แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn ข้อซึ่งไม่ชอบแท้นั้นคือ สำแดงความโง่ของกรมศึกษา เช่นในหนังสือวิทยาจารย์เล่ม ๑๐ ตอน ๘ วันที่ ๑๕ เมษายน หน้า ๓๑๓ มีคำเรียกชาติแขกว่า แตมิลู แล้วมีหมึกแดงฆ่าตีนอู เหลือแต่ แตมิล นี่เป็นความเขลา ซึ่งปรากฏในตำราเรียนฤๅข่าวของกรมศึกษา เพราะแขกชาตินี้เรารู้จักมาแต่ไหนแต่ไรจนเป็นคำด่า นับว่าเป็นคำผรุสวาท มีในภาษามคธแลที่แปลเป็นภาษาไทยเป็นอันมากว่า ทมิฬ ให้ดูพงศาวดารลังกา เสียงเอาอย่างฝรั่งโง่ เพราะหลงฝรั่งเช่นนี้เป็นที่เดือดร้อนรำคาญ…(พระบรมนามาภิไธย) สยามินทร์ พระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่พระยาไพศาล ลงวันที่ 4 กรกฎาคม ร.ศ. 129)...
nn เนื่องจากเดือนกันยายนเป็นเดือนพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า ธรรมกร จึงขออัญเชิญพระราชหัตถเลขาสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ในโอกาสต่างๆ มาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ และเป็นข้อเตือนใจผู้อ่านหนังสือพิมพ์แนวหน้า...
nn เกมการเมืองระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านยังคงดำเนินต่อไป โดยดูเสมือนว่าไม่มีฝ่ายใดให้ความสนใจกับเรื่องความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมือง ล่าสุดฝ่ายค้านยังคงยืนยันจะเปิดอภิปรายทั่วไป โดยอาศัยข้อบังคับตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 กรณีนายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรีกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วน ส่วนฝ่ายรัฐบาลก็แก้เกมด้วยการขอให้อภิปรายด้วยการประชุมลับ ข้ออ้างของฝ่ายค้านคือจะไม่ทำให้เรื่องนี้กระทบกระเทือนเบื้องพระยุคลบาท แต่ต้องการให้ประชาชนรับทราบความจริงว่าเหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงกล่าวคำถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วน แต่ไม่ว่าฝ่ายค้านจะอ้างอย่างไรก็ตาม คนที่ไม่ปลื้มฝ่ายค้านก็ไม่เคยเชื่อลมปากของฝ่ายค้านแม้แต่น้อย เพราะสาธารณชนได้เห็นมาโดยตลอดว่า สส. ฝ่ายค้านบางรายมีท่าทีอย่างไรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย...
nn ประเด็นการขอเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ตามรัฐธรรมนูญ น่าจะลงตัวกับการอภิปรายภายในเวลา 1 วัน แล้วก็ต้องรอดูว่าประธานรัฐสภา ชวน หลีกภัย จะกำหนดวันอภิปรายในวันใด...
nn ในขณะที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงไม่แสดงท่าทีใดๆ มากนักกับเรื่องฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายทั่วไป แต่ ธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมาบอกว่าการอภิปรายในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก และบอกอีกว่าเรื่องนี้อยู่ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นน่าจะรอคำพิพากษาของศาลจะดีกว่า ถึงแม้ฝ่ายค้านจะอภิปรายก็ไม่น่าจะมีผลอะไร เพราะฝ่ายค้านไม่ใช่ผู้ชี้ขาด แล้วก็ยังพูดแทนนายกรัฐมนตรีว่า ฝ่ายค้านอย่าสำคัญตัวผิด อย่าคิดว่านายกฯ กลัวการชี้แจงต่อสภา เพราะในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายกฯ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ได้หนีสภา...
nn เรื่องนายกฯ ประยุทธ์ กลัวสภาหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่พูดกันไปตามแต่ว่าฝ่ายไหนจะเป็นคนพูด ถ้าหากฝ่ายค้านพูด ก็จะต้องบอกว่านายกฯ ประยุทธ์หนีสภา เพราะระยะหลังๆ ไม่เข้าสภาเลย แต่ฝ่ายรัฐบาลก็จะบอกว่า นายกฯ ประยุทธ์ ไม่หนีสภา แต่เหตุที่ไม่เข้าสภา เพราะติดภารกิจงานสำคัญในต่างจังหวัด...
nn ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้กำลังหลบหนีคดีอาญาจากประเทศไทย น่าจะดีใจเป็นอันมาก และคงจะไม่กล้าตั้งคำถามเชิงลบต่อศาลไทยในประเด็นความเป็นกลางอีกต่อไป หลังจากทราบข่าวว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยกฟ้องคดีอนุมัติกู้เงินจากธนาคารกรุงไทย ในสมัยทักษิณเรืองอำนาจให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร จนเป็นเหตุให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ทำให้รัฐต้องสูญเสียเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท เหตุผลหนึ่งที่ศาลยกฟ้องคดีนี้กับทักษัณ เพราะไม่มีใครยืนยันได้ว่า Big Boss หรือ Super Boss คือทักษิณ ชินวัตร...
nn เออ! เมื่อศาลท่านบอกเช่นนี้ก็ต้องจบคดีกันไป ส่วนความเสียหายที่เกิดกับรัฐก็ต้องรอดูว่าใครจะรับผิดชอบ เพราะต้องไม่ลืมว่าเงินของรัฐ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะมีใครมีปัญญานำเงินก้อนนั้นกลับคืนมาหรือไม่ ก็เท่านั้นเอง เพราะที่ผ่านๆ มานั้น เงินของรัฐก็หายสาบสูญไปเป็นประจำ แล้วคนที่ถูกเล่นงานก็จะเป็นแค่เพียงพวกเห็บเหา ปลาซิวปลาสร้อย ส่วน Big Boss หลุดรอดคดีทุกครั้งไป...
nn มีคนพูดกันต่อๆ ไปว่า เมื่อไม่สามารถระบุได้ว่าใครคือ Super Boss หรือ Big Boss ก็หมายความว่าลูกชายของ Big Boss หรือ Super Boss รายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเงินกู้กรุงไทย จะรอดพ้นคดีนี้หรือไม่ แต่ต้องไม่ลืมว่ามีหลักฐานชัดเจนว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีของลูกชาย Big Boss นะขอรับ เรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจน รอดูก็แล้วกันว่าคดีนี้จะถูกเป่าให้ละลายไปอีกหรือไม่ ช่างน่าอัศจรรย์เสียจริงๆ ประเทศไทยของเรา...
nn เมื่อ Big Boss หลุดคดีปล่อยกู้กรุงไทยไปแล้ว ก็ต้องรอดูกันว่าคดีที่กำลังอยู่ระหว่างชั้นศาลฎีกาพิจารณา คือคดีตรากฎหมายเพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ และดาวเทียมเป็นภาษีสรรพสามิต เพื่อเอื้อประโยชน์ธุรกิจให้บริษัทชินคอร์ป ซึ่งส่งผลให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท เตือนความจำว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2551 ยุค เลี้ยบ-สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไอซีที ส่วนคดีจะลงเอยสถานใด ก็ต้องรอดูกันไป...
nn นับเป็นข่าวดีของผู้เลี้ยงหมูในประเทศไทย (แต่เป็นข่าวร้ายของหมู) หลังจากมีข่าวการแพร่ระบาดเชื้อ AFS (อหิวาตกโรคหมู) ในประเทศจีน และประเทศเพื่อนบ้านของไทยบางประเทศ เช่น เวียดนาม จึงส่งผลให้ผู้เลี้ยงหมูในประเทศไทยได้รับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น เช่น จากฮ่องกง และอีกหลายประเทศที่ต้องนำเข้าเนื้อหมูจากจีน นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สุรชัย สุทธิธรรม บอกว่า ยอดส่งออกเนื้อหมูของไทยไปฮ่องกงในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 900 ตัน และคาดว่าตลอดทั้งปีนี้จะส่งออกไปเฉพาะที่ฮ่องกงสูงถึง 2,500 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2561 ไทยส่งเนื้อหมูไปฮ่องกง 1,400 ตันเท่านั้น...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี