ใจคิดที่อิสระ มาจากความไม่อิสระ แต่ดิ้นรน แสวงหาความรู้ เข้าร่วมการต่อสู้ ด้วยสติปัญญาความจริง (จบ)
• กิจกรรมที่ได้ลงคิดลงแรง กายใจ ที่มีผลงานที่โดดเด่น มีความหมาย เป็นที่ยอมรับจากสังคม
• การเข้าร่วมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงระดับชาติ ปปร.2 (2539 - 2540)
เป็นหลักสูตรหลักของสถาบันพระปกเกล้า ที่ผู้คนสนใจกันมากที่สุดไม่มีค่าใช้จ่ายฯ แต่ต้องผ่านการสมัครคัดเลือก และเน้นความหลากหลาย “ปู่จิ๊บ” อาศัย สถานะ“ผู้บริหารของพรรคพลังธรรม” สมัคร และได้รับการคัดเลือกฯปปร.2 : ที่มีผู้นำครบทุกสาขา “ฝ่ายการเมือง ข้าราชการนักธุรกิจ นักวิชาการ สื่อ และภาคประชาชน” การทำงานวิจัยเพื่อนำเสนอก่อนจบการศึกษาฯ ทำให้เห็นความสำคัญของความรู้ที่มีคุณภาพ (ปู่จิ๊บ : ทำเรื่อง คุณสมบัติของผู้นำไทยในระดับชาติ นายกรัฐมนตรี) ความสามารถ คุณภาพ ของ “นักศึกษาร่วมหลักสูตร” ที่มีความจริงใจฯ ทำให้เราได้เพื่อนที่ดีและตัวเรา ได้เสนอความคิด ความรู้ ความรักปรารถนาดีต่อเพื่อนมิตร ทำให้เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายยังมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมของรุ่น (ประธาน-กรรมการฯที่ดี) และของสถาบันฯ อยู่หลายครั้ง จนถึงปัจจุบัน
• การสร้างสถาบันพัฒนาการเมือง สนับสนุนโดย ดร.ภูษณ ปรีย์มาโนช ที่ตึกช้างฯ ปี 2542-2549 เป็นการทำงานที่มีคุณค่าและความสำคัญในการพัฒนา“ความเป็นอิสระ” ในการทำงานใหญ่ต่อไปผ่านการทดสอบ จากการลงคิดแรงกายใจ ทุ่มเท สร้าง สถาบันเป็นที่ยอมรับจากการพัฒนาการเมือง ให้มีคุณค่าจากการทำงานเดียวมาเป็นมีทีมงานร่วม 10 คน แต่ “ปู่จิ๊บ” เป็นหลัก ในการคิดงานสำคัญที่มีคุณค่าฯผลงานออกมา มีความหมาย ในงานภาคประชาชน ที่เน้น คุณภาพ การสร้างพัฒนา “ผู้นำ ผู้ทำงาน”การเขียน จัดทำและออกหนังสือ และวารสารประจำเดือน ทั้งจัดกิจกรรมของภาคประชาชนฯ การจัดตั้ง สาขาฯ ที่ลำปาง และสกลนคร ที่มีผู้นำฯ ที่ขับเคลื่อนอย่างมีพลังฯ จัดอบรมที่สำคัญ เช่น Mind Map, งานรำลึกวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ประชาธิปไตย, เหล้าพื้นบ้านฯ ทำกิจกรรมทั้งบนตึกช้าง และการลงพื้นที่ไปสู่ภาคสนามที่เป็นจริง ไปปลุกไปสร้างสนับสนุนภาคประชาชนงานเด่น คือขับเคลื่อน“สภาเกษตรกรแห่งชาติ” ร่วมกับ อ.สมเกียรติ บำรุง วีรพล และผู้นำเกษตรกรทั่วไทยลงไปจัด การเสวนาและประชุมใหญ่ในทุกภาคและระดับประเทศ โดยเชิญ “คุณภู” เป็นประธานฯ เปิดหัวใจสำคัญหนึ่ง คือ น้ำใจ การสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งการงานและการเงินฯ ทำให้สามารถสะสมทุนได้ฯ ส่วนตนได้ประโยชน์ และคุณค่าสูง ทั้งการพัฒนา ความรู้ความสามารถ และการเงินส่วนตัว
• สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ ชุดแรก (2544-2548) นายกฯอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน เป็นชุดที่ดีมาก เพราะมีระบบการคัดเลือกระดับชาติที่ดีจากองค์กรต่างๆ ทั่วประเทศ และการได้ประธาน และสมาชิก (รวม 99 คน) ที่ดี มีคุณภาพสูง (โดยเฉลี่ย)
ปู่จิ๊บ : ให้ความสนใจไปสมัคร ได้ผ่านการคัดเลือกกันเอง ในสาขาภาคสังคม จากเกือบร้อย เอา 2 คน ได้คิด-ปฏิบัติตน
เป็นแบบอย่าง ด้วยการเอาจริง เข้าร่วมประชุม เสนอความคิดสร้างสรรค์ ตลอดเวลา 4 ปี ได้อะไรไม่น้อย ต่อตนเอง เช่นเดียวกับ การทำให้กับองค์กรฯ (เป็นความภาคภูมิใจในองค์กรและตนเอง) การได้แนวคิด และหลักการปฏิบัติของผู้นำที่ดี ในการคิด การประชุม การจัดการและการแสดงออกต่างๆ ทั้งในห้องประชุม งานสังสรรค์ และการสนทนาส่วนตัวในกลุ่มเล็กๆ กับ ท่านอานันท์ ปันยารชุน การได้มีโอกาสดี ลงพื้นที่ ชมโครงการพระราชดำริอย่างลึกกับท่านอานันท์ โดย เลขาฯ สุเมธ ตันติเวชกุล
• การเข้าร่วมบริหารจัดการ ในฐานะเลขาธิการ สกพ. (ระดับชาติ) และนานาชาติ ปี 2547-2551
ได้รับเชิญมาร่วมแก้วิกฤติ-สร้าง “องค์กรเกษตรกรเพื่อการพัฒนา” จากคุณแป๋ว-อ.ผสม เพชรจำรัส เป็นองค์กรเกษตรกรระดับชาติ โดยเกษตรกรที่มีระบบบริหาร ระดับจังหวัด ภาค และประเทศ มีการสนับสนุนจากหน่วยงานของก.เกษตรฯ และมูลนิธิ Agriterra องค์กรเกษตรกร ZLTO เนเธอร์แลนด์ หลักการที่ดี คือ การมีกรรมการบริหารและประธานฯ เป็นเกษตรกร หรือ ผู้มีอาชีพเกษตรกร และมีเลขาธิการ ผู้จัดการฯ และเจ้าหน้าที่ เป็นผู้บริหารงาน ภายใต้มติของกรรมการบริหารฯขององค์กรการบริหารงานที่จะไปได้ดี มีประสิทธิภาพได้ประสิทธิผล ต้องเป็นความร่วมมือของ ประธาน และเลขาธิการฯ ฉะนั้นงานจึงพัฒนาก้าวหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง จากการทำงานหนักเอาจริง เกือบ 7 วัน ในสัปดาห์ ต้องร่วมประชุมกับกรรมการบริหารในทุกเดือน และประสานกับประธาน และที่ปรึกษาฯ ตลอดเวลาต้องลงพื้นที่ ไปร่วมประชุมกับ กรรมการกลางและสมาชิกในภาคต่างๆ ทั้ง 10 ภาค การไปประชุมต่างประเทศ ขององค์กรเกษตรกรเอเชีย (AFFA) Thai-drra ตามประเทศต่างๆ ในเอเชียการนำประธานและกรรมการฯ ไปดูงานและร่วมประชุมกับองค์กรเกษตรกร ZLTO ที่เนเธอร์แลนด์ การประสานกับหน่วยงานของรัฐ ในเรื่องทุน และการสนับสนุนโครงการของสกพ.ทั่วประเทศ ได้เสียสละ ลดเงินเดือนในฐานะเลขาธิการฯ โดยเอาเงินส่วนนี้ สะสมสร้างความมั่งคั่งให้กับองค์กรฯ รวมทั้งได้มีการพัฒนาความรู้และส่งเสริมบทบาทของพนักงานฯ โดยให้ไปร่วมประชุมต่างประเทศ แทนเลขาฯ เป็นการทุ่มเท ความรู้ สติปัญญา อย่างหนักแต่ก็ภูมิใจ ที่ได้มีส่วนร่วมพัฒนา สกพ. ให้เติบใหญ่และเข้มแข็งแต่น่าเสียดาย ที่กรรมการบางส่วน ที่ใช้ความขัดแย้งทางการเมือง สร้างปัญหาและความขัดแย้งในองค์กร เมื่อตัวเลขาธิการฯ ลาออก, เลขาธิการคนใหม่ ขาดความเข้าใจ
และยอมรับบทบาทเกษตรกร ทำให้เสื่อมลง
• เกษียณตัวเอง วัยใกล้ 60 และใช้เวลาทั้งหมด และความรู้ประสบการณ์ สติปัญญาให้กับบ้านเมือง
-การเข้าร่วมกับภาคประชาชน ต่อต้านระบอบทุนสามานย์ทักฯตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนมาเป็น พธม. และการเข้าร่วมการชุมนุมการออกทีวีหลายช่อง และการไฮด์ปาร์คบนเวทีอย่างต่อเนื่องฯ
-ติดตามการเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลของ กลุ่มนปช.โดยทักฯและพรรคเขา ตั้งแต่ ปี 2552-2553
เริ่มจากการเคลื่อนไหวล้มการประชุมอาเซียน + 6 ที่พัทยาการชุมนุมใน กทม. และดินแดง ปี 2552 การชุมนุมปิดเมืองกรุงเทพฯ ที่ราชดำเนิน ถนนข้าวสาร และยึดราชประสงค์ ศูนย์กลางเศรษฐกิจประเทศ การใช้กองกำลังชุดดำติดอาวุธ สังหารพลเอกร่มเกล้า นายทหารและพลทหาร จากการร่วมมือของทหารแตงโมการตั้งบังเกอร์รั้วลวดหนามปิดราชประสงค์ การก่อการคุกคาม นายกฯ อภิสิทธิ์ และประชาชน รวมทั้งการยิงอาวุธร้ายแรง และ M 79 ใส่ประชาชน และอาคารสถานีราชการ รวมทั้งวัดพระแก้ว เมื่อถูกล้อมปราบ การกระชับพื้นที่โดยกองทัพ รวมทั้งความขัดแย้งภายในแกนนำ ทำให้ต้องประกาศยอมแพ้ แต่ได้มีการเผาเมืองทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด จากประกาศเรียกร้องให้แกนนำแดงเผาเมืองฯ
องค์การพิทักษ์สยาม โดยการรวมตัวกันของภาคประชาชนต่างๆ ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ปี 2555
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี