ได้รับเกียรติเป็น Keynote หัวข้อ Leadership and Human Resources Development towards Sustainable Green and Circular Economy ในการประชุมนานาชาติระหว่างประเทศ ในงานประชุมวิชาการนานาชาติและการแสดงนิทรรศการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมด้านพลาสติกชีวภาพ InnoBioplast 2019 จัดโดยสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย ขอขอบคุณ ดร.วันทนีย์ จองคำผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษา และคุณลำเพาพรรณ ลีรพันธุ์ สมาชิกสมาคมและกรรมการจัดงานให้เกียรติเชิญผม เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2562 ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กรุงเทพฯ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ไป Keynote การประชุมนานาชาติระหว่างประเทศ ในงานประชุมวิชาการนานาชาติและการแสดงนิทรรศการงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมด้านพลาสติกชีวภาพ InnoBioplast 2019 จัดโดยสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย
ผู้ที่มาเชิญผมคือ ดร.วันทนีย์ จองคำ ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษา และคุณลำเพาพรรณ ลีรพันธุ์ สมาชิกสมาคมและกรรมการจัดงาน ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ทั้งคู่ การประชุมของสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย จัดทุกๆ 2 ปี ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ทุกๆ ครั้ง โดยมี นายกิตติพงศ์ ลิ้มสุวรรณโรจน์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย จาก ปตท.
ผู้ฟังส่วนใหญ่เป็นนักวิทยาศาสตร์ จึงอยากให้ผมให้มุมมองในด้านคน ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง ผมคิดว่าคงจะช่วยให้ผู้ฟังส่วนใหญ่จากต่างประเทศได้เห็นมุมมองในหลายๆ ด้าน ว่าทำให้สำเร็จต้องมีปัจจัยด้านคนด้วย
เป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง ผมเริ่มด้วยการหา Quotations ที่น่าสนใจมา 3 เรื่อง ขอบคุณทีมงาน คือ คุณวราพร ชูภักดี คุณจิตรลดา ลียากาศ และคุณเอราวรรณ บุญปลอด
- “We won’t have a Society if we destroy the environment.”
Margaret Mead
- “The environment and the economy are really both two sides of the same coin. If we cannot sustain the environment,
we cannot sustain ourselves.”
- “You cannot protect environment unless you empower people”
Prof. Wangari Maathai
a Kenyan environmental activist
and a Peace Nobel Prize Winner
ใน 4.0 เรื่อง Bio- Technology พลาสติกชีวภาพเน้นการทำ Research เป็นจุดสำคัญเพื่อไปสู่นวัตกรรม
ทุกวันนี้โลกเต็มไปด้วยพลาสติกที่ไม่ย่อยสลายเป็น 100 ปี หรือพันปี
ในการประชุมสุดยอดของอาเซียนของเรายังจะตกลงกันเรื่องจะขจัดพลาสติกออกไปจากมหาสมุทร เพราะปัจจุบันปลาที่เรากินอยู่ก็อาจจะเป็นพิษได้
ผมว่าจุดที่ยากและต้องให้นักวิทยาศาสตร์ที่มีผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ในเรื่องการวิจัยมาสนใจเรื่อง ทุนมนุษย์เพราะปราศจากทุนมนุษย์แล้ว คนไม่สามารถนำเอานวัตกรรม Bio-Plastic พลาสติกชีวภาพไปสู่ความสำเร็จได้
จึงเริ่มให้เขาเห็นภาพใหญ่ก่อน โดยหยิบยก 17 Sustainable Goals ของ U.N มาให้เขาเห็นว่า Bio-Plastic ถ้าสำเร็จจะต้องเน้นเป้าหมายแห่งความยั่งยืนเหล่านั้นและจะต้องน้อมนำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาใช้
-เดินสายกลาง
-มีภูมิคุ้มกัน
-คิดเป็นระบบ
ใช้ความรู้และคุณธรรมเป็นหลัก นอกจากนี้ผมได้นำกฎ 6 ข้อของผมซึ่งได้พูดไว้หลายแห่ง แต่ยังมีคุณค่าอยู่ที่จะพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เรื่องสิ่งแวดล้อมหรือแก้เรื่องโลกร้อน ความยั่งยืนจะต้องแก้เรื่องความเหลื่อมล้ำและสร้างให้คนในระดับล่างให้พึ่งตัวเอง โดยเขาจะไม่ทำลายป่า
1) balance the short-term and the long-term benefits. :มองระยะสั้นไปสู่ระยะยาว
2) be environmentally friendly. : ทำสิ่งแวดล้อมให้ดี
3) balance the morality, ethics and development. : เน้นคุณธรรมจริยธรรม
4) be based on scientific thinking, analytical thinking, life-long learning and learning society. : มีความคิดเป็นวิทยาศาสตร์
5) benefit the majority instead of small groups of people : มองคนส่วนใหญ่ให้เป็นประโยชน์
6) be self-reliant : พึ่งพาตนเอง
ให้การศึกษาแก่นักวิทยาศาสตร์ที่มาประชุมมีโลกทัศน์กว้าง อย่ามองแค่วิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยี เช่น รัฐบาลของบิ๊กตู่ ให้ความสนใจอย่างมาก เน้นวิธี STEM
S = Science
T = Technology
E = Engineering
M = Mathematics
แต่ยังไม่พอต้องสร้างการทำงานเป็นทีมทั้งทีมวิทยาศาสตร์ ทีมการตลาดและสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกฝ่ายมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ซึ่งเป็นปัญหาของสังคมไทยเพราะคิดว่าคนที่เรียนสาขา STEM เท่านั้นจะไปสู่ความสำเร็จได้มาก แต่ผมคิดว่าต้องผสมระหว่าง Stem กับการบริหารจัดการโดยเฉพาะการปลูกฝังและการบริหารคนไม่ว่าจะเป็น ข้าราชการ, นักธุรกิจ, นักวิชาการและชุมชน อยากเห็นการทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่จบแล้วก็เลิกไป เพราะทุกงานที่ผมทำอยู่ จะเน้น
- 3 ต. คือ ต่อเนื่อง ต่อเนื่องและต่อเนื่อง
-ชนะเล็กๆ แต่ชนะไปเรื่อยๆ
สุดท้าย ความสำเร็จของ Bio-Plastic คือ 4.0 ทั่วๆ ไปจะมีแนวคิดเรื่องวิทยาศาสตร์และแนวคิดเชิงธุรกิจ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
แนวคิดทางธุรกิจวิจัย คงจะใช้แบบ Stanford University คือ
Imagination ➝ Creativity ➝ Entrepreneurship ➝ Customers ➝ Performance
โครงสร้างอายุ HR Architecture
1.ปลูกฝังให้เด็กมี Mindset เรื่องสิ่งแวดล้อม อย่างความยั่งยืน
2.สร้าง Core Value คือว่าทำอะไรต้องทิ้งทรัพยากรให้คนรุ่นหลังได้ใช้
3.อย่ามองคนแค่ 3 ช่วง เกิด, เป็นเด็ก, เรียนหนังสือ, ทำงาน, เกษียณ, ตาย
ทุกช่วงอายุต้องมีทั้งเรียนและทำงาน ที่น่าสนใจ เช่น คน 60 ขึ้นไปแล้ว ก็ต้องทำงานและต้องช่วยเป็นพี่เลี้ยงคนรุ่นน้อง
ช่วงวัย X, Y ต้องหาความรู้ใหม่ๆ เพราะความรู้จะล้าสมัยต้องกลับมาเรียนอีก และความรู้ก็ไม่ใช่แค่มีรายได้หรือมีงานทำ แต่ต้องทำให้โลกยั่งยืนด้วย
ส่วนรุ่น Z หรือ Millennials ต้องสนใจเรื่องความยั่งยืน มากกว่าคิดจะรวย มีความโลภ ต้องเริ่มให้เด็กๆ เห็นความสำคัญของความยั่งยืนเพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่มี
คุณค่าต่อไป
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี