คำว่า “สายล่อฟ้า” ได้ถูกนักการเมืองไทยนำมาใช้กับ “ดาวสภา” ทั้งหลายที่อุตริทำตัวเป็นชาวไร่ตั้งฟาร์มเพาะศัตรูขายอย่างสุดมัน จนผู้เป็น“สายล่อฟ้า” นั้น จะถูกดาวสภาอีกฝ่ายรุมขยี้ขยำ
ดาวสภาที่ถูกระบุเป็น “สายล่อฟ้า” นั้นมักเป็นนักการเมืองที่มี “บาดแผลกระจายทั่วร่าง” และอาจ “มีชีวิตด้านมืด” ที่เปิดเผยไม่ได้
“สายล่อฟ้า” ในทางการเมือง มีทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ถ้าอยู่ขั้วรัฐบาล มักไม่ได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งสำคัญ เพราะจะกลายเป็น“หมู่บ้านกระสุนตก” ฝ่ายค้านขยันยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์เข้าใส่จนอาจกลายเป็นผลร้ายต่อรัฐบาลได้
ถ้า “สายล่อฟ้าอยู่ฝ่ายค้าน” อาจไม่ถูกห่ากระสุนถล่มใส่ เพราะฝ่ายค้านไม่มีอำนาจรัฐที่จะให้อีกฝ่ายโค่นล้ม
ดังนั้น ครม.ประยุทธ์ 2562/1 ที่กำลังจะเผยโฉมในไม่ช้า “ท่านกะปิตัน” จึงต้องใช้กล้องส่องรายชื่อรัฐมนตรีว่า “คนไหนเป็นสายล่อฟ้า?”
แต่น่าแปลกใจ “อัศวินฝ่ายค้าน” อย่าง “เจ๊ช่อ” ที่เป็น “สมิงนครอินทร์ถือดาบสองมือตะลุยฟัน” กลับกลายเป็น “สายล่อฟ้า” ที่ฝ่ายค้านต้องรีบนำมาเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดรายการ “ฟ้าผ่า” จนพรรคถูก “ผ่า” จนมอดไหม้
ด้วยประการฉะนี้ บทบาทของ “เจ๊ช่อ” จึงเริ่มจากบอนไซ เพราะเจ้าของพรรคฝ่ายค้าน“เกรงภัยจะเกิดรายการหมู่บ้านฟ้าผ่าจนสมาชิกแทบสูญพันธุ์จ้า”
กมลศักดิ์ ตั้งธรรนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี