ท่านผู้อ่านคงไม่ว่าผมที่จะพูดถึงนักเรียนเก่าของโรงเรียนเราคือ พลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ อดีตองคมนตรีในรัชกาลที่ 9 ซึ่งได้ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศมาอย่างต่อเนื่องกว่า 50 ปี จากเราไปอีกคน ในขณะที่สังคมปัจจุบันกำลังฝักใฝ่ด้านเทคโนโลยี บ้าอำนาจเงินเป็นใหญ่ หากได้ทราบถึงประวัติศาสตร์และตัวอย่างคนดีๆ บ้างอาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย
พล.อ.อ.กำธน มีประวัติที่น่าชื่นชมมากมาย ที่ผมจะขอยกย่อง จะเป็นส่วนหนึ่งใน 2-3 เรื่อง ที่ผมรับทราบ มีดังต่อไปนี้
ประเด็นที่ 1 การรับใช้รัชกาลที่ 9 ในฐานะที่ท่านเป็นองคมนตรีอยู่ประมาณ 30 ปี ได้ทำงานถวายพระองค์ท่านอย่างเป็นเลิศ ไม่ว่าจะช่วยดูแล ริเริ่มจัดตั้งสวนหลวง ร.9ซึ่งเป็นสวนที่มีคุณค่าต่อคนในกรุงเทพฯ มีความสวยงามในด้านดอกไม้ในช่วงหน้าหนาวแล้ว เป็นที่ใช้ออกกำลังกายและเล่นกีฬาของคนมากมาย เป็นแสนๆ คนไปออกกำลังกายถ้าเป็นช่วงงานพรรณไม้งามอร่ามสวนหลวง ร.9 ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม ก็มีคนเข้าชมบางวันถึง 1 ล้านคน โดยเก็บค่าเช่าแค่ 10 บาทต่อเนื่องกว่า 30 ปี
ช่วยทำให้สวนหลวง ร.9 กลายเป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนไทยไปแล้ว ทั้งเป็นแหล่งความรู้ เช่น สวนสมุนไพร หรือสวนพฤกษศาสตร์ และถึงท่านจากไปแล้ว สวนหลวง ร.9 ก็ยังอยู่กับเราไปอีกนาน
ผู้อ่านวันนี้ ถ้ายังไม่เคยแวะไปก็ควรจะแวะไปดู หรือพาลูกหลานไปเรียนรู้หลายๆ อย่างที่มีอยู่เพื่อช่วยภาวะโลกร้อน การบริหารความยั่งยืนและเข้าใจว่าธรรมชาติในเมืองหลวงเป็นอย่างไร
ประเด็นที่ 2 ท่านเป็นวิศวกร ได้ทำหน้าที่สำคัญคือช่วงที่ท่านเป็นผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยอยู่ระยะหนึ่ง โดยเป็นผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต่อจากท่านเกษม จาติกวณิช คนแรก ช่วงนั้นมีการลงทุนจากต่างประเทศมากมาย รัฐบาลก็ขอให้ กฟผ.จัดหาพลังงานในราคาย่อมเยาและมั่นคง เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนต่างประเทศ ในขณะที่คู่แข่งอย่างฟิลิปปินส์ หรือเวียดนาม การลงทุนไฟฟ้าไม่พอและไม่เสถียร ทำให้ช่วงนั้นเศรษฐกิจไทยขยายตัวสูงขึ้นในอาเซียน
ยิ่งไปกว่านั้น ท่านยังเป็นตัวอย่างของผู้นำที่เปี่ยมไปด้วยธรรมาภิบาลใน กฟผ. เมื่อเข้าไปทำงานที่นี่ ยังให้ทราบตลอดว่าคนใน กฟผ. ยังคิดถึง และเคารพท่านเสมอ
ประเด็นสุดท้ายคือเรื่องโรงเรียนเทพศิรินทร์ มีหลายเรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟัง ท่านบอกว่า ท่านเป็นนายกสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพราะคุณพ่อผมนายสุนทร หงส์ลดารมภ์ ซึ่งเคยเป็นนายกสมาคม ได้ชักชวนท่านกำธนเข้ามา ผมมาเป็นนายกสมาคม รุ่นหลังท่านมาก แต่ก็ได้ทำงานใกล้ชิดตลอดเวลา มีหลายเรื่องที่ผมได้รับการปลูกฝังจากท่าน ช่วงนั้นเทพศิรินทร์มี 10 โรงเรียนแล้ว คือ 9 โรงเรียน ในเครือโรงเรียนเทพศิรินทร์ ท่านมีจุดยืนอยู่เสมอว่า เทพศิรินทร์มี 1 เดียว คืออย่าแบ่งแยกว่าเทพศิรินทร์ใหญ่ เทพศิรินทร์เล็ก
อนึ่งผมขอเล่าให้ฟังถึงความดีของท่านกำธนอีกเรื่องหนึ่งคือ งานที่ท่านองคมนตรีกำธนได้ทำให้กับเทพศิรินทร์ในฐานะที่ท่านเป็นองคมนตรีในยุคนั้นได้รับฎีกาจากสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ฯ ซึ่งเผอิญผมได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฯอยู่เมื่อประมาณ 15-16 ปีที่แล้ว
จากที่ดินที่รัชกาลที่ 8 พระราชทานให้เป็นที่ของสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ฯ ในช่วงนั้นคณะกรรมการรุ่นเก่าคิดไปทำโครงการ เชิญภาคเอกชนเข้ามาทำธุรกิจให้เช่าที่ไปโดยสมาคมได้ค่าเช่า และมีค่าสถานที่ของสมาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหากับฟองสบู่ ในสมัยต้มยำกุ้ง นักธุรกิจที่ได้รับสัมปทานไปหลายรายทำไม่สำเร็จ ทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงทำจดหมายถึงสมาคมว่าขอให้สมาคมไม่ต้องมีสิทธิใช้ที่ต่อไป ซึ่งมีผลกระทบต่อความรู้สึกของนักเรียนเก่าอย่างมาก หลังจากได้ปรึกษาหารือกันแล้ว ผมในฐานะนายกสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ฯในยุคนั้น ได้ทำฎีกาถึงรัชกาลที่ 9 โดยมีองคมนตรีกำธนเป็นผู้ประสานงาน กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อให้สมาคมได้รับสิทธิในการนำที่ดินกลับมาเป็นของสมาคมเหมือนเดิม ซึ่งต่อมาสมาคมได้เจรจากับผู้ลงทุนรายใหม่ ปัจจุบันประสบความสำเร็จเรียบร้อยแล้วเป็นตึกที่สวยงามชื่อ แมกโนเลียส์ สมาคมมีรายได้จากผู้รับเหมามอบให้ 3,000 ตารางเมตร ในระยะเวลา 30 ปี ซึ่ง 700 ตารางเมตร เป็นสถานที่ของสมาคมในปัจจุบัน ส่วน 2,300 ตารางเมตร สำนักงานทรัพย์สินฯ อนุญาตให้มีรายได้จากค่าเช่าได้ ซึ่งผลงานดังกล่าวเป็นงานที่มีคุณค่าต่อสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ฯ อย่างหาที่สุดไม่ได้ เพราะมีสถานที่มีเกียรติและมีรายได้เป็นค่าเช่าทำให้เป็นที่พบปะกันตั้งแต่รุ่นอดีตถึงปัจจุบัน จึงขอจารึกไว้ถึงท่านกำธน มา ณ โอกาสนี้
ผมดีใจ เพราะการมีโรงเรียนเทพศิรินทร์ 10 โรงเรียน เรียกว่า เทพศิรินทร์เป็นหนึ่งในความภูมิใจของผม สำคัญที่สุดคือ ท่านนายกคนปัจจุบัน คุณสำเร็จ โชติมงคล และทีมงานของท่านได้นำนโยบายเทพศิรินทร์เป็นหนึ่งมาทำต่อหวังจะพึ่งกระทรวงศึกษาธิการอย่างเดียวคงไม่พอ งานที่สมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ฯ จัดมีโครงการดีๆ ให้โรงเรียนเทพศิรินทร์ทั้ง 10 แห่ง ผ่านนายกสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ฯคนปัจจุบันคือ คุณสำเร็จ โชติมงคล มอบให้เลขาธิการคุณวิศว ศะศิสมิต อุปนายกสมาคม คุณพงศธร สัจจชลพันธ์และผู้อำนวยการโรงเรียน อาจารย์สุพจน์ หล้าธรรม มีบทบาทช่วยเทพศิรินทร์เป็นหนึ่งอย่างเข้มแข็งมาก แสดงว่าเทพศิรินทร์เราเป็นปึกแผ่นเดียวกัน อีกไม่ถึงสัปดาห์ เราจะจัด KnowledgeCamping ครั้งที่ 16 ผมขอบคุณกรรมการชุดปัจจุบันที่กรุณานำเรื่องเทพศิรินทร์เป็นหนึ่ง มาเป็นนโยบายที่สำคัญ
ผมภูมิใจทั้งท่านกำธน สินธวานนท์ และท่านผู้หญิงพึงใจสินธวานนท์ อ่านบทความของผมในแนวหน้าทุกสัปดาห์ติดต่อกันมา 20 ปี ทุกครั้งที่ท่านพบผม ท่านจะบอกเสมอว่าติดตามอยู่ ซึ่งท่านผู้หญิงเองก็ได้พูดกับผมในงานที่สมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ฯ เป็นเจ้าภาพงานสวดอภิธรรมเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 เช่นกัน ว่าท่านก็อ่าน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่แนวหน้าน่าจะภูมิใจ
ในฐานะนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ขอเป็นตัวแทนในบทความนี้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวท่าน แต่นี่แหละครับโรงเรียนเทพศิรินทร์ สอนเยาวชน ให้มีศีลธรรม สอนความรักประเทศ สอนประวัติศาสตร์ รากเหง้าของเรา
นสิยา โลก วฑฺฒโน สอนให้เราไม่เป็นคนรกโลก ครับ
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี