มีคำถามว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กำลังเผชิญกับวิกฤติ ใช่หรือไม่
หากคุณตอบว่า ไม่ใช่ เพราะการบินไทยกำลังอยู่ในสภาวะรุ่งเรือง ทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาใดๆ ภายในองค์กร แล้วที่สำคัญคือการบินไทยสามารถทำผลกำไรได้อย่างน่าพอใจ และธุรกิจของบริษัทกำลังเติบโต พร้อมจะขยายกิจการให้ก้าวไกลต่อไป คุณก็ไม่จำเป็นต้องอ่านบทความนี้ต่อไป
แต่ถ้าหากคุณตอบว่า บริษัท การบินไทยกำลังตกต่ำ ย่ำแย่ ถดถอย บุคลากรของการบินไทยจำนวนไม่น้อยกำลังตกอยู่ในสภาพหมดกำลังใจทำงาน เพราะไร้แรงจูงใจ และไร้ต้นแบบ (role model) และอาจจะต้องประสบสภาวะล้มละลายได้ในเร็วๆ นี้ ถ้าหากการบินไทยไม่สามารถแก้ปัญหาที่หมักหมมอยู่ภายในได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็วและเหมาะสม คุณควรจะต้องอ่านบทความนี้ต่อไป แล้วควรจะต้องช่วยกันตอบว่า ทำอย่างไรการบินไทยจึงจะสามารถผ่านพ้นวิกฤติได้อย่างรวดเร็ว
การบินไทยประสบกับวิกฤติอย่างแสนสาหัสเพราะอะไร ใครคือตัวต้นเหตุสำคัญ ต้นเหตุมาจากคนภายในองค์กร หรือคนนอกองค์กร หรือจากทั้งสองกลุ่ม คำถามเหล่านี้คนที่ต้องตอบคำถามได้ดีที่สุดคือคนของการบินไทยทุกคน แต่ถ้าหากคนการบินไทยยังไม่สามารถตอบคำถามนี้ให้กระจ่างได้ ก็ตอบขอบอกแบบสุภาพว่า ลาออกไปเถอะครับ อย่าอยู่ต่อไปอีกเลย เพราะเปล่าประโยชน์ ขนาดเรื่องที่เป็นปัญหาภายในองค์กรของตัวเอง ยังไม่มีปัญญาตอบ แล้วจะอยู่ต่อไปเพื่ออะไร
แต่มีคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบต่อวิกฤติของการบินไทยมากเป็นพิเศษ คือ ผู้บริหารระดับสูงของการบินไทยถามว่าทำไมจึงพูดเช่นนี้ ก็ต้องขอถามกลับว่า แล้วถ้าหากผู้บริหารของการบินไทยไม่รับผิดชอบต่อความเป็นความตายของบริษัท แล้วจะต้องมีผู้บริหารไปเพื่ออะไร โปรดตอบให้ชัดเจนด้วยว่า ต้องมีผู้บริหารไปเพื่ออะไร
มีคำถามต่อไปอีกว่า ผู้บริหารการบินไทยเคยสำเหนียกบ้างไหมว่า องค์กรที่คุณบริหารอยู่นั้นกำลังประสบวิกฤติ แล้วคุณเคยคิดบ้างหรือไม่ว่า เมื่อคุณเป็นผู้บริหารองค์กร แต่คุณไม่สามารถแก้ไขวิกฤติให้องค์กรได้ คุณสมควรต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไร เรื่องแบบนี้เป็นสามัญสำนึกที่คนปกติทั่วไปย่อมต้องรู้ตัวเองเป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องให้ใครบอกหรือบังคับให้ต้องกระทำ
เมื่ออ้างตามทฤษฎีการบริหารองค์กรในสภาวะวิกฤติจะพบว่า เมื่อองค์กรเกิดวิกฤติ ผู้บริหารองค์กรต้องแก้ปัญหาให้ลุล่วงโดยเร่งด่วน ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่ทำให้องค์กรเกิดปัญหาหนักมากไปกว่าเดิม การบริหารงานโดยมืออาชีพที่แท้จริงมืออาชีพสามารถนำพาองค์กรให้หลุดพ้นจากวิกฤติได้ หากผู้บริหารมีประสิทธิภาพ มีระบบการควบคุมจัดการ และบริหารงานเหมาะสมสอดคล้องกับสภาวการณ์ โดยเฉพาะการมีกลยุทธ์บริหารงานในช่วงวิกฤติ ผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพต้องป้องกันการเกิดวิกฤติได้แต่เมื่อเกิดวิกฤติขึ้นแล้ว ก็ต้องแก้ไขวิกฤติได้โดยเร็ว ต้องควบคุมวิกฤติไม่ให้ขยายวงกว้างออกไป เพื่อป้องกันมิให้บริษัทได้รับความเสียหายจนเกินเยียวยา และที่สำคัญคือผู้นำองค์กรต้องเป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของสมาชิกในองค์กร รวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจขององค์กรทุกระดับทั้งในและนอกประเทศ ผู้นำองค์กรที่มีประสิทธิภาพต้องมีแผนการเพื่อรองรับสภาวะวิกฤติ และต้องมีแผนสำรองเพื่อให้บริษัทดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยแผนการเหล่านั้นต้องสามารถปฏิบัติใช้ได้จริง ไม่ใช่แผนเพ้อเจ้อเพ้อฝัน หรือเฝ้ารอปาฏิหาริย์ ยังมีเรื่องสำคัญมากอีกข้อหนึ่งคือ ผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพต้องสื่อสารกับคนในองค์กรและกับคนภายนอกองค์กรได้เป็นอย่างดีต้องทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าผู้บริหารต้องการบอกเล่าอะไร โดยต้องให้ข้อมูลที่เป็นความจริง ไม่สร้างเรื่องหลอกลวงขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองกลายเป็นข่าวไปวันๆ แต่ทว่าผลสุดท้าย ก็ต้องกลับมาแก้ปัญหาในเรื่องตนเองเป็นผู้พูด ส่วนเรื่องภาพลักษณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญ ผู้บริหารต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือ แต่ต้องเป็นภาพลักษณ์จริง มิใช่ภาพลวงตา
กลับไปที่ประเด็นผู้บริหารของบริษัท การบินไทย มีคำถามว่าผู้บริหารของการบินไทยมีคุณลักษณะตามทฤษฎีการบริหารดังที่กล่าวในข้างต้นบ้างหรือไม่ ขอย้ำว่า คำถามนี้เหมาะสำหรับคนการบินไทยโดยเฉพาะ
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหูในการบินไทยว่า ผู้บริหารบางรายที่กินเงินเดือน เดือนละ 7 แสนบาท ไม่มีประสิทธิภาพการทำงานเมื่อเทียบกับเงินเดือนที่ได้รับ (คนการบินไทยหลายคนบอกว่า ผู้บริหารรายนั้นรับเงินเดือนมากเกินสมรรถนะการทำงาน) คนการบินไทยตั้งคำถามว่า เหตุใดผู้บริหารระดับสูงในการบินไทยจึงมอบหมายให้ผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายอย่างแท้จริง เข้าไปดูแลงานด้านกฎหมายขององค์กร (เรื่องนี้ผู้บริหารการบินไทยจำเป็นต้องตอบคำถามกับประชาคมการบินไทยโดยด่วน)
ประเด็นต่อมาที่คนการบินไทยตั้งคำถามเป็นประจำคือ การบินไทยใช้การสั่งงานด้วยคำพูด ไม่ใช่การสั่งงานด้วยลายลักษณ์อักษรหรือ คำถามนี้เกิดมาจากพฤติกรรมการสั่งงานโดยผู้บริหารการบินไทยบางราย มีคำยืนยันว่าผู้บริหารรายนั้นไม่ได้ยึดหลักการสั่งการด้วยลายลักษณ์อักษร และยังมีคำยืนยันอย่างหนักแน่นว่าผู้บริหารการบินไทยรายหนึ่งชอบใช้วิธีสั่งการด้วยวาจา โดยไม่ยอมทำคำสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งเรื่องนี้คนการบินไทยวิจารณ์ว่า ผู้บริหารรายนั้นติดนิสัยเสียเช่นนี้มาจากนักการเมืองและมีคำวิจารณ์ด้วยว่า เหตุที่ไม่กล้าสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร เนื่องจากกลัวว่าจะมีหลักฐานมัดตัว เพราะว่าคำสั่งเหล่านั้นไม่ชอบด้วยหลักการบริหารตามหลักธรรมาภิบาล และหลักคุณธรรม
เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา จึงทำให้สาธารณชนที่ทราบเรื่องตั้งคำถามว่า การบินไทยดำเนินกิจการมามากกว่าครึ่งศตวรรษ แต่ยังใช้การสั่งการด้วยวาจาอยู่อีกหรือ หรือว่านี่คือสไตล์การสั่งงานของผู้บริหารการบินไทยในยุค 4.0
อย่างไรก็ตาม การสั่งงานด้วยวาจาอาจจะดูสอดประสานและเข้ากันได้ดีกับนโยบายประหยัดกระดาษ เพื่อลดปัญหาสภาวะเรือนกระจก ลดปัญหาโลกร้อน แต่ปัญหาใหญ่ที่ตามมาคือ เมื่อผู้บริหารสั่งการด้วยวาจาไปแล้ว ผู้ออกคำสั่งยึดมั่นในคำสั่งอย่างเคร่งครัดจริงหรือ แล้วผู้สั่งการมีปัญญาจดจำได้หมดหรือว่าตนเองสั่งอะไรไปบ้าง แต่สิ่งที่คนทำงานวิจารณ์อย่างหนักคือ เมื่อผู้บริหารสั่งไปแล้ว กลับบอกว่าไม่ได้พูดเช่นนั้น ไม่เคยบอกเช่นนั้น และหลายครั้งก็อ้างเพื่อเอาตัวรอดว่า ไม่ได้สั่งให้แก้ แต่บอกให้ไปทบทวน
ไม่น่าเชื่อว่า เรื่องตลกแต่หัวเราะไม่ออกเช่นนี้จะเกิดขึ้นในบริษัท การบินไทย แต่คนการบินไทยหลายคนยืนยันตรงกันว่า มันเกิดขึ้นแล้ว และยังคงเกิดขึ้นอยู่ในยุคนี้ และจะเกิดไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ยังมีผู้บริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพอยู่ในตำแหน่ง
ช่างน่าสมเพชคนการบินไทยเสียเหลือเกิน เพราะการที่ต้องทำงานกับคนที่สั่งการด้วยวาจา โดยไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นเครื่องยืนยัน เท่ากับว่าคนทำงานก็ต้องเสี่ยงกับความผิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกวินาที แล้วเมื่อเกิดความผิดใดๆ ขึ้นมา จะถามหาความรับผิดชอบจากผู้บริหารที่สั่งการด้วยวาจาได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารที่ชอบอ้างว่า ไม่ได้สั่งให้แก้ แต่สั่งให้ทบทวน
นี่คือปัญหาบนยอดภูเขาน้ำแข็งของการบินไทย แต่คุณผู้อ่านคงเห็นแล้วว่านี่แค่เพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น แล้วปัญหาอื่นๆ อีกสารพัดเรื่องที่หมักหมมซุกซ่อนอยู่ที่ฐานของภูเขาน้ำแข็งจะน่าสะพรึงกลัวมากมายสักเพียงใด
นี่คือปมประเด็นสำคัญที่ต้องบอกว่า การบินไทยไปไม่รอดแน่นอน หากยังคงปล่อยให้ผู้บริหารที่ไม่ใช่มืออาชีพ ไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่มีจรรยาบรรณนักบริหาร ไม่ยึดมั่นในหลักคุณธรรม และไม่เคร่งครัดในหลักธรรมาภิบาล บริหารงานของการบินไทยต่อไป หรือว่าคนการบินไทยอยู่ได้ด้วยปาฏิหาริย์
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าวิกฤติในการบินไทยสามารถแก้ไขได้ แต่ต้องใช้ผู้บริหารมืออาชีพเท่านั้น และต้องใช้ผู้บริหารที่เคร่งครัดในหลักธรรมาภิบาล และหลักคุณธรรมโดยแท้จริง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี