เป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ประเทศไทยและประชาชาติไทยอย่างหาที่สุดมิได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ต้องขังทั่วประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมสร้างความปีติยินดีและความอิ่มอกอิ่มใจแก่บรรดาญาติพี่น้องทั้งหลาย ตลอดจนพนักงานเจ้าหน้าที่ในด้านราชทัณฑ์ทั่วประเทศด้วย
นั่นคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยอาทรสุขภาพอนามัยและความเป็นอยู่ของบรรดาผู้ต้องขังทั่วประเทศ ทั้งในสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและทรงปรารถนาให้ผู้ต้องขังเหล่านั้นเมื่อพ้นโทษออกมาแล้วสามารถกลับคืนสู่อ้อมอกของสังคมได้อย่างอบอุ่น
โดยมีสุขภาพอนามัยที่ดีพร้อม ไม่ใช่ออกมาอย่างคนอมโรค หรือคนป่วยเรื้อรัง หรือคนพิการอันเกิดแต่ความเจ็บป่วยยืดเยื้อยาวนานเหมือนกับที่ผ่านๆ มา คนเหล่านั้นก็จะกลับกลายมาเป็นกำลังแผ่นดินและในการพัฒนาบ้านเมืองของเราต่อไปในภายภาคหน้า
จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ รับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในสังกัดกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อที่จะได้พระราชทานความช่วยเหลือและอุปถัมภ์ ให้บังเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการ ตลอดจนผู้ต้องขังทั้งหลายให้เป็นไปตามพระราชประสงค์
และเพื่อให้การดำเนินงานในการช่วยเหลืออุปถัมภ์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ให้บรรลุตามพระราชประสงค์นั้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะกรรมการที่รับผิดชอบปฏิบัติการดูแลในเรื่องนี้ขึ้นคณะหนึ่งถือเป็นกลไกทางการปฏิบัติเพื่อให้การทั้งปวงสำเร็จตามพระราชประสงค์นั้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับเป็นองค์ประธานที่ปรึกษาของคณะกรรมการ โดยเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เป็นรองประธานที่ปรึกษาและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ
โดยมีองคมนตรีและผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในราชการ รวมทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกคนเป็นกรรมการด้วย
พระมหากรุณาธิคุณดังกล่าวนี้ฉ่ำเย็นซาบซ่านอิ่มอกอิ่มใจพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศอย่างยิ่ง ทำให้เสียงเพลงอันเป็นสัญลักษณ์ของเรื่องนี้ดังกึกก้องขึ้นในมโนสัญญาของคนทั้งปวงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากบ้านเมืองนี้แห้งแล้งด้านนี้มานานนักหนาแล้ว
อันความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน
ในเวลาบัดนี้มีผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศร่วม 300,000 คน การที่บุคลากรของชาติจำนวนมากมายขนาดนี้ต้องขังอยู่ในเรือนจำและยังจะเพิ่มขึ้นทุกปีนั้นจัดเป็นปัญหาใหญ่ของชาติที่ถึงวันนี้ก็ไม่มีใครคิดอ่านแก้ไขปัญหานี้ ดังนั้นการเพิ่มขึ้นในทางปริมาณของผู้ต้องขังจึงพุ่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
เมื่อผู้ต้องขังเพิ่มขึ้นก็ต้องใช้บุคลากรทางด้านราชทัณฑ์เพิ่มมากขึ้น การอำนวยการทางทัณฑวิทยาเพื่อทำให้ผู้ต้องขังฟื้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และพิษภัยจากการเป็นผู้ต้องขังให้มีความสมบูรณ์พร้อมเมื่อต้องกลับคืนสู่อ้อมอกของสังคม จึงเป็นภาระอันหนักหน่วงและทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินในแต่ละปี ซึ่งต้องถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องมีคนดีมีสติปัญญามาทำการแก้ไขให้จงได้
แต่ซ้ำหนักจากสภาพดังกล่าวก็คือ ผู้ต้องขังเมื่อมีจำนวนมากก็มีคนเจ็บป่วยจำนวนมากตามไปด้วยจนทำให้สถานพยาบาลตามเรือนจำต่างๆ ไม่เพียงพอหรือไม่อยู่ในขีดความสามารถที่จะช่วยเหลือชีวิตผู้ต้องขังป่วยหรือในการเยียวยาเพื่อลดความเจ็บป่วยลง จนต้องมีการส่งตัวผู้ป่วยจำนวนหนึ่งออกไปรักษาภายนอกเรือนจำและเกิดเป็นข้อครหาอันไม่เป็นมงคลต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
โดยรวมก็คือ ผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยนั้นมีความจำเป็นและมีสิทธิ์ที่จะได้รับการรักษาพยาบาลอย่างดีในมาตรฐานเดียวกันกับการดูแลรักษาประชาชนทั่วไป ซึ่งแม้จะมีการใช้ความพยายามแก้ไขปัญหานี้มานานเท่าใดแล้ว ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้มิหนำซ้ำ กลับลุกลามบานปลายจนเป็นข่าวฮือฮาเกี่ยวกับแดนสนธยาในเรือนจำให้ปรากฏต่อสาธารณะครั้งแล้วครั้งเล่า
รวมความก็คือมีความเจ็บป่วย มีความเดือดร้อน มีความทุกข์ทรมานอันเกิดจากความเจ็บป่วยและการดูแลรักษาพยาบาลที่รุนแรงและสาหัสอยู่จริงๆ และไม่มีหนทางใดที่จะแก้ไขได้แล้ว รวมทั้งไม่มีใครที่ยอมคิดอ่านแก้ไขปัญหานี้ให้ลุล่วง
เป็นโชคดีของคนไทยที่พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรม ทรงมีน้ำพระทัยเมตตาแก่อาณาประชาราษฎรไม่เลือกหน้า แม้ผู้กระทำความผิดถึงขั้นติดคุกอยู่ในเรือนจำแล้ว น้ำพระทัยเมตตานั้นก็ยังแผ่ไปถึง จนเหนือคาดเหนือคิดของคนทั้งหลาย
พระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ย่อมทำให้การให้การพยาบาลดูแลรักษาผู้ป่วยเจ็บในเรือนจำทั่วประเทศได้บังเกิดประโยชน์สุขแก่ผู้ต้องขังและข้าราชการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ทั้งปวง และย่อมเป็นที่ชื่นอกชื่นใจของญาติผู้ต้องขังทั่วประเทศเป็นที่สุด
ตามข่าวยังปรากฏด้วยว่าทรงมีพระราชดำริที่จะให้หน่วยจิตอาสาพระราชทานได้ช่วยเหลือผู้ต้องขังทั้งหลายเพื่อให้สร่างคลายจากความทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยหรือในการดูแลฟื้นฟูความเจ็บป่วย ซึ่งจะทำให้เมื่อพ้นโทษออกไปแล้วก็จะกลายเป็นกำลังแผ่นดินที่จะเป็นประโยชน์แก่สังคมได้
โรงพยาบาลใหญ่ของประเทศไทยทั้งหมดเกิดขึ้นก็เพราะน้ำพระทัยเมตตาของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ แล้วมาบัดนี้การอุปถัมภ์ดูแลช่วยเหลือผู้ต้องขังเจ็บป่วยก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ด้วยแล้ว
เราทั้งหลายจงมาพร้อมเพรียงน้ำใจกันโดยเสด็จพระมหากษัตริย์ในการปฏิบัติภารกิจเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ตามพระปฐมบรมราชโองการจงทั่วกันเถิด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี