ใครจะมองบิ๊กตู่ด้านลบอย่างไร ผมคิดว่า ผู้นำทุกๆ คนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
วันนี้จึงมองที่ข้อดี ส่วนข้อเสีย สื่อหรือฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะคนไม่ชอบบิ๊กตู่พูดไว้มากมาย
ผมในฐานะเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันทรัพยากรมนุษย์ ธรรมศาสตร์ ที่อยู่เป็นผู้อำนวยการติดต่อกัน 4 สมัย อดไม่ได้ที่จะชื่นชมท่าน เพราะบิ๊กตู่พูดเรื่องความสำคัญของทรัพยากรมนุษย์ตลอดเวลาว่า ประเทศจะอยู่รอดได้ก็เพราะทรัพยากรมนุษย์
เดี๋ยวนี้จะมีแนวคิดเรื่องนี้อยู่ 3 ระดับ
1.บริหารงานบุคคล (Personnel)
2.ทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources)
3.ตอนหลังเรื่องทุนมนุษย์
คำว่า ทรัพยากรบุคคล ไม่ควรจะใช้ เพราะเป็นคำพูดในการบริหารระดับองค์กรแคบๆ เช่น บริหารที่สำนักงาน แต่บริหารคนในองค์กร คือ ฝ่ายบุคคล ซึ่งเป็นคำที่เชยมาก ในต่างประเทศ เขาก็ไม่ใช้แล้ว
ผมเรียนให้ท่านทราบว่า สถาบันทรัพยากรมนุษย์ของธรรมศาสตร์ ไม่ได้เริ่มเป็นสถาบันทรัพยากรมนุษย์เพราะเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ยังไม่มีคนเข้าใจจุดเริ่มต้นได้เสนอเป็นสถาบันแรงงานเพราะศาสตราจารย์ นิคม จันทรวิทุร อยากให้ธรรมศาสตร์สนใจเรื่องนี้ เพราะช่วงนั้นแรงงาน
เสียเปรียบมาก ไม่มีเกียรติ ไม่มีศักดิ์ศรี และรัฐบาลในยุคนั้นก็ไม่เห็นด้วย ธรรมศาสตร์ฝ่ายซ้ายอยู่แล้ว เดี๋ยวแรงงานเกี่ยวกับการเมือง พอเข้าครม.ก็ตกไป
ผมคิดเองว่า ถ้าใช้คำพูดที่ดูกลางๆ น่าจะไปได้ก็จริง จึงเป็นคนคิดเรื่องทรัพยากรมนุษย์ แต่ในใจอยากจะเรียกว่า ทุนมนุษย์ แต่มันเร็วเกินไป
ในอดีต มีนายกหลายคนสนใจเรื่องทรัพยากรมนุษย์ แต่ไม่มีใครพูดบ่อยเท่าบิ๊กตู่ ผมต้องขอขอบคุณ
แต่การพูดอย่างเดียว ไม่ได้ผล ต้องมีนโยบายที่ออกมาเรื่องทรัพยากรมนุษย์ ปัจจุบันยังนำนโยบายไปปฏิบัติให้สำเร็จไม่ชัดเจน
ส่วนข้อดีอีกเรื่องหนึ่งคือ การอ่านหนังสือ ผมคิดว่า ในอดีตมีนายกฯทักษิณได้แนะนำให้อ่าน
ข้อดีของลุงตู่คือ เป็นผู้นำที่ทำให้คนไทยสนใจการอ่านหนังสือ เพียงแต่ต้องระวัง อย่าพลาดเรื่องเนื้อหาของหนังสือ เพราะหนังสือ Animal
Farm สะท้อนกลับมาที่ตัวลุงตู่เอง และควรจะแนะนำอีกเล่ม 1984 ซึ่งผู้เขียนคือ จอร์จ ออร์เวลล์ (George Orwell) เขียนไว้เมื่อ 70 ปี
ที่แล้วว่า รัฐบาลจะมีอำนาจเหนือบุคคลทุกคน รัฐบาลจะรู้ว่า ประชาชนในประเทศทำอะไร คือ ควบคุมได้หมด
แต่ช่วงจอร์จ ออร์เวลล์ เขียนเมื่อ 70 ปี เขาใช้จินตนาการเรื่องระบบเทคโนโลยีว่า จะเกิดขึ้น บัดนี้เกิดแล้ว เพราะรัฐบาลสามารถควบคุมประชาชนได้โดยระบบดิจิทัล
ขอพูดถึงพรรคอนาคตใหม่เพราะคนรุ่นใหม่ขาดประสบการณ์ อย่ามาอวดรู้ ผมโตเร็วที่ธรรมศาสตร์กว่ารุ่นนี้อีก ยังยกย่องให้เกียรติ ผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์เพราะผ่านความเจ็บปวดมาก่อน ในต่างประเทศ อาจารย์อายุ 95 ปี ยังเป็นที่นับถือ เช่น Peter Drucker พรรคอนาคตใหม่ควรจะยกย่องคนที่มีอายุมากกว่าเพราะเขาเหล่านั้นมีประสบการณ์ผ่านความเจ็บปวดมาแล้ว
ดังที่คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ เขียนหนังสือว่า มนุษย์ต้องรู้รากเหง้าของตัวเอง
ผมเห็นว่า ทุนที่สำคัญของทุนมนุษย์คือ ทุนทางวัฒนธรรม
สุดท้าย ผมขอฝากการบ้านให้ลุงตู่คิดการจัดการเรื่องทรัพยากรมนุษย์ในกระทรวงศึกษาฯของท่านให้เป็นตัวอย่างที่อาจจะนำไปปฏิบัติให้เกิดความสำเร็จอย่างยั่งยืน
(1) อย่าเปลี่ยนรัฐมนตรีบ่อยครั้ง ยุคทักษิณเปลี่ยนบ่อยเกินไป จึงไม่มีความต่อเนื่อง
(2) อย่าใช้กระทรวงศึกษาธิการเป็นฐานเสียงการเมือง ยุคทักษิณใช้ข้าราชการของกระทรวงมาช่วยม็อบแดงด้วย น่าเศร้ามาก
(3) ครูขาดคุณธรรม จริยธรรม ขาดความเป็นมืออาชีพ
(4) ครูรู้แต่วิชาของตัวเอง มองจุดเล็ก Micro ไม่มองภาพกว้าง Macro สอนไปโดยไม่ได้ดูว่า ลูกศิษย์จะมีงานทำหรือไม่
(5) ครูไม่เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ คำนึงถึงได้ปริญญาแต่ขาดปัญญา เด็กจึงคิดไม่เป็น
(6) ชอบสอนคนเดียวขาดการสอนเป็นทีม (Team Teaching and Team Learning)
(7) ไม่มีแบบอย่างที่ดี (Role Model) แต่ละโรงเรียนควรจะมีครูต้นแบบ โดยอาจจะเอาครูเกษียณที่มีความสามารถเป็นต้นแบบ ในฟินแลนด์ มีจำนวนครูเก่งแค่ 40% แต่เขาเป็นแบบอย่างให้ครูที่เหลือ
(8) ผอ.โรงเรียนทำตัวเป็นเจ้าขุนมูลนาย ระบบราชการ ไม่ใฝ่รู้ บริหารการศึกษาแบบระบบราชการ
งานเรื่องทรัพยากรมนุษย์ของผมเล็กๆ แต่ทำต่อเนื่องและพยายามให้ไปสู่ความสำเร็จ ไม่ใช่วัดที่ปริมาณว่าเรียนกี่หลักสูตร แต่วัดว่า สร้างให้มีคุณภาพของทุนมนุษย์สำเร็จหรือไม่
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี