การบริหารการศึกษาของประเทศไทยถ้าหากเทียบกับประเทศอื่นทั่วโลกยกเว้นประเทศที่อยู่ในดินแดนลับแลแล้ว ก็ปรากฏชัดเจนว่ามีความอ่อนด้อยลงจนเทียบกันไม่ติด และเป็นผลให้คุณภาพของเยาวชนไทยในภาพรวมย่ำแย่ตามๆ กัน
แต่ทว่าโดยชาติพันธุ์แล้ว คนไทยมีสายเลือดที่เป็นเลิศในโลก ดังนั้นแม้เวียนว่ายอยู่ในระบบการศึกษาในลักษณะเช่นว่านั้น แต่ในกิจการเยาวชนด้านต่างๆ ในทางการศึกษาก็มักปรากฏเสมอว่าเด็กไทยได้รับชัยชนะเลิศ ทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลกเป็นประจำ
นั่นต้องถือว่าเป็นความล้ำเลิศของสายเลือดและชาติพันธุ์เผ่าไทย แต่ก็มีจำนวนน้อยและจำกัดมาก ในขณะที่เยาวชนส่วนใหญ่ต้องไหลไปตามกระแสการศึกษาในระบบที่กำลังเป็นอยู่ และนานวันเข้าระบบความคิด ความรู้ คุณธรรม จริยธรรมของคนไทยก็ค่อยๆ ตกต่ำลง จนสักวันหนึ่งก็อาจไม่ต่างกับสวะที่ลอยไปตามกระแสน้ำ รอวันจมลงที่ทะเลตามธรรมชาติ
มากล่าวเรื่องนี้ในช่วงที่กระทรวงศึกษาธิการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบใหม่จากพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีความเกรงอกเกรงใจกัน และต่างก็ทำการกันไปตามความรู้สึกนึกคิดและที่ได้รับความคิดเห็นมาจากผู้สนับสนุนของพรรคการเมือง ซึ่งถ้าหากต่างคนต่างเดินต่างคนต่างไปและไปกันโดยไม่มีทิศทางแล้วไซร้ นอกจากจะไม่แก้ปัญหาให้กับระบบการศึกษาของชาติก็อาจทำให้ปัญหาหนักหนาสาหัสมากขึ้น
ดังนั้นด้วยไมตรีจิตที่มีต่อผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ จึงสมควรที่จะออกความคิดความเห็นในเรื่องนี้สักครั้งหนึ่ง เผื่อว่าผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาด้วยดีแล้วอาจนำไปปฏิบัติให้บังเกิดประโยชน์สุขแก่มหาชนชาวไทยได้ ทั้งยังหวังด้วยว่าจะเป็นการเริ่มต้นการกอบกู้การศึกษาของชาติในยุคใหม่นี้
และเมื่อจะออกความคิดความเห็นในเรื่องนี้ก็จำเป็นที่ต้องแสดงทุกข์อริยสัจ คือเหตุแห่งปัญหาของระบบการศึกษาของชาติ และภายใต้เนื้อที่อันจำกัดก็ขอสรุปที่สำคัญเพียงสี่ประการคือ
ประการแรก ปัญหาประชากรที่ลดลงจนน่าใจหาย อันเป็นผลจากการควบคุมกำเนิดแบบหลับหูหลับตาที่ทำต่อเนื่องมา 40 ปีแล้ว มาวันนี้คนไทยเกิดน้อยลง ตายมากขึ้น อัตราการเพิ่มของประชากรต่ำมาก จึงเป็นหนทางให้คนต่างด้าวเท้าต่างแดนและชาวเพื่อนบ้านแห่กันเข้ามาจับจองเป็นเจ้าของประเทศไทยในทุกมิติในปัจจุบันนี้
ประการที่สอง โรงเรียนทุกระดับจนถึงชั้นมหาวิทยาลัยมีนักเรียนนักศึกษาน้อยลงอย่างต่อเนื่อง บางโรงเรียนก็ร้างไปแล้ว บางโรงเรียนก็มีเด็กเรียนน้อยกว่าน้อย แม้ในระดับมหาวิทยาลัยก็มีนักศึกษาลดลงจนน่าใจหาย จึงเกิดการแห่ขายกิจการการศึกษากัน ซึ่งถ้าเป็นไปเช่นนี้ไม่นานนักต่างชาติก็จะมาเป็นเจ้าเข้าครองสถานการศึกษาเป็นส่วนใหญ่
นั่นหมายความว่าไม่มีการปรับตัวให้ทันท่วงทีจึงต้องสูญสลายหรือสูญพันธุ์ไปแบบเดียวกันไดโนเสาร์ ดังนั้นในวันนี้จึงมีข่าวคราวการซื้อขายโรงเรียนและกิจการกันจ้าละหวั่น
และเพื่อจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับรายได้ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาก็ต้องพึ่งพาหานักเรียนนักศึกษาจากต่างประเทศ ทั้งจากประเทศเพื่อนบ้านและจากประเทศจีน ดังนั้นหากอัตราของประชากรเป็นเช่นนี้ต่อไป ในที่สุดโรงเรียนและสถาบันการศึกษาของประเทศก็จะต้องเปลี่ยนเป็นโรงเรียนและสถาบันการศึกษาของต่างชาติ ที่ต้องมุ่งเน้นให้การศึกษาแก่ชาวต่างชาติเป็นหลัก
ประการที่สาม บุคลากรทางด้านการศึกษามีมากจนงบประมาณไม่พอจัดสรรให้เป็นเงินเดือนค่าจ้างในระดับที่จะมีฐานะรายได้เพียงพอ
ต่อการดำรงชีพ โดยบุคลากรด้านการศึกษามีอัตราถึง 1 ใน 3 ของข้าราชการทั้งหมดของประเทศ และใช้จ่ายเงินเดือนและค่าจ้างในอัตราที่สูงมาก จนแทบไม่มีงบประมาณเหลือพอไปทำนุบำรุงการศึกษาโดยเฉพาะคือการพัฒนาความรู้และอาชีพตลอดจนเทคโนโลยีให้กับบุคลากรทางการศึกษาให้ทันกับพัฒนาการของโลก และสามารถนำความรู้นั้นมาถ่ายทอดให้กับนักเรียนนักศึกษาได้
เพราะเหตุนี้หลักสูตรโดยทั่วไปจึงไม่สอดคล้องกับความต้องการในการพัฒนาประเทศ เด็กไทยต้องเรียนในสิ่งที่ไม่จำต้องเรียนมากมาย แต่ในสิ่งจำเป็นที่จะต้องเรียนกลับไม่ได้เรียนหรือไม่มีการสอน ดังนั้นผลิตผลของการศึกษาจึงจบออกมาแล้วทำงานไม่ได้ ทำให้คุณภาพการทำงานของชาติอ่อนด้อยอย่างน่าใจหาย
ประการที่สี่ เพราะเหตุที่บุคลากรทางการศึกษามาก ไม่สามารถหางบประมาณมาเพิ่มเงินเดือนให้สูงทันกับค่าครองชีพได้ ทั้งมีการส่งเสริมให้บุคลากรทางการศึกษาก่อหนี้ก่อสินฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย จึงทำให้บุคลากรทางการศึกษาเป็นหนี้สินมากเป็นลำดับหนึ่งของประเทศ (หมายถึงจำนวนคน โดยจำนวนหนี้ต่อบุคคลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจะมียอดหนี้มากกว่า) จึงเกิดเป็นปัญหาชีวิต การทำงาน และสังคม ทำให้บุคลากรทางการศึกษามีพฤติกรรมในทางต่ำและคุณธรรม จริยธรรม เสื่อมโทรมลงจนน่าตกใจ ทั้งมีความเดือดเนื้อร้อนใจจนไม่สามารถทำงานเป็นปกติสุขได้
ประการที่ห้า มีการทุจริตอย่างกว้างขวางที่สุดในทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยการทุจริตนั้นได้ซึมซ่านไปทุกขุมขน ไม่ว่าค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเดินทาง ค่าสิ่งสาธารณูปโภค ค่าจัดซื้อจัดจ้าง หรือค่าสนับสนุนการศึกษา ดังเช่น ค่านมเด็ก ค่าอาหารกลางวันเด็กที่มีข่าวโกงกินทั้งแผ่นดินอยู่ทุกวัน จนเกิดความรู้สึกทั่วกันว่าทำไมบุคลากรทางการศึกษาจึงมีพวกฉ้อราษฎร์บังหลวงมากมายขนาดนี้
ห้าประการของทุกข์อริยสัจแห่งการศึกษาของชาติดังที่แสดงมานี้ ถึงวันนี้ก็ยังดำรงอยู่และยังคงทรุดหนักมากขึ้น
เพราะทั้งห้าประการนี้เป็นปัญหาใหญ่หลวงที่นอกจากไม่เคยได้รับการแก้ไขแล้ว กลับมีการปล่อยปละละเลยหรือซ้ำเติมให้เกิดความทรุดโทรมเสื่อมเสียมากยิ่งขึ้นโดยลำดับ
สักวันหนึ่งคงจะไม่มีกลไกใดสามารถปราบคนฉ้อราษฎร์บังหลวงได้หมดสิ้น เพราะปริมาณมากมายจนสุดจะประมาณแล้ว เป็นปัญหาหมักหมมที่อาจใช้มาตรการแก้ไขไม่ได้แล้ว หรืออาจถึงขั้นต้องใช้มาตรการตัดปัญหาก็เป็นเรื่องที่น่าพิจารณา
ถ้าทั้งห้าประการนี้ไม่ได้รับการแก้ไขหรือขับเคลื่อนไปในทางที่ดีขึ้น ต่อให้มีความคิดที่จะพัฒนาสร้างสรรค์การศึกษาของชาติอย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีวันที่จะประสบความสำเร็จ
อุปมาเหมือนดั่งคนป่วยอาการหนักติดเตียง เดินเหินไม่ได้ ทุกอย่างอ่อนล้าเหมือนแสงเทียนที่กำลังจะดับ แทนที่จะมุ่งหน้ารักษาพยาบาลให้ฟื้นฟูกำลังและทำให้โรคสร่างคลายลง กลับไปหาเสื้อผ้าชั้นดีมาใส่ให้ โรคย่อมไม่มีทางหายฉันใด ปัญหาในระบบการศึกษาของชาติก็ฉันนั้น
ดังนั้นการบริหารระบบการศึกษาของชาติจึงพึงกระจ่างแจ้งในทุกข์อริยสัจทั้งห้าประการดังกล่าว และเมื่อแจ้งในห้าประการนี้แล้ว ก็ย่อมคิดอ่านค้นคว้าหาเหตุแห่งปัญหาได้ไม่ยากไม่ลำบาก
และเมื่อค้นคว้าพบเหตุแห่งปัญหาแล้ว ก็สามารถกำหนดเป้าหมายแห่งความสำเร็จที่จะพัฒนาการศึกษาของชาติให้ก้าวหน้าไปทันยุคสมัย ทันพัฒนาการของโลก และทันกับการแข่งขันของประเทศต่างๆ ทั่วโลก
จากนั้นแล้วใครจะมีความคิดอ่านที่เลิศล้ำสุดวิเศษประการใด ก็สามารถนำมาพัฒนาใช้สอยได้ เพราะเมื่อร่างกายแข็งแรงแล้วก็ย่อมทำการงานอันหนักได้
ดังนั้นเมื่อสามารถกำหนดเป้าหมายแห่งความสำเร็จในการแก้ปัญหาและในการพัฒนาฟื้นฟูได้ชัดเจนแล้ว ก็ย่อมสามารถกำหนดมาตรการและวิธีการที่จะทำให้ความสำเร็จนั้นปรากฏเป็นจริง
ประโยชน์สุขก็จะบังเกิดแก่ประเทศชาติและประชาชนสืบไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี