คนจำนวนมากมายมักเข้าใจผิดว่าคนที่จบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (รวมถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเก่าแก่อื่นๆ ของไทย) จะต้องเป็นคนดี (ในที่นี้ขออนุญาตไม่อธิบายขยายความคำว่าคนดี เพราะเป็นสิ่งที่วิญญูชนและปัญญาชนจำเป็นต้องรู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้ว แต่หากใครที่คิดว่าไม่เข้าใจคำว่าคนดี ก็ขอแนะนำว่าโปรดกลับไปศึกษาค้นคว้าคำว่าคนดีให้เข้าใจเสียก่อน)
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า คนดีกับคนเรียนหนังสือเก่งเป็นคนละประเด็นกัน คนเรียนเก่งจนสามารถสำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่ที่สุด และได้รับการยกย่องว่าเป็นที่รวมของนักเรียนที่ทำคะแนนได้สูงสุดอาจไม่ใช่คนดีทุกคนเสมอไป (ทั้งนี้รวมถึงผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลกด้วย)
แม้จะเป็นที่ยอมรับตรงกันว่า การศึกษาทำให้คนมีความรู้ทางศิลปวิทยาการมากขึ้น และขณะเดียวกัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็พยายามจะอบรมบ่มนิสัยให้ผู้สำเร็จการศึกษาจากจุฬาฯ เป็นคนดี แต่ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้บัณฑิตทุกคนเป็นคนดีได้ เพราะความดีของคนนั้นมีรากฐานมาจากครอบครัว หากครอบครัวมีแต่คนไม่ดี เต็มไปด้วยตัวอย่างที่ไม่ดี ก็นับว่าเป็นเรื่องยากที่สมาชิกของครอบครัวนั้นจะเป็นคนดีได้
อย่าลืมว่าคนไม่ดี มีความเลวอยู่ในกมลสันดาน แต่ถ้าขยันอ่านหนังสือ ขยันทำการบ้าน ขยันเรียน ก็สามารถสำเร็จการศึกษาได้ สามารถจบการศึกษาอะไรก็ได้ตามแต่ระดับสติปัญญาและความอุตสาหะพยายามของเขา แต่ทว่าคนจำพวกนี้จะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะแม้แต่น้อย
เพราะฉะนั้น โปรดอย่าเข้าใจผิดคิดว่าบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทุกคนคือ คนดีวิเศษ ซึ่งก็ต้องย้ำเหมือนทุกๆ ครั้งว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสอนได้แค่วิชาการและความรู้ จุฬาฯ ไม่สามารถเปลี่ยนคนเลวให้กลายเป็นคนดีได้หมดทุกคน แต่จุฬาฯ อาจจะสามารถกล่อมเกลาบ่มเพาะให้คนบางคนที่อาจจะไม่ได้เลวทรามต่ำช้าจนเกินแก้ สามารถกลับตัวกลับใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้นได้บ้าง
ขอย้ำอีกครั้งว่า หากคนที่เลวมาโดยกำเนิด เลวเพราะได้รับการอบรมแบบผิดๆ มาจากครอบครัว หรือมีสมาชิกในครอบครัวเต็มไปด้วยคนเลวทรามต่ำช้า แม้คนเลวผู้นั้นสามารถสอบเข้าศึกษาต่อในจุฬาฯ ได้ ก็มิได้หมายความว่า คนเลวผู้นั้นจะกลายเป็นคนดีขึ้นมาได้ แต่จะเป็นได้แค่เพียงคนเลวที่มีการศึกษาดีเท่านั้น
เราเคยรับรู้กันมาแล้วมิใช่หรือว่า คนบางคนสอบเข้าจุฬาฯ ได้ด้วยเล่ห์เพทุบาย เพราะว่าพ่อมีอำนาจการเมือง จึงสั่งให้ลิ่วล้อขโมยข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยไปให้ลูกและเพื่อนๆ ของลูกได้รู้คำเฉลยก่อน สุดท้ายคนผู้นั้นก็สอบเข้าจุฬาฯ และเรียนจบจากจุฬาฯ ซึ่งแบบนี้รับรองว่าต้องให้เรียนที่จุฬาฯ จนจบปริญญาเอก ก็ไม่มีวันเป็นคนดีได้ ต่อให้มีพ่อจบปริญญาเอก ก็ไม่รับรองว่าไม่มีวันเป็นคนดี
ส่วนบัณฑิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กลุ่มหนึ่งที่กระทำพฤติกรรมหยาบช้าอันเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็อยู่ในข่ายคนมีความรู้แต่ไร้ความดี เพราะไม่สามารถแยกแยะสิ่งถูกสิ่งผิดได้ ขอย้ำเพื่อปิดท้ายว่า คนดีนั้นแม้ไม่ได้รับการศึกษาด้านวิชาการความรู้จากมหาวิทยาลัย
แห่งใดเลย เขาก็เป็นคนดีได้ เพราะรากฐานของเขาเต็มไปด้วยความดี ส่วนคนเลวนั้น แม้จบจากจุฬาฯ ก็ไม่สามารถเป็นคนดีได้ เพราะเลวมาโดยกำเนิด จุฬาฯ สอนได้แค่ความรู้ จุฬาฯ เปลี่ยนคนเลวให้เป็นคนดีไม่ได้ แล้วถ้ายิ่งคนสอนหนังสือบางคนในจุฬาฯ เป็นคนเลวด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องยากมากที่จุฬาฯ จะทำให้บัณฑิตเป็นคนดี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี