การทำให้โรงเรียนมีคุณภาพการเรียนการสอนสูงขึ้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าพิจารณาสภาพความเป็นจริงของประเทศไทย เราต้องถามต่อไปว่า
ภายใต้ข้อจำกัดของทรัพยากรทั้งครูและระบบการบริหารจัดการจนถึงงบประมาณ ประเทศไทยควรจะจัดลำดับความสำคัญการยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนให้กับนักเรียนกลุ่มไหนก่อนและอย่างไร
เมื่อไม่นานมานี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ (นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ) มอบนโยบายที่ต้องการสร้าง “โรงเรียน Elite” ขึ้น และได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มากโดยเฉพาะในทางที่เห็นต่าง ตั้งแต่จะทำให้เกิดการแบ่งชนชั้นและความแตกแยกของสังคมจนถึงการตอกย้ำปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและสังคม
ถ้าจะวิเคราะห์สภาพเด็กนักเรียนที่กำลังเรียนหนังสือในขณะนี้ พอจะแบ่งนักเรียนออกได้เป็น 5 กลุ่ม คือ
1) กลุ่มนักเรียนยากจนเป็นพิเศษ คือ กลุ่มที่พ่อแม่มีรายได้ต่ำสุดในสังคม เดือนละไม่ถึง 3,000 บาท พ่อแม่ไม่สามารถช่วยลูกให้ไปโรงเรียนได้เลย นักเรียนกลุ่มนี้จำนวนมากไม่ได้เข้าเรียน และหลุดออกจากระบบการศึกษา เด็กกลุ่มนี้อยู่ชายขอบทางเศรษฐกิจและภูมิศาสตร์
2) กลุ่มนักเรียนยากจน คือกลุ่มที่พ่อแม่อาจอยู่ในเมืองและชนบท มีรายได้ต่ำกว่ารายได้ขั้นต่ำ ไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน นักเรียน
กลุ่มนี้อาศัยการเรียนฟรีที่รัฐบาลอุดหนุน และมักจะหลุดออกจากโรงเรียนและระบบการศึกษาเพราะปัญหาครอบครัว
3) กลุ่มนักเรียนปานกลาง คือกลุ่มที่พ่อแม่มีรายได้ปานกลาง สามารถไปโรงเรียนรัฐได้ และพ่อแม่พยายามสนับสนุนให้ลูกได้เรียนเพื่อหวังว่าจะมีอนาคตที่ดี แต่ผิดหวังกับคุณภาพของการศึกษา
4) กลุ่มนักเรียนรวย คือกลุ่มที่พ่อแม่มีฐานะดีและมีความพร้อมที่จะส่งเสริมให้ลูกได้มีโอกาสที่จะเรียนอย่างมีคุณภาพ นักเรียนกลุ่มนี้จะเรียนพิเศษ (การติว) ตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อแข่งขันเข้าโรงเรียนคุณภาพสูงทั้งของรัฐและเอกชน
5) กลุ่มนักเรียนรวยพิเศษ คือกลุ่มที่พ่อแม่มีฐานะร่ำรวยมาก สามารถเข้าโรงเรียนอินเตอร์ที่มีราคาแพงจากต่างประเทศ และมักจะไปเรียนชั้นมัธยมในต่างประเทศ
จากลักษณะของนักเรียนทั้ง 5 กลุ่มนี้ ทำให้ต้องถามท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่าโรงเรียน Elite ที่ท่านตั้งใจจะทำนั้นเพื่อนักเรียนกลุ่มไหน ถ้าท่านตอบว่าเพื่อนักเรียนกลุ่มที่ 4 และ 5 (กลุ่มนักเรียนรวยและรวยพิเศษ) ก็ควรจะมีคนคัดค้านท่านเป็นจำนวนมาก (รวมทั้งผมด้วย) แต่ถ้าท่านตอบว่าเพื่อนักเรียนกลุ่มที่ 1 และ 2 (กลุ่มนักเรียนยากจนเป็นพิเศษและยากจน) ก็ควรจะมีคนเห็นด้วยกับท่านพอสมควร พร้อมกับคำถามว่า จะทำอย่างไรเพราะนักเรียนยังอยู่ในสภาพที่จะไปโรงเรียนได้ทุกวันหรือไม่ก็ยังไม่ทราบเลย ถ้าท่านตอบว่าเพื่อนักเรียนกลุ่มที่ 3 (กลุ่มนักเรียนปานกลาง) น่าจะมีคนเห็นด้วยกับท่านมากขึ้น พร้อมกับคำถามว่า โรงเรียน Elite นี้ต้องมีจำนวนเท่าไหร่จึงจะเพียงพอกับจำนวนนักเรียนทั้งหมด
จนถึงขณะนี้ ประเด็นที่ชัดเจนคือ การแก้ไขหรือยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียนด้วยการทำหรือสร้างโรงเรียนต้นแบบ เช่น โรงเรียน Elite ของรัฐมนตรีณัฏฐพล จึงไม่ใช่แนวทางแก้ไขคุณภาพการเรียนการสอนที่เพียงพอกับความต้องการของจำนวนนักเรียน แนวคิดเรื่องการสร้างโรงเรียนต้นแบบและขยายผลสำเร็จจึงไม่น่าจะใช่คำตอบ
ข้อเสนอเพื่อช่วยกันคิดคือ
1.การศึกษาเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนในสังคม และโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ตั้งมีบริบทที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรเลือกใช้มาตรการและเครื่องมือที่หลากหลาย เช่น นักเรียนกลุ่มยากจนเป็นพิเศษและกลุ่มยากจน อาจจะต้องให้ภาคประชาสังคมดูแลให้มาก เพราะครูในภาคประชาสังคมจะมีความเสียสละและสามารถทำงานภายใต้ข้อจำกัดได้สูงกว่าครูในระบบราชการ ดังนั้นการสนับสนุนตั้งแต่งบประมาณจนถึงการแก้ไขกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนให้เปิดกว้าง จะช่วยให้ภาคประชาสังคมทำงานเพื่อกลุ่มนักเรียนยากจนเป็นพิเศษและยากจนได้มากขึ้นและสะดวกขึ้น
2.การพัฒนาครูประจำการของกระทรวงศึกษาธิการตามโรงเรียนต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่รองรับนักเรียนกลุ่มปานกลางให้เปลี่ยน “วิธีการสอน” ใหม่ จะจะช่วยให้นักเรียนเกิด “การเรียนรู้” การนำระบบศึกษานิเทศก์กลับมาเพื่อช่วยพัฒนาชั้นเรียนและการเรียนการสอนให้พัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง การกระจายอำนาจให้โรงเรียนที่จะปรับเนื้อหาสาระในวิชาและจัดกระบวนการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับบริบทความเป็นจริงและเงื่อนไขของโรงเรียนได้
3.สำหรับนักเรียนกลุ่มรวยและรวยเป็นพิเศษ ถือว่าเป็นกลุ่มที่ได้เปรียบในสังคมและมีโอกาสได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพเชิงวิชาการสูงกว่าทุกกลุ่ม และนักเรียนกลุ่มนี้มีความโน้มเอียงที่จะยึดผลประโยชน์ของตัวเองเป็นใหญ่ เมื่อคนที่มีความรู้ทักษะและสมรรถนะสูง แต่จิตสาธารณะต่ำ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเอาเปรียบสังคมและขยายปัญหาความเหลื่อมล้ำออกไปเป็นความขัดแย้งแตกแยก ดังนั้นการเพิ่มเติมเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และจิตสาธารณะ ลงไปในนักเรียนกลุ่มรวยและรวยเป็นพิเศษจึงจำเป็นอย่างมาก (ความจริงจำเป็นสำหรับนักเรียนทุกกลุ่มทุกคน)
ข้อเสนอเบื้องต้น 3 ประการนี้ คือความคิดที่ต้องการจะบอกว่า แนวคิดโรงเรียน Elite ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของสังคมไทยและวิกฤติของคุณภาพการศึกษาของประเทศไทยแล้ว การแก้ไขปัญหาคุณภาพการศึกษาต้องนำความเป็นจริงของบริบทโรงเรียนแต่ละแห่งเข้ามาประกอบด้วย ไม่ใช่นโยบายเดียวใช้กับทุกโรงเรียนในทุกพื้นที่
กนก วงษ์ตระหง่าน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี