ต้นเหตุให้เกิดวาทกรรมใหม่ขึ้นมาสองคำเกี่ยวกับการเรียกขานชื่อรัฐบาล คำแรกคือ “รัฐบาลห้าร้อย” และคำที่สองคือ “รัฐบาลเผด็จการประชาธิปไตย” ซึ่งวาทกรรมแรกเป็นผลจากการลงคะแนนเสียง ส่วนวาทกรรมหลังเป็นผลจากคำพูดของ สว.บางคน
การพูดของคนเรานั้นมีทั้งมีสาระและไม่มีสาระ แต่ไม่ว่าจะมีสาระหรือไม่ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์เสียทีเดียว ดังเช่นที่มีมาในธรรมาธรรมะสงครามที่ว่า “วาจาไร้สาระ สำหรับจะใช้แก้เหงา” เป็นต้น
ทว่าวาทกรรมทั้งสองเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพราะวาทกรรมที่ว่าเผด็จการประชาธิปไตยก็เป็นทำนองเดียวกันกับระบอบประชาธิปไตยรวมศูนย์ของบางประเทศ และคำว่าห้าร้อยก็มีทั้งความหมายในทางดีและไม่ดี ที่ดีที่เป็นมงคลก็ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกในมากที่ ดังเช่นที่ว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าได้เสด็จพร้อมพระภิกษุห้าร้อย เป็นต้น
รัฐบาลเผด็จการประชาธิปไตยกำลังเกิดขึ้นและดำเนินไป โดยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ก็ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามที่รัฐสภาได้ลงมติ
วันเวลาตั้งการพิธีรับพระบรมราชโองการนั้นเป็นวันเวลาฤกษ์ดี เพราะเป็นเวลาที่พระจันทร์โคจรเข้าเกาะกลุ่มดาวหัสตะหรือกลุ่มดาวช้างใหญ่ เสวยภูมิปาโลแห่งฤกษ์และฤกษ์ดังกล่าวนั้นในทางโหราศาสตร์ถือว่าเป็นบูรณฤกษ์ และยังต้องด้วยองค์เกณฑ์ที่เรียกว่าอำมฤคโชคด้วย
คำว่าอำมฤคโชค หมายถึงโชคที่ยั่งยืนเป็นอมตะ ทำนองเดียวกับน้ำอำมฤตในตำนานรามเกียรติ์ หรืออำมฤตโอสถที่รักษาสมมติฐานของโรคได้ถึง 400 ชนิด อันปรากฏมีมาในคัมภีร์อำมฤตโอสถ
ทว่าความเป็นอำมฤตหรืออมตะนั้นหมายถึงความจีรังยั่งยืนไม่มีวันตาย ซึ่งสวนทางกับกฎแห่งพระไตรลักษณ์ในพระพุทธศาสนา ที่สรรพสิ่งมีเกิดขึ้นแล้ว ย่อมตั้งอยู่ และดับไปในที่สุด รวมทั้งลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ทั้งหลายด้วย
ดังนั้นในคัมภีร์พยากรณ์เกี่ยวกับฤกษ์ แม้ตั้งชื่อว่าเป็นอำมฤคโชค แต่ก็ยอมรับกฎแห่งพระไตรลักษณ์อยู่ในที จึงมีคำพยากรณ์ต่อเนื่องไปด้วยว่าในยามที่พระจันทร์เสวยฤกษ์อันเป็นองค์เกณฑ์ที่เรียกว่าอำมฤคโชคนั้นมักจะมีเหตุบังเอิญที่ไม่อาจคาดฝันเกิดขึ้น เหตุบังเอิญที่ไม่อาจคาดฝันนั้นแม้ในทางการเมืองก็เกิดขึ้นได้ และอาจเกิดในทางร้ายก็ได้ ในทางดีก็ได้ เช่นในทางร้ายเมื่อมั่นหมายผลอย่างหนึ่งแต่กลับเกิดผลในทางตรงกันข้าม แม้ในทางร้ายก็เช่นเดียวกัน ที่คาดหวังว่าจะเกิดอันตรายหรือผลร้ายแต่ก็อาจเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันพลิกผันให้เป็นเรื่องดีไปก็ได้
คัมภีร์พยากรณ์ในเรื่องฤกษ์จึงอุปมาดั่งการบอกหนทางข้างหน้าว่าเป็นประการใด เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์และหลีกเลี่ยงความเป็นโทษที่เกิดขึ้น อุปมาดังบุรุษที่เดินทางแล้วเห็นเสืออยู่ข้างหน้าแต่ไกลๆ ก็ขึ้นอยู่กับการเลือกตัดสินใจว่าจะเดินไปให้เสือกิน หรือว่าจะหลีกทางไปเสียให้พ้นอันตรายนั้น อุปมาฉันใดก็อุปไมยฉันนั้น
และเมื่อเป็นรัฐบาลที่ตั้งขึ้นในยามที่พระจันทร์เสวยภูมิปาโลแห่งฤกษ์ และเป็นอำมฤคโชคก็ต้องทอดสายตาไปข้างหน้าในระยะไม่ต้องไกลมาก เอากันแค่ระยะก่อนปิดสมัยประชุมรัฐสภาก็ได้ว่ามีเหตุการณ์อะไรจะพึงเกิดขึ้น
ประการแรก เกี่ยวกับองค์ประชุมของสภาว่าจะครบองค์ประชุมหรือไม่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องรับผิดชอบให้สมาชิกฝ่ายรัฐบาลเข้าประชุมครบองค์ประชุม หากแม้นไม่ครบองค์ประชุมแล้วก็จะไปกล่าวหาว่าร้ายฝ่ายค้านไม่ได้ เรื่องนี้จะเป็นภาระต่อเนื่องที่วุ่นวายไม่น้อย เพราะในขณะที่รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ และมีภารกิจต้องบริหารราชการแผ่นดินด้วย จะต้องดูแลระมัดระวังองค์ประชุมให้ครบองค์ประชุมอยู่เสมอ เพราะถ้าไม่ครบองค์ประชุมรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ
ประการที่สอง เกี่ยวกับการลงมติต่างๆ ในที่ประชุมสภาที่จะต้องพยายามรักษาผลการลงมติให้เป็นไปตามที่รัฐบาลต้องการ เพราะถ้าหากพลาดพลั้งเสียทีก็จะเป็นอันตราย หากเป็นมติในเรื่องสำคัญ รัฐบาลก็อาจต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภา
ประการที่สาม ในห้วงระยะเวลาดังกล่าวนั้นมีเรื่องสำคัญที่รัฐบาลจะต้องดำรงรักษาองค์ประชุมให้ครบถ้วน และต้องได้รับชัยชนะในการลงมติ ได้แก่
เรื่องแรก ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องนำคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมเพื่อแถลงนโยบาย ซึ่งจะมีการอภิปรายกันมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นเรื่องราวที่รัฐบาลจะต้องถือไปปฏิบัติตลอดระยะเวลาการเป็นรัฐบาลนั้น บางครั้งบางสมัยก็ใช้เวลา 3 วัน 3 คืน ซึ่งในระหว่างการอภิปรายนั้นก็อาจมีมติย่อยๆ เกิดขึ้น
เรื่องที่สอง ตามปฏิทินงบประมาณ รัฐบาลจะต้องประกาศใช้งบประมาณภายในเดือนกันยายน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป โดยมีปฏิทินงบประมาณกำหนดให้มีการเสนอร่างกฎหมายงบประมาณล่วงหน้าวันบังคับใช้ราว 2-3 เดือน ซึ่งจะเป็นการอภิปรายครั้งใหญ่และถ้าหากพลาดพลั้งก็ต้องยุบสภาสถานเดียวเท่านั้น
เรื่องที่สาม ย่อมเป็นที่คาดหมายได้ว่าในสมัยประชุมนี้ฝ่ายค้านย่อมเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ว่าเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรี หรือทั้งคณะรัฐมนตรี หรือเฉพาะรัฐมนตรีบางคน ซึ่งรัฐบาลจะพ่ายแพ้ไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะถ้าพ่ายแพ้ก็หมายถึงการพ้นจากตำแหน่ง
สามเรื่องนี้นี่แหละที่จะเป็นภาระแก่รัฐบาลในการฝ่าข้ามไปอย่างมีชัย
และต้องตระหนักไว้ด้วยว่า การจัดตั้งรัฐบาลในขณะที่พระจันทร์เสวยฤกษ์และเป็นองค์เกณฑ์ดังกล่าวนั้น ธาตุที่จะเป็นอันตรายร้ายแรงก็คือ ธาตุไฟ ไฟในที่นี้หมายถึงโลภะ โทสะ โมหะ นั่นเอง
ก็บอกกล่าวได้อย่างนี้แหละ!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี