รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้นำคณะรัฐมนตรี 36 คน เข้ามาบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีพรรคการเมืองที่เข้ามาผนึกกำลังร่วมรัฐบาล จำนวน 19 พรรค ในขณะที่สภาผู้แทนราษฎรในชุดหลังเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 มีจำนวนสส.ที่มาจาก 26 พรรคการเมืองนั่นหมายความว่ามีพรรคฝ่ายค้านในสภาสมัยประชุมนี้ จำนวน 7 พรรคการเมืองด้วยกัน
หลังจากนี้อีกประมาณ 180 วัน ก็จะต้องมีการเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่นทั่วประเทศขนานใหญ่ซึ่งประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร, เมืองพัทยา, องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 76 จังหวัด, องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จำนวน5,332 แห่ง, เทศบาลตำบล 2,233 แห่ง,เทศบาลเมือง 179 แห่ง และเทศบาลนคร 30 แห่งรวม 7,852 แห่ง
เป็นที่ทราบกันดีว่าการเลือกตั้ง อปท.ทั้งหมด 7,852 แห่ง ครั้งนี้เป็นเป้าหมายใหญ่ทางการเมืองมากกว่าเลือกตั้งทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาเพราะมันจะเชื่อมโยงไปสู่การแย่งชิงอำนาจรัฐในปลายปี 2566 อีกด้วย การคว้าชัยชนะจากการเลือกตั้ง อปท. ในต้นปี 2563 มันหมายถึงการวางรากฐานไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปในปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567 ด้วย
เรื่องนี้นักการเมืองฝ่ายค้านทราบดีที่สุดหากกุมฐานคะแนนเสียงอปท.ได้มากก็หมายความถึงชัยชนะในฐานการเมืองสนามใหญ่จะมาได้ง่ายและเป็นที่ทราบดีว่าพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 7 พรรค เป็นพรรคการเมืองของระบอบทักษิณล้วนๆ การคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง อปท. มันหมายถึงชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปในอนาคต4 ปีข้างหน้า
สนามเลือกตั้งท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดในรอบนี้ก็คือการเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ ซึ่งมีกระแสข่าวหลุดออกมาว่า พรรคเพื่อไทยจะส่งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงสู้ศึกครั้งนี้ ส่วนพรรคพลังประชารัฐ นั้น มีข่าวปล่อยว่ากำลังทาบทาม นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา แต่ในท้ายที่สุดข่าวปล่อยนี้ก็เป็นหมันเพราะผู้ว่าราชการคนดังยังเหลืออายุราชการอีกหลายปี ยังไม่อยากเป็นนักการเมือง อยากทำงานรับใช้ประชาชนต่อไปมากกว่า
ในขณะที่ตัวเลือกอีกคน คือ พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ชาวสุพรรณบุรี ก็แสดงออกมาว่าไม่ตัดสินใจจะเสนอตัวให้ประชาชนเลือกอีกเพราะอยากจะพักผ่อนหลังจากทำงานตำรวจแล้วร่วม 40 ปี และมาทำงานกับกรุงเทพมหานคร จนอายุ 69 ปี น่าจะพักผ่อนเสียทีเหนื่อยมานานเกือบ 50 ปี ขอพักผ่อนในชีวิตบั้นปลายน่าจะดีกว่า แต่ผู้ว่าฯกทม.ที่ชื่ออัศวินยังไม่ตอบว่าจะทำงานการเมืองต่อหรือว่าจะพักผ่อน
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยรั้งตำแหน่งผู้ว่าราชการ กทม.มานานนับสิบๆ ปี ตั้งแต่ยุค ดร.โจ-พิจิตต รัตตกุล ที่สมัครอิสระ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน2 สมัย หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร2 สมัย มาถึงคนปัจจุบันพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง มีการเผยว่าส่งคนสมัครเป็นผู้ว่าราชการ กทม.แน่นอน แต่ไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศวางมือทางการเมืองชั่วคราว
ทางด้านการเลือกตั้งที่น่าสนใจก็คือนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดใหญ่ๆ ในทุกๆ ภาคและนายกเทศมนตรีระดับเทศบาลนครใหญ่ เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี เทศบาลนครนนทบุรีเทศบาลนครปากเกร็ด องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเทศบาลนครรังสิต องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เทศบาลนครหาดใหญ่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมา ฯลฯ
ว่ากันตรงๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหญ่ๆ นั้น มีงบประมาณปีละเป็นหมื่นๆ ล้านบาท เป็นจำนวนเงินที่นักการเมืองส่วนท้องถิ่นสามารถหยิบฉวยมาใช้สร้างความร่ำรวยและอำนาจทางการเมืองได้ไม่ยากเย็นนักและยังเป็นฐานไปสู่ความยิ่งใหญ่ทางด้านการเมืองได้แบบไม่ยากเท่าใดนักหากดีเด่นดังตำแหน่งรัฐมนตรีในอนาคตก็ไม่ไปไหนเสียอย่างแน่นอนที่สุด
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี