โฆษกพรรคอนาคตใหม่ นางสาวพรรณิการ์ วานิช ได้หยิบฉวยเอาประเด็นการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ มาเคลื่อนไหวทางการเมือง กล่าวหาทำนองว่ามีเหตุการณ์เสียชีวิตผิดปกติ และปลุกเร้าให้ญาติพี่น้องต่อสู้ต่อไป
โดยนางสาวพรรณิการ์ได้ลงพื้นที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี พบครอบครัวของนายอับดุลเลาะ
นางสาวพรรณิการ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของคนแค่คนเดียว เพราะกรณีของนายอับดุลเลาะ ไม่ใช่กรณีแรกที่มีคนโดนทหารควบคุมตัวโดยไม่ต้องมีพยานหลักฐานใดๆ แล้วกลับออกจากค่ายในสภาพบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต การเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะคือตัวอย่างที่น่าเศร้าของคนธรรมดาที่ต้องได้รับผลกระทบจากการใช้กฎหมายพิเศษในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
1. กรณีนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง หมดสติไปโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังถูกควบคุมตัวส่งเข้าศูนย์ซักถามภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี หามส่งไอซียู จากนั้นรักษาตัวอยู่นับเดือน ในสภาพไม่รู้สึกตัว ก่อนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2562
กรณีนี้ ถูกฝ่ายก่อความไม่สงบนำไปขยายผล ปลุกระดมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
การเคลื่อนไหวของโฆษกพรรคอนาคตใหม่ จึงเข้าทางพอดี
2. สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเชิงลึกว่า กรณีการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาเพื่อความโปร่งใส
องค์ประกอบของคณะกรรมการชุดนี้ ล้วนเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับในพื้นที่ และมาจากภาคส่วนต่างๆ อย่างหลากหลาย
เมื่อวันอังคารที่ 28 ส.ค.2562 หลังการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ 3 วัน คณะกรรมการฯ ได้เปิดแถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ระบุว่า
“...ทางคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้แต่งตั้งบุคลากรที่เป็นที่ยอมรับทางสังคมจากผู้แทนองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ภาคประชาสังคม องค์กรศาสนา นักวิชาการ ภาคประชาชน และเจ้าหน้าที่ ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างอิสระ โปร่งใส เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยได้เข้าไปตรวจสอบสถานที่ซักถาม เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาสอบถามและให้ข้อมูล ตลอดจนตรวจสอบข้อมูลแวดล้อมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สรุปการดำเนินการดังนี้
1. ดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ได้ทำการสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ พบว่าเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการในด้านต่างๆ ถูกต้องตามขั้นตอนทุกประการ จากการสอบถามข้อมูลรายบุคคลไม่ได้พบความผิดปกติใดๆ
2. ดำเนินการตรวจสอบเรื่องสถานที่ซักถาม เป็นไปตามมาตรฐาน แต่กล้องวงจรปิดไม่สามารถใช้การได้ จากการตรวจสอบพบว่าอาคารดังกล่าวเพิ่งสร้างเสร็จ และเริ่มใช้งานเมื่อเดือน พ.ค.2562 ตัวกล้องวงจรปิดได้ดำเนินการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีการส่งมอบ จึงยังไม่ได้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม ภายหลังทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ให้บริษัทดำเนินการส่งมอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ พร้อมที่จะให้องค์กรต่างๆ เข้าทำการตรวจสอบมาตรฐานของหน่วยซักถามได้ตลอดเวลา
3. การดำเนินการติดตามข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการรักษาพยาบาลจากแพทย์ที่เกี่ยวข้อง พบว่า
3.1 สาเหตุเสียชีวิตมาจากอาการปอดอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรงsevere pneumonia และมีภาวะพิษเหตุติดเชื้อ septic shock สาเหตุนำ คือภาวะสมองขาดเลือด และขาดออกซิเจน hypoxic ischemic encephalopathy (ตามรายงานแพทย์)
3.2 สำหรับประเด็นที่ทางสังคมค้นหาสาเหตุของสมองขาดออกซิเจนและมีสมองบวมนั้น คณะกรรมการฯได้รวบรวมข้อเท็จจริงจากการชี้แจงความเห็นของคณะแพทย์ที่ให้การรักษา สรุปว่าการขาดออกซิเจนของสมองสามารถเกิดขึ้นได้จาก
3.2.1 มีการกระแทกอย่างรุนแรงจากภายนอก แล้วส่งผลให้สมองได้รับการกระทบกระเทือนจนมีการบาดเจ็บภายในที่รุนแรง ซึ่งคณะแพทย์ได้ชันสูตรโดยละเอียดรอบคอบแล้ว ทั้งจากการตรวจภายนอก การเอกซเรย์ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ไม่พบรอยช้ำของเนื้อเยื่อใดๆ และไม่พบกระดูกร้าวแตก อันจะเป็นหลักฐานแสดงร่องรอยการกระแทกจากภายนอก ทั้งจากกรณีที่มีวัตถุภายนอกมากระทำ หรือจากอุบัติเหตุล้มแล้วไปกระแทกกับวัสดุแข็งใดๆ
3.2.2 การแตกของหลอดเลือดในสมอง จากโรคหลอดเลือดโป่งพอง (aneurysm) ซึ่งเป็นโรคที่จะไม่ปรากฏอาการใดๆ ในขณะดำเนินชีวิต และอาจไม่มีอาการนำก่อนที่จะมีการแตกออก การแตกออกของหลอดเลือดในสมองเช่นนี้จะส่งผลต่อเนื้อสมองได้อย่างรุนแรง และจากการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง พบว่ามีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นในส่วนที่เคลือบติดกับเนื้อสมองสับอาราชนอยด์ (subarachnoid hemorrhage) โดยไม่พบมีเลือดออกที่เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก ซึ่งหากมีการกระแทกจากภายนอกจะมีเลือดออกที่เยื่อหุ้มสมองชั้นนอกเป็นลำดับแรก จึงเข้าใจกันได้ว่าการที่สมองบวมเป็นผลจากภาวะหลอดเลือดภายในสมองที่โป่งพองแตก แล้วมีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นในส่วนที่เคลือบติดกับเนื้อสมอง จนส่งผลให้สมองขาดออกซิเจนและสมองบวมได้
ทั้งนี้ ทางคณะแพทย์ได้พยายามที่จะวินิจฉัยให้ชัดเจนโดยการฉีดสารทึบรังสี พร้อมกับการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ แต่ปรากฏว่าสารทึบรังสีนี้ไม่สามารถเข้าไปในเนื้อสมองได้ อันเป็นเหตุจากไม่มีการไหลเวียนเลือดในสมอง จึงทำให้ไม่สามารถยืนยันแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนได้ ซึ่งในกรณีเช่นนี้หากจะมีการตรวจสอบให้ชัดเจนก็สามารถทำได้ด้วยวิธีการผ่าพิสูจน์ แต่หลังจากนายอับดุลเลาะ เสียชีวิตไม่ได้รับการอนุญาตให้ดำเนินการผ่าศพพิสูจน์ เนื่องด้วยกระบวนการผ่าพิสูจน์สำหรับกรณีนี้อาจต้องใช้เวลานานตามกรรมวิธีทางด้านการแพทย์ จึงไม่สามารถยืนยันการวินิจฉัยข้างต้นได้
3.2.3 การไม่มีออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในหลายกรณี เช่น ผู้ป่วยอาจถูกผู้อื่นกระทำ อย่างที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการใช้ถุงคลุม การใช้ผ้าเปียกปิดหน้าแล้วเทน้ำใส่ หรือแม้กระทั่งตัวผู้ป่วยหมดสติและมีภาวะปิดกั้นทางเดินหายใจ ไม่ได้รับการช่วยเหลือภายในระยะเวลาอันควร
จากการที่มีการประชุมสรุปกับคณะแพทย์ มีการสอบถามถึงกรณีนี้ แพทย์ชี้ให้เห็นว่าหากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น จะต้องมีการแสดงออกถึงจุดที่เลือดออกบ้าง เช่น จะแสดงออกได้ชัดเจนที่ตา คือเยื่อบุหลอดเลือดจะแตก และมีเลือดออกตามตา เหงือก ริมฝีปากคล้ำ เยื่อบุจะขาด ใบหน้าบวมคล้ำ ผู้ที่ขาดออกซิเจนจะแสดงเห็นได้ชัดเจนจากบริเวณริมฝีปาก ซึ่งในกรณีนายอับดุลเลาะไม่พบลักษณะดังกล่าว
4. การเจ็บป่วยที่นำไปสู่การเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะซึ่งอยู่ระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่รัฐ คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่าควรให้การช่วยเหลือเยียวยา โดยทางคณะกรรมการฯจะรวบรวมผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง และผลการตรวจวินิจฉัยของแพทย์ รายงานให้ ศอ.บต. (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้) พิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้คณะกรรมการฯ มีมติว่า ควรให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ตามความเหมาะสม โดยจะเชิญภรรยาและครอบครัวของนายอับดุลเลาะมาหารือต่อไป”
สรุป คือ นายอับดุลเลาะน่าจะหมดสติและเสียชีวิตเพราะอาการเจ็บป่วยที่เป็นมาก่อนโดยไม่รู้ตัว มากกว่าที่จะถูกผู้อื่นทำให้ตาย
3. การที่ สส.พรรคอนาคตใหม่พยายามโหมกระพือเรื่องนี้ โดยไม่สนใจผลการตรวจสอบของคณะกรรมการซึ่งมีความหลากหลาย จึงถูกมองว่า มีเจตนาแท้จริง คืออะไร?
เพียงเพราะต้องการโจมตีทหาร กองทัพ? โจมตีรัฐมนตรีกลาโหม พลเอกประยุทธ์?
ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาไฟใต้? หรือต้องการจะสุมไฟ?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี