การพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกที่เรียกว่า EEC หรือ EAST ECONOMIC CORRIDOR ผู้ที่ริเริ่มก็คือรัฐบาลของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ผู้ที่เพิ่งล่วงลับไปเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านมาเป็นระยะเวลาเกือบ 4 ทศวรรษ 40 ปีแล้ว โครงการดังกล่าวยังผลที่น่าพอใจเป็นมรดกการพัฒนาประเทศที่สืบเนื่องต่อมาในสมัยรัฐบาล คสช.ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้นำมาต่อยอดการพัฒนาในปัจจุบัน
ในขณะนี้พื้นที่ภาคตะวันออกทั้งหมด 5 จังหวัดได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และปราจีนบุรี นับเป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่ยิ่งใหญ่เป็นพื้นที่สร้างเงินสร้างงานสร้างรายได้เข้าประเทศไทยมาสืบเนื่องยาวนานเป็นมรดกในการพัฒนาประเทศที่มีความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน ไปชั่วลูกชั่วหลานมีมิตรประเทศของไทยเข้ามาลงทุนมากมาย เช่นญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, จีน, ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา
โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นเป็นกลุ่มสำคัญที่มาลงทุนขนาดใหญ่ในวงเงินรวมกันมากกว่า 2 ล้านล้านบาท ระยะเวลามากกว่า 40 ปีที่ผ่านมา อาทิ กลุ่มฮิตาชิ ซึ่งเป็นกลุ่มทุนสำคัญในวงการอุตสาหกรรมไฟฟ้าอันดับ 1 ใน 4 ของญี่ปุ่น เมื่อวันที่20 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ กาญจนาคารผู้อำนวยการศูนย์ลูมาด้าเซ็นเตอร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมิสเตอร์อากิฮิโร โอฮาชิ ผอ.บริหาร Smart Manufacturing and IOT business center บริษัทฮิตาชิ เอเชีย (ไทยแลนด์)จำกัด ได้นำกลุ่มสื่อมวลชนไปเยือนศูนย์ลูมาด้าเซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ภายในอมตะซิตี้ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรีเผยว่าเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ภาครัฐได้กำหนดขึ้น
ทางบริษัทฮิตาชิ จำกัด และบริษัทฮิตาชิเอเชีย จำกัด ได้มีการเปิดตัวศูนย์ลูมาด้าที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งศูนย์ดังกล่าวถือเป็นศูนย์ลูมาด้าแห่งแรกของฮิตาชิ ซึ่งเกิดขึ้นจากนำความสำเร็จในการพัฒนาอินเตอร์เนตออฟติงส์ (ไอโอที) จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมทั้งญี่ปุ่นจีน และสหรัฐอเมริกา มารวมกันที่ศูนย์ลูมาด้าแห่งนี้สำหรับศูนย์ลูมาด้าเป็นการนำเสนอโซลูชั่นส์อินเตอร์เนตออฟติงส์ (ไอโอที) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างโซลูชั่นส์ดิจิทัลจากการร่วมกันคิดสร้างสรรค์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจที่แตกต่างกันไป
และด้วยการใช้กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลและเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ของศูนย์ลูมาด้าจะสามารถขับเคลื่อนการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์และเชิงแก้ไขปรับปรุงให้ตรงกับความต้องการได้ซึ่งฮิตาชิ (Hitachi) ตั้งเป้าที่จะเข้าถึงโรงงานทั่วประเทศไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตเชิงปฏิบัติการมาเชื่อมต่อกับระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสร้างความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมไทยในอนาคต
ทั้งนี้ลูมาด้าหมายถึงโซลูชั่นบริการและเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงของฮิตาชิที่วิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอเป็นข้อมูลเชิงลึกเพื่อผลักดันนวัตกรรมดิจิทัลโดยเป็นแพลตฟอร์มของอิตาชิผ่านการเชื่อมต่อและวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าสนับสนุนการสรรค์สร้างร่วมกันผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น กระบวนการวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ (big data analytics) ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence -AI) รวมทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(information and communication technology - ICT) เป็นต้น
การเปิดศูนย์ลูมาด้าจะช่วยนำเสนอเครื่องมือดิจิทัลที่จำเป็นเพื่อช่วยให้ไทยเดินหน้าพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานและยกระดับการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งจะช่วยสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในด้านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลรวมทั้งเทคโนโลยีไอโอทีและการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมเชิงนวัตกรรมด้วยโดยที่ผ่านมาตั้งแต่ศูนย์เปิดให้บริการเมื่อกันยายน 2561 จนถึงปัจจุบันมีหน่วยงานทั้งภาครัฐเอกชนรวมถึงสถาบันการศึกษามีความสนใจและเข้ามาเยี่ยมชมแล้ว 136 องค์กรและมีจำนวนคำสั่งซื้อแล้ว 11 รายการ
โดยคาดว่าจะมีผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมศูนย์ลูมาด้าอีกจำนวนมากเพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจที่ปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงมากนายสมศักดิ์กล่าวว่าศูนย์ลูมาด้าเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการสร้างเศรษฐกิจเชิงมูลค่าแบบยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์
บริษัทจะสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาของประเทศไทยต่อไปโดยยกระดับเป้าหมายหลักของบริษัทในการสรรค์สร้างร่วมกันกับหุ้นส่วนและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในฐานะกลไกหลักเพื่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคมธุรกิจและประเทศไทยต่อไป นอกจากนี้ ยังวางแผนที่จะนำโซลูชั่นส์ไปสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนในอนาคตอีกด้วยซึ่งเป็นการพัฒนาพื้นที่ EEC ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ตั้งปณิธานไว้นั่นเอง
ทีมข่าวการมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี