“สื่อรกแกะ” – อาจใช้เรียกแทนสื่อที่พยายามจะบิดเบือนข่าวสาร กรณีนายกฯลุงตู่พูดถึง “ครีมรกแกะ” ผลิตภัณฑ์ของนิวซีแลนด์ต่อหน้านายกฯ นิวซีแลนด์ โดยพยายาม “แซะ” นายกรัฐมนตรีของประเทศตัวเอง เพื่อเอาใจคอการเมืองบางกลุ่มที่รอจะนำไปแชร์ต่อ ขยายผลต่อ ในการดิสเครดิตรัฐบาล โดยไม่สนใจที่มาที่ไปและข้อเท็จจริง
กรณีนี้ น่าชื่นชมที่มีนักวิชาการในแวดวงที่ติดตามมอนิเตอร์สื่อสารมวลชนสมัยใหม่ ได้ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นไว้อย่างชัดเจน ดังนี้
1. ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดี คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นำเสนอให้เฟซบุ๊ค Warat Karuchit ระบุว่า
“ข่าวออนไลน์ของ Workpoint เอาอีกแล้ว
เห็นได้ชัดว่าพยายามหาโอกาสแซะรัฐบาลตลอดเวลา เรื่องเล็กเรื่องน้อยก็เอามาเป็นเป้าให้แฟนๆเข้ามาด่าแบบไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย
ล่าสุด ลงพาดหัวว่า จาซินด้า อาร์เดิร์น นายกฯนิวซีแลนด์ “อดขำไม่ได้”ที่ลุงตู่บอกว่าครีมรกแกะเป็นของขึ้นชื่อของนิวซีแลนด์ โดยเลือกภาพที่ลุงตู่คุยกับอาร์เดิร์นแล้วอาร์เดิร์นเหมือนจะหัวเราะออกมา ทำให้เข้าใจได้ว่า พอลุงตู่พูด อาร์เดิร์นก็อดขำไม่ได้ ต้องหลุดหัวเราะออกมา เป็นเชิงดูถูก
แต่จริงๆ เรื่องนี้มาจากสื่อนิวซีแลนด์ ที่ใช้คำว่า surprised เป็นพาดหัวหลัก
โดยอธิบายว่า พอลุงตู่พูดจบ นักข่าวก็ถูกเชิญออกไปจากห้อง เพื่อให้สองประเทศได้พูดคุยกัน แต่พอกลับมาใหม่ นักข่าวก็มาถามถึงเรื่องครีมรกแกะซึ่งตอนนั้นนักข่าวบรรยายว่า “surprised and amused” ซึ่งไม่ได้แปลว่า อดขำไม่ได้ หรือหลุดหัวเราะออกมาต่อหน้าลุงตู่ เพราะเป็นการพูดกับนักข่าว และเป็นการเล่นมุข หยอกล้อกันระหว่างอาร์เดิร์นกับ รมต.เกษตร ว่าใครหน้าอ่อนหน้าแก่
และที่ด่าๆกัน สุดท้ายกลายเป็น อาร์เดิร์น กับ รมต.เกษตร ที่ไม่รู้จักสินค้าของประเทศตัวเองที่มีชื่อเสียงจริงๆ มีขายมานานแล้ว ดาราฮอลลีวู้ดก็ใช้คนไทยก็ซื้อกลับมาฝากกันตั้งนานแล้ว
แบบนี้ ใครที่สมควรถูกตำหนิ ลุงตู่ หรือ นายกฯและรมต.ที่ไม่รู้จักสินค้าประเทศตัวเอง
หรือสื่อที่ลงข่าวแบบเจตนาเสียดสี?”
2. คุณอัษฎางค์ ยมนาค ได้เรียงเรียบข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างละเอียดลออ ชัดเจน
ว่าด้วยเรื่อง “นายกฯนิวซีแลนด์ หรือ นายกฯไทย ใครกันแน่ที่ควรจะงง”
ขอสรุปเป็นประเด็นๆ ดังนี้
2.1 นายกฯไทย ปล่อยไก่ เรื่องครีมรกแกะ หรือนายกฯนิวซีแลนด์เองที่ไม่รู้เรื่องครีมรกแกะของชาติตัวเอง จน RNZ สื่อกีวีต้องทำข่าว โดยที่ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตครีมรกแกะกล่าวว่า “ฉันก็แปลกใจมากที่ท่านนายกฯ (กีวี)ไม่รู้และถือโอกาสให้ข้อมูลว่า เรา(นิวซีแลนด์)ผลิตรกแกะที่ดีที่สุดในโลก ทั้งคลีนและกรีน เป็นทางเลือกธรรมชาติสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้จากแกะ”
แต่สื่อไทยบางแห่งไม่อ่านข่าวให้ดี หรือไม่ก็อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก เลยเอาลิงค์ของ RNZ แนบข่าวมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับข่าวที่ตัวเองพาดหัวประมาณว่า ว่า... “สื่อกีวีลงข่าวนายกฯกีวีขำ นายกฯไทยถามเรื่องรกแกะทำไม”
คุณอัษฎางค์ ยมนาค บอกว่า อ่านบทความนี้จบแล้ว สื่อไทยและสื่อออนไลน์ควรจะเปลี่ยนเนื้อข่าวใหม่ ว่านายกฯไทยเตรียมตัวมาดีมาก แถมวิสัยทัศน์กว้างไกลกว่าที่คิด ขนาดนายกฯนิวซีแลนด์ยังไม่รู้ตัวว่า สินค้าตัวเองโด่งดังยอดนิยมในประเทศเพื่อนบ้าน
2.2 คุณอัษฎางค์ ยมนาค ตั้งข้อสังเกตว่า สื่อไทยและคุณคนไทยในกะลาตัวจริงถล่มลุงตู่กันสนุกปาก เรื่องครีมรกแกะ แต่ไม่เคยรู้ว่านอกกะลาหน้าตาเป็นยังไง
ยกตัวอย่างเช่น คนไทยและคนเอเชีย นิยมการมีผิวขาว มีผิวนวลสวย จึงทำให้ครีมบำรุงผิวประเภทต่างๆ ขายดิบขายดี ในขณะที่ฝรั่งซึ่งเกิดมาผิวขาวอยู่แล้ว ชอบไปนอนตากแดด เพื่อให้ผิวไม่ขาว อยากให้ผิวขาวๆ กลายเป็นผิวสีคล้ำ ผิดสีแทน เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไปคุยกับฝรั่งเรื่องครีมบำรุงผิว เค้าจะงง เพราะเค้าไม่รู้จัก ถึงแม้ว่าประเทศของเค้าจะผลิตออกมาและขายดี มีชื่อเสียงระดับนานาชาติก็ตาม
“ถ้าคุณอยู่ที่ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แล้วคุณไปถามหาสถานเสริมความงาม คุณจะต้องเดินหาจนขาลาก เพราะหายาก แล้วถ้าคุณไปถามหาครีมบำรุงผิว ครีมทำให้ผิวขาว ฝรั่งจะงง เหมือนที่นายกนิวซีแลนด์ งง เมื่อลุงตู่ถามถึงครีมบำรุงผิว”
2.3 คุณอัษฎางค์ ยมนาค ตีแสกหน้าสื่อไทยบางกลุ่มตรงๆว่า รายงานไปในทางเดียวกัน ซึ่งเข้าทางกองทัพในโลกโซเชียลที่เกลียดลุงตู่ แล้วก็พากันเยาะเย้ยลุงตู่ประมาณว่า ปล่อยไก่ และไร้สมอง ไร้ความสามารถ
โดยรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวถึงครีมรกแกะของนิวซีแลนด์ว่า “ผมอยากทำงานร่วมกับนิวซีแลนด์ในเรื่องของเกษตรกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าทางการเกษตร ถึงความล้ำหน้าในเรื่องของเทคโนโลยีทางด้านอาหาร” ก่อนที่นายกฯ ไทยจะพูดถึงสามสินค้าชื่อดังของนิวซีแลนด์ได้แก่ กีวี นมวัว และ ครีมรกแกะ
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากได้ยินแล้ว อาร์เดิร์น และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ นิวซีแลนด์ก็อดประหลาดใจและขำไปกับสิ่งที่ได้ยินไม่ได้ แล้วทั้งสื่อหลักของไทยและกองทัพโลกโซเชียล ก็แนบลิงค์ที่เว็บไซต์ข่าว RNZ เอาไปออกข่าว เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับข่าวลุงตู่หน้าแตก
แต่... แต่ไม่มีใครอ่านข่าวใน RNZ หรือไม่ก็อ่านภาษาอังกฤษไม่ออกซึ่งข่าวที่เผยแพร่อยู่ใน RNZ ไม่ได้ยำใหญ่ลุงตู่ แต่... RNZ สื่อนิวซีแลนด์ ลงข่าวไขความงง นายกฯสาวของประเทศตัวเองที่ไม่เข้าใจบิ๊กตู่ ชื่นชม“รกแกะ”
สื่อนิวซีแลนด์รายงานและอธิบายว่ารกแกะคืออะไร และทำไมนายกฯ สาวถึงไม่รู้จัก
ข่าวใน RNZ เขียนว่าอะไร…
เว็บไซต์ข่าว RNZ และเว็บไซต์ Stuff รายงานอธิบายความว่า รกแกะที่นายกฯ ไทยเอ่ยถึงคือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชะลอวัย พร้อมไปสัมภาษณ์นางแองเจลา เพย์น ผู้ก่อตั้งบริษัท Agri-Lab Co-Products ผู้ผลิตครีมและแป้งรกแกะ ปีละ 100 ตัน ส่งให้บริษัทเครื่องสำอางทั้งในสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ ปีก่อนทำเงินถึง 2.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 75 ล้านบาท “ฉันก็แปลกใจมากที่ท่านนายกฯ (กีวี)ไม่รู้และถือโอกาสให้ข้อมูลว่า เรา(นิวซีแลนด์)ผลิตรกแกะที่ดีที่สุดในโลก ทั้งคลีนและกรีน เป็นทางเลือกธรรมชาติสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้จากแกะ” เพย์นกล่าว
“ถึงผลิตภัณฑ์จากรกแกะจะไม่ใช่สินค้าที่รู้จักโดยทั่วไปสำหรับกลุ่มชนชั้นกลางและผิวขาวของนิวซีแลนด์ แต่ก็เป็นที่รู้จักในหลายๆ ประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวมีอายุจากเอเชียที่ชื่นชมผลิตภัณฑ์ต้านริ้วรอย” เจ้าของบริษัทผลิตครีมรกแกะกล่าวและว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเชิญนายกฯ อาร์เดิร์นและรัฐมนตรีโอคอนเนอร์ มาเยี่ยมเยือนห้องแล็บผลิตรกแกะของบริษัทตนที่เมืองฮอว์กเบย์
3. เรื่องข่าวแซะ ประเด็นนายกฯ ลุงตู่ กับ “ครีมรกแกะ” สอนให้รู้ว่า
หนึ่ง สื่อแซะมีอยู่จริง แซะได้โดยไม่รู้สึกละอาย และไม่ต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริง ต้องระวัง
สอง สื่อออนไลน์มีทั้งด้านที่มืดบอด และด้านที่ให้ความรู้ความเข้าใจ
คนใช้ต้องพยายามเสาะแสวงหาข้อมูลให้รอบด้าน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี