทยนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น ต้องยืนยันว่าไม่ใช่การล่าแม่มด ตามที่ผู้กระทำการได้พยายามแก้ตัวเพื่อให้ตนเองพ้นความผิดที่ได้จงใจก่อขึ้น แต่เป็นการยืนยันกับสังคมไทยว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่ศักดิ์สิทธิ์และสูงส่ง และมีคุณูปการมากหลายต่อสังคมไทย ดังนั้นคนไทยที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จึงไม่ยินยอมให้ใครหน้าไหนแสดงอาการหมิ่นประมาท หรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้เป็นอันขาด
กรณีนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเน้นการเพ่งโทษเพียงเฉพาะบัณฑิตของจุฬาฯ กลุ่มนี้เท่านั้น แต่หมายความว่าใครก็ตามที่จงใจกระทำการอันหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพระมหากษัตริย์ มันผู้นั้นต้องถูกลงโทษตามกฎบ้านกบิลเมืองที่ได้ตราไว้
แล้วขอให้พวกที่จงใจหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเลิกอ้างได้แล้วว่า กฎหมายมาตรา 112 เป็นกฎหมายที่ใช้เพื่อกลั่นแกล้งรังแกผู้ที่มีความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน เพราะหากคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน ก็ไม่จำเป็นต้องดึงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้าไปข้องเกี่ยวด้วย หากต้องการด่านักการเมืองหน้าไหน ก็เชิญด่าตามสบาย ถ้าคิดว่าเขาไม่ฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาท แต่ขอยืนยันว่าพวกที่จงใจด่าสถาบันพระมหากษัตริย์คือพวกที่ตั้งใจด่าและต้องการล้มล้างสถาบันนี้ เพราะต้องการจะนำไปเป็นข้ออ้างว่าถูกสถาบันกษัตริย์รังแก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี