2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเขียนถึงบุทจิต ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี 2020 ของสหรัฐมีอายุแค่ 37 ปี
เนื่องจากผู้สมัครปัจจุบันมีคนผู้สูงอายุหลายคน เช่น แซนเดอร์ส อายุ 78 โจ ไบเดน อายุ 76 แล้ว ซึ่งกว่าจะถึงเลือกตั้งก็ 78 ปี ถ้าได้เป็นอีก 4 ปีก็ 82 และยิ่งมีประธานาธิบดีทรัมป์ อายุ 73 กว่าจะจบเทอมแรกก็ 75 ปี ส่วน อลิซาเบธ วอร์เรนก็อายุประมาณ 70 ปี
คนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจอย่าง บุทจิต มีประวัติเป็นนายกเทศมนตรี 2 สมัยของเมืองเซาท์เบนด์ มีคนรู้จักน้อยมาก แต่พอประกาศตัวออกมา เป็นที่สนใจของคนพอควร
บุทจิต มีประวัติการศึกษาดีมาก จบฮาร์วาร์ด ไปต่อ Rhodes Scholarshipที่ Oxford ยังไปรบที่อัฟกานิสถานด้วย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ครบถ้วนของความเป็นผู้นำ
อายุแค่ 37 ปี ยังได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเมืองเซาท์เบนด์ แล้ว 2 สมัยช่วงที่เปิดตัวใหม่ๆ คนอาจรู้สึกคล้ายๆคุณธนาธร ก็พอใจ และคะแนนนิยมสูงขึ้น แต่พอผ่านไปได้สักพัก ต้องถูกตรวจสอบมากๆ คล้ายหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เริ่มมีปัญหา ถ้าเข้ามาปรับตัวและรับมือกับแรงกดดันได้ คะแนนอาจจะกลับมา แต่ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ ก็จะเริ่มเสื่อม เพราะยังไม่มีประสบการณ์ระดับชาติ
ช่วงนี้ ที่เมืองของเขา เซาท์เบนด์มีกรณีตำรวจผิวขาวฆ่าผิวดำทำให้คนผิวดำในเมืองเปิดอภิปรายโจมตีอย่างมาก จากรายการ CNN เห็นด้วยว่าอายุ 37 มีจุดแข็ง
หลายอย่างเช่น เป็นคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดใหม่ๆ คือ หนุ่ม แต่จุดอ่อน คือ เมื่อถูกโจมตีมากๆ ก็จะเก็บทุนทางอารมณ์ (Emotional Capital) ไม่ได้ มีผู้วิจารณ์สื่อหลายคนมองว่า แค่ตำรวจผิวขาวยิงผิวดำ ยังแก้ไม่ได้ ถ้าเจอปัญหาที่ใหญ่กว่านี้จะแก้ได้หรือไม่
คนรุ่นใหม่ในอเมริกาคงคล้ายคนไทยที่เรียกร้องอยากเห็นทุกอย่างเปลี่ยนเร็ว ซึ่งผมก็เคยเป็นคนรุ่นนี้มาก่อน ยืนยันว่าคนรุ่นใหม่จำเป็นต้องมีความเจ็บปวด มีประสบการณ์มากขึ้น จะได้จัดการกับความเจ็บปวดสำเร็จ เข้าทฤษฎีของผม (Learning from Pain)
นักข่าวหลายคนวิเคราะห์ว่า บุทจิตเมื่อถูกกดดันมากๆ ก็กลับทำตัวเป็นเทคโนแครตมีกฎระเบียบอะไรถูก อะไรผิด ถ้าเป็นนักการเมือง จะต้องมีศักยภาพมากกว่านี้ คือนักการเมืองเอากฎหมายมาพูดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเอารัฐศาสตร์มาใช้และต้องเอาตัวรอดให้ได้ จากการถูกกดดันครั้งแรก เรื่องตำรวจผิวขาวยิงผิวดำ ยังมีอารมณ์ ค่อนข้างจะควบคุมไม่ได้
เช่น คุณธนาธรโจมตีอาเซียนว่า จะต้องเป็นประชาธิปไตย ให้มีการแทรกแซงกิจการภายในประเทศของทุกประเทศในอาเซียนได้
คุณธนาธรพูดโดยหลักวิชาการถูกต้อง แต่ถ้าไม่มีประสบการณ์ที่ดี ต้องฟังความคิดเห็นหลายๆ ฝ่าย ไม่ใช่ฉันอยากจะพูดอะไรก็พูดได้
จากเหตุการณ์ที่เมืองเซาท์เบนด์ ทำให้เริ่มเห็นจุดอ่อนของบุทจิตที่ยังไม่มีวุฒิภาวะเป็นผู้ใหญ่พอ
ลองนึกดูสังคมไทย ถ้าวันหนึ่งมีผู้นำธนาธร ผมเองก็รับไม่ได้เพราะ คนไทยมีความหลากหลาย คนรุ่นใหม่ก็ต้องรับฟังคนรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์มากกว่า และมีทุนทางวัฒนธรรมที่ดีมากมาย การคิดวิชาการไม่ผิดแต่โลกแห่งความเป็นจริง ควรจะศึกษาทฤษฎี 2R’s ของผม Reality และ Relevance
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี