สถานการณ์อุตสาหกรรมยาสูบและยาเส้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมายังคงได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการขึ้นภาษี ที่ทำให้บุหรี่ซองราคากระโดดพรวดพราดไปเกือบ
เท่าตัว จากราคาต่ำสุดซองละ 40 บาท เป็น 60 บาท ในขณะที่ยาเส้นก็โดนรีดภาษีเพิ่มขึ้นไปถึง 20 เท่า ยอดขายของการยาสูบแห่งประเทศไทย ที่เคยเป็นรัฐวิสาหกิจที่ส่งรายได้เข้ารัฐได้เป็นอันดับต้นๆ ก็ลดฮวบลงอย่างต่อเนื่อง จากผลกำไรปีละหมื่นกว่าล้านในอดีต หดลงเหลือไม่ถึง 900 ล้านบาทเมื่อปีที่ผ่านมา
ผลกรรมหนักสุดตกมาที่ชาวไร่ยาสูบ 5 หมื่นครอบครัว และชาวไร่ยาเส้นอีกกว่า 1 แสนครอบครัวที่ต้องโดนตัดโควตา ขายใบยากันไม่ได้ ชาวไร่สูญเสียรายได้เสริมหลังการทำนาหรือปลูกพืชหลักรวมๆ กันกว่า 2,000 ล้านบาททั่วประเทศ เรียกได้ว่าเกษตรกรชาวไร่ต้องกลายมาเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลเอง
ข้อเรียกร้องของเกษตรกรชาวไร่ยาสูบตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เพียงแค่ต้องการให้รัฐบาลไม่ขึ้นภาษีด้วยอัตราสุดโหดในคราวเดียว แต่อยากให้ค่อยๆ ทยอยขึ้นทีละน้อยๆ เพราะชาวไร่เองก็ต้องอาศัยเวลาปรับตัว แต่เสียงสะท้อนจากความเดือดร้อนของเกษตรกรกลุ่มนี้ก็เหมือนจะไปไม่ถึงฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายภาษียาสูบโดยตรง
กลายเป็นการเปิดพื้นที่ให้ฝ่ายตรงข้าม ต่างพรรค หวังครองใจเกษตรกรชาวไร่ เข้าไปชิงความนิยมแทนซึ่งก็มีตัวอย่างให้เห็นจากกรณีการขึ้นภาษียาเส้นมหาโหด 20 เท่า จนทำให้ชาวไร่ยาเส้นจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ได้รับผลกระทบจนต้องออกมาแห่โลงศพ เผาหุ่นฟาง ประท้วงรัฐบาล พร้อมเรียกร้องให้ท่านนายกฯพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชากระทรวงการคลัง และกรมสรรรพสามิตปรับลดภาษียาเส้นคืนและออกมาตรการเยียวยาให้ชาวไร่ในพื้นที่
แม้กรมสรรพสามิตจะออกมาประกาศลดภาษียาเส้นลงให้แล้วเหลือ 5 เท่าจากอัตราภาษีเดิม แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของชาวไร่ ซึ่งก็เป็นโอกาสให้นักการเมืองอื่น ลงพื้นที่รับฟังปัญหา ดูแลชาวไร่ พร้อมรับปากนำเรื่องเสนอต่อรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เร่งรัดแก้ไขปัญหา ด้าน สส. พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ปลูกยาสูบทางภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งปกติก็เป็นเจ้าของพื้นที่และมีความสัมพันธ์อันดีกับชาวไร่ยาสูบ-ยาเส้นมานานแล้ว ต่างก็ออกมาเป็นปากเสียงให้ชาวไร่ ลุกขึ้นพูดในสภา ยกความเดือดร้อนของชาวไร่ขึ้นมาอภิปราย
เหตุการณ์นี้คงกระทบกับเครดิตและความนิยมในพื้นที่ของพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาลไม่มากก็น้อย เพราะเกษตรกรชาวบ้านที่เลือกพวกท่านเข้ามา ก็หวังจะได้ตัวแทนที่มาทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียง ดูแลทุกข์สุขให้ ต้องการให้รื้อนโยบายที่ทำลายวิถีชีวิตการทำการเกษตรแบบดั้งเดิมของชาวบ้าน แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะบรรลุผล
งานนี้รัฐบาล โดยเฉพาะพลังประชารัฐ คงต้องรีบทำงานหนัก เร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนจากพี่น้องเกษตรกร ซึ่งยังพอมีเวลาเหลืออีกเดือนกว่าๆ ที่จะได้โชว์ผลงานก่อนปิดปี 2562 นโยบายภาษีที่สร้างผลกระทบต่อเกษตรกรชาวไร่ทั่วประเทศในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานแบบนี้ สมควรต้องได้รับการปรับเปลี่ยนแก้ไข กระทรวงการคลัง และกรมสรรพสามิตคงต้องมาทบทวนการขึ้นภาษียาสูบ 40% ในเดือนตุลาคมปีหน้า รวมถึงทำแผนการขึ้นภาษียาเส้น-ยาสูบใหม่ ที่เป็นการทยอยขึ้นแบบช้าๆ เพื่อให้ชาวไร่ได้มีโอกาสปรับตัวหรือพอจะทราบล่วงหน้าได้
อย่าลืมว่าชาวไร่ยาเส้น-ยาสูบเขายังรอดูท่าทีของรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ หากไม่รีบทำคะแนนตอนนี้เลือกตั้งท้องถิ่นหรือเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า พรรคอื่นอาจช่วงชิงพื้นที่ไปครองได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี