ขีดเขียนเรื่องการบ้านการเมืองติดต่อกันมาตลอด วันนี้เลยขอขยับปรับเปลี่ยนไปที่เรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกันบ้าง เพราะทุกวันนี้โลกได้มีการค้นคว้า วิจัย
พัฒนากันแบบก้าวกระโดด จึงส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตอย่างรวดเร็ว และทำการเปลี่ยนรูปโฉมในการร่วมกันในสังคมแบบชนิดที่ไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน หรือหากมีคนเคยคิด ก็คงเป็นไปในแนวนวนิยายมากกว่า
ณ วันนี้ เครื่องกลลอยฟ้าไร้คนขับ (Drones) ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในเรื่องการส่งไปรษณีย์และขนส่งทางอากาศ นอกเหนือจากที่อยู่ในแวดวงการทหารมาไม่นาน ทำให้เราได้ตระหนักกันได้ว่า ในอนาคตสงครามสู้รบจะไม่ต้องใช้มนุษย์ (ทหาร) จำนวนมากๆ แบบในอดีตอีกต่อไป แต่เปลี่ยนมาเป็นอากาศยานต่างๆ ซึ่งกำลังพัฒนาไปถึงระดับไร้ผู้ขับขี่ หรือเป็นทหารหุ่นยนต์ ไปจนถึงทหารมนุษย์ประดิษฐ์ (Artificial Intelligence - AI)
และในชีวิตประจำวันในอนาคตอันใกล้นี้ ยานพาหนะต่างๆ ก็คงจะพัฒนาไปถึงระดับไร้คนขับ (Driverless หรือ Chauffeurless) และอาจถึงขั้นที่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ส่วนตัวอีกต่อไป แต่จะมีรถยนต์ให้เรียก (Ride-Hailing) มีการใช้รถ (ไร้คนขับ) ร่วมกัน (Pooling) และการใช้รถยนต์แบบขับแล้วจ่าย (pay per drive) เป็นต้น และยานยนต์ต่างๆ ก็จะเป็นแบบเครื่องไฟฟ้า (Electric) หรือผสมผสานกับเครื่องพลังแสงอาทิตย์ โดยหลังคาเป็นแผงผลิตไฟฟ้า เป็นต้น
ทางด้านการแพทย์ การค้นคว้า วิจัย ทดลอง เริ่มมาถึงขั้นที่รวบรวม แยกแยะข้อมูลทางพันธุกรรมของแต่ละมนุษย์ได้ จนบัดนี้รู้ว่า โครงสร้างพันธุกรรมของมนุษย์แต่ละคน หรือความเป็นมนุษย์นั้น ทุกคนมีเซลล์ 3 ล้านล้านกว่า และเหมือนกันถึง 99.09% ที่มนุษย์แตกต่างจากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งนั้นแค่ 0.01% เท่านั้นแต่สำคัญยิ่งเพราะจากความต่างเป็นพิเศษเฉพาะคนนี้ก็จะได้รู้ จุดอ่อนจุดแข็งของแต่ละคน และฉะนั้น การดูแลรักษาพยาบาล การให้ยาการลดยา การผ่าตัด การต่อเติมตัดต่อ ก็จะสามารถทำให้ได้กับเฉพาะคน เป็นคนคนไป(เหมือนกับการเข้าไปต่อแล้ว ของใครก็ของมัน(Tailor-made) ไม่ต้องใช้เสื้อโหล
นอกจากนั้น โอกาสที่เราจะได้ไปท่องเที่ยวในอวกาศก็จะมาถึง โดยระหว่างทางก็จะมีการสร้างสถานีอวกาศ เป็นเสมือนโรงแรมที่พักแรม โดยในยุคนี้ ได้มีการหาผู้สมัครอาสาไปฝึกอบรม เพื่อเป็นแนวหน้าเดินทางไปตั้งรกรากถิ่นฐานบนดาวอังคารแล้ว เป็นต้น ซึ่งหากสำเร็จ ก็คงจะเป็นแนวทางในการเดินหน้าสร้างอาณานิคมบนดวงดาวอื่นๆ ต่อไป ซึ่งจะกลายเป็น “อวกาศนิยม” เข้าสู่ยุคอวกาศแบบเต็มตัว
กลับมาที่การขนส่งทางน้ำ ก็ปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ มีกลุ่มบริษัทต่อเรือ/เดินเรือได้ทดลองวิ่งเรือปราศจากคนจากอังกฤษไปเบลเยียม เพื่อส่งสินค้าหอยนางรม (Oysters) ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยดีก็แน่นอนก็ต้องคิดต่อไปด้วยว่า ถ้าในกรณีมีปัญหา เกิดขัดข้องเครื่องกลไม่ทำงานแล้ววางระบบแก้ไขอย่างไร หรือหากเจอกับพวกโจรสลัด จะป้องกันได้อย่างไร แต่สิ่งเหล่านี้ก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงภาวะการใช้แรงงานมนุษย์น้อยลง ลดการเสี่ยงภัย ส่วนจะทำให้โครงการเรือไร้คนขับน่าดึงดูดใจจากคนทั่วไป ก็ต้องแก้ปัญหาให้คนไม่ตกงาน โดยอาจจะให้ไปนั่งทำงานในออฟฟิศ เพื่อทำการดูแลและป้องกันเรือ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว วิถีชีวิตและวิถีการทำงานของมนุษย์ก็คงเปลี่ยนแปลงไปอย่างใหญ่หลวง
ในขณะที่โลกเขากำลังก้าวกระโดด เมื่อมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทยเรา ผู้นำกลับย่ำเท้าอยู่กับที่ คณะรัฐบาลชุดล่าสุดก็ยังสาละวนอยู่กับเรื่องพื้นฐาน และความคิดพื้นๆ ผ่านโครงการประชานิยมต่างๆ เพียงเพื่อหวังจะหาคะแนนนิยมและขยายฐานเสียง ให้เปิดช่องทางเข้ามาทำมาหากิน (โกงกินบ้านเมือง) ซึ่งก็ได้แต่หวังลมๆ แล้งๆ ว่า เขาเหล่านั้นจะได้มีจิตสำนึก มีวิสัยทัศน์กว่านี้
อย่างไรก็ดี ประชาชนพลเมืองนั้นไม่จำเป็นต้องย่ำเท้าอยู่กับที่แบบพวกการเมืองยังสามารถออกมาร่วมคิด ร่วมขับเคลื่อน ร่วมปฏิบัติ เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีได้
โดยหลังจากนี้ การวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีจะต้องเป็นส่วนหนึ่งในกรอบความคิด เป็นความฝัน ความทะเยอทะยานของชาวไทยเราอย่างแท้จริง
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี